รายงานหน้า 2 : ‘ชัชชาติ’แถลงนโยบาย ไม่ทนโกง-โอนอ่อนทำผิด

รายงานหน้า 2 : ‘ชัชชาติ’แถลงนโยบาย ไม่ทนโกง-โอนอ่อนทำผิด

รายงานหน้า 2 : ‘ชัชชาติ’แถลงนโยบาย ไม่ทนโกง-โอนอ่อนทำผิด

หมายเหตุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แถลงนโยบายและเปิดตัวคณะผู้บริหารต่อข้าราชการและบุคลากรในสังกัด กทม. ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ก่อนอื่นต้องกราบเรียนพี่น้องประชาชน ปลัด กทม. รองปลัด กทม. หัวหน้าเขตทุกท่าน เราเดินมานานกว่า 2 ปี และวันนี้ก็ได้เดินต่อ ตอนนี้ดีใจที่มีเพื่อนร่วมเดินทางกับเราคือข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.ทั้งหมด

ต้องบอกก่อนว่า ผมไม่ใช่นาย ขอให้เรียกผมว่าอาจารย์ ผมอยากจะให้เราเดินไปด้วยกัน มีอะไรคุยกันได้ หลักการคือ มีอะไรพูดกัน ถ้าผมทำอะไรไม่เหมาะ และผมเองก็เป็นคนใหม่ของ กทม. ยกตัวอย่างเช่น นโยบาย 214 ข้อ ผมอยากให้ทุกคนอ่าน เพราะเราอยากได้ความเห็นของท่าน หากท่านมองว่านโยบายของเราทั้งหมดดี หรือไม่ดีอย่างไร ไม่ได้บอกว่าให้ท่านปฏิบัติตาม แต่อยากได้ความเห็นว่าควรจะปรับปรุงอย่างไร ผมคิดว่าหลายๆ ท่านรู้ดีมากกว่า และเราอาจจะเพิ่มเป็น 300 ข้อ ถ้าพวกเรามีพลัง แต่ผมเชื่อว่า 8 วันที่ผ่านมา ข้าราชการ กทม.มีคนเก่ง และคนที่พร้อมทำงานเพื่อประชาชนจำนวนมาก ทุกคนพร้อมที่จะมาลุยด้วยกัน โดยผมมาเป็นเพื่อนร่วมงาน ขอให้เดินไปด้วยกัน และมีอะไรพูดคุยกัน อย่าเก็บไว้ในใจ

Advertisement

ถ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่เหมาะสมต้องพูดออกมา ไม่งั้นเราอาจจะไปผิดทางได้ และเรื่องความโปร่งใส สุจริต ผมจะไม่ทนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งตอนนี้มีคนมาแอบอ้างชื่อแล้ว หากมีคนแอบอ้างว่าเป็นทีมงานอาจารย์ชัชชาติ ให้ทำอะไร ขอให้รู้ไว้ว่า นั่นไม่ใช่ผม ทีมงานของเราก็จะเป็นคนของเรา หากมีคนแอบอ้างขอให้แจ้งทีมงานทันที เพราะเรามาด้วยความโปร่งใส สุจริตจริงๆ เพราะอยากทำให้ กทม.มีชื่อเสียงว่าเป็นหน่วยงานที่สุจริต และผมเชื่อว่าทุกคนอยากทำงานให้โปร่งใส และความยุติธรรมในการแต่งตั้งที่เป็นธรรม คนเก่ง และคนที่ทำงานมีโอกาสจะเติบโตในหน้าที่ได้ ผมสัญญาว่าจะทำให้เป็นอย่างนั้น

ผมเป็นคนตื่นเช้าแต่ไม่ต้องกังวล ทุกคนก็ต้องทำกิจวัตรประจำวัน ขอให้ไม่ต้องทำตามผม แต่เวลาไปพื้นที่ไม่ต้องมาเยอะ มาเท่าที่จำเป็น หากผมถามว่ามาทำไม ก็ต้องตอบให้ได้ว่ามาทำไม ขอให้ที่เหลือทำหน้าที่ให้ประชาชนต่อไป และบางครั้งผมไปไหนจะไม่บอกล่วงหน้า ผมไม่ได้จะไปจับผิดอะไร แต่บางครั้งเกรงใจ เพราะอยากไปคุยกับประชาชนจริงๆ ว่าเขาอยากจะพูดอะไรกับเรา และเรื่องป้ายชื่อ ห้ามมีชื่อและรูปของผม เพราะเราไม่ต้องการประชาสัมพันธ์ตัวเอง และเราทำงานในนามของผู้ที่มารับใช้ประชาชน เพราะฉะนั้นไม่ต้องการเอาชื่อหรือรูปผมไปติดที่ไหน ขอให้ห้ามมี ไปไหนขอให้เรียบง่าย คนจำนวนน้อยๆ เวลาลงพื้นที่อย่าทำความเดือดร้อนให้ประชาชน คงมีโอกาสได้คุยกันอย่างละเอียดอีกที

นอกจากนี้ เราจะมีนโยบายที่จะเป็นผู้ว่าฯสัญจร ในการลงไปทุกเขต อาจจะเป็นวันทุกวันอาทิตย์ 1 ปี ก็อาจจะครบทั้ง 50 เขต แต่ขอให้ทางสำนักงานเขตไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกลัว ผมแค่ต้องการไปเยี่ยม ส่วนในเรื่องของเขต ผมคิดว่ามีนโยบายสำคัญที่อยากทำ คือ เรื่องปลูกต้นไม้ล้านต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเชื่อว่าสามารถเปลี่ยนกรุงเทพฯได้ อยากจะขอให้เขตช่วยดูว่าจะปลูกอย่างไรให้ได้เขตละ 20,000 ต้น อาจจะเป็นอาทิตย์ละ 100 ต้น รวม 4 ปี ก็ได้ 1 ล้านต้น เราจะมีโจทย์ให้แต่ละเขต ทั้งเรื่องของปลูกต้นไม้ จุดน้ำท่วมซ้ำซาก หาบเร่แผงลอย จุดรถติด จุดก่อสร้าง เราเป็นทีมงานเดียวกัน และจะมาช่วยกันแก้ปัญหาไป

Advertisement

ผมก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับพวกเราทุกคนนะครับ แล้วก็อย่างที่บอก ผมต้องการคำว่า ทำงานกับผม อย่าเก็บไว้ในใจ ถ้าผมทำอะไรไม่ดี ยกมือพูดได้เลย แต่ต้องมีเหตุผลนะ ต้องทำการบ้านมาบ้าง ให้พูดแลกเปลี่ยนกัน อย่าคิดว่าผมพูดอะไรไปต้องถูกเสมอ เรื่องอะไรเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย พูดแล้วจบ หาข้อยุติแล้ว เดินหน้าทำงานให้ประชาชนต่อ ผมคิดว่ามันเป็นหลักการโปร่งใสในหน่วยงาน และสุดท้ายจะได้งานที่สามารถเดินไปด้วยกันได้ แต่ทุกคนต้องกล้าพูดนะ เพราะฉะนั้น ผมไม่อยากเป็นนาย ถ้าเป็นเจ้านายจะมองว่าไม่กล้าพูด แต่ถ้ามองว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน จะสามารถพูดได้มากกว่า ผมเชื่อว่าหลายๆ เรื่องทุกคนเก่งกว่าผม ฉะนั้น ต้องช่วยกัน เราเป็นทีมเดียวกัน ฝากไว้แค่นี้

ขอบพระคุณประชาชนและสื่อมวลชน ก่อนอื่นคือต้องทำภารกิจแรกก่อน คือ การประกาศทีมงาน ผม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.คนที่ 17 สำหรับทีมงานผมคนแรก คือ 1.นายจักกพันธุ์ ผิวงาม ท่านเป็นลูกหม้อที่นี่ เคยเป็นรองปลัด กทม. และรองผู้ว่าฯกทม. ที่ผมเชื่อว่าพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ยืนยันในฝีมือและผลงาน

2.นายวิศณุ ทรัพย์สมพล เป็นวิศวกรโยธา ทำงานหลากหลาย และทำงานด้วยกันมานานเป็น 10 ปี เป็นคนที่เราไว้วางใจ ดูแลเรื่องผังเมืองและการโยธา โครงสร้างต่างๆ 3.น.ส.ทวิดา กมลเวชช คนนี้พวกเราชาว กทม.ก็น่าจะคุ้นเคยกัน เพราะท่านทำเรื่องภัยพิบัติ กลยุทธ์ต่างๆ และคนสุดท้าย 4.นายศานนท์ หวังสร้างบุญ น่าจะเป็นคนที่หนุ่มที่สุดในทีมงาน อายุเพียง 33 ปี ทำงานเรื่องชุมชน เอ็นจีโอ และสิ่งแวดล้อม เชื่อว่าจะเป็นไฟของคนรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาดูแลปัญหาต่างๆ ของเมือง

ส่วนที่ปรึกษาเรามี 9 ท่าน ที่บางท่านอาจจะไม่ได้มาในวันนี้ เริ่มจากท่านแรกคือ 1.นายต่อศักดิ์ โชติมงคล เป็นประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. เป็นรุ่นพี่ที่คณะผมเอง 2.นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ เป็นประธานด้านยุทธศาสตร์ จะมาช่วยผลักดันนโยบาย 214 ข้อของเรา ท่านจะเป็นคนที่ช่วยผลักให้ผลงานเป็นไปตามที่ประกาศไว้ ดูเรื่องกลยุทธ์ และการเงินว่าจะเอาเงินที่ไหนมาทำโครงการเหล่านี้ 3.พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ท่านเป็นผู้ที่มากด้วยประสบการณ์ในหลายๆ ด้าน 4.พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ไม่ได้มาในวันนี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข 5.พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี เป็นอดีตตำรวจที่เก่งเรื่องการท่องเที่ยว ประสานงานต่างๆ 6.น.ส.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ เคยรู้จักกันมานาน ประสานงานเรื่องการเมือง และเคยเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) มาก่อน ก็จะรู้จักหลายฝ่าย 7.นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ดูเรื่องการระบายน้ำ โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ 8.นายภาณุมาศ สุขอัมพร คนนี้เป็นตัวแทนคนพิการ มาดูแลเรื่อง Universal Design และ 9.นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมาดูเรื่องในหลายๆ นโยบาย เช่น เรื่องผู้ว่าฯเที่ยงคืน Creative Economy เศรษฐกิจสร้างสรรค์

ส่วนเลขานุการผู้ว่าฯกทม.คือ นายภิมุข สิมะโรจน์ ซึ่งทำงานการเมืองมานาน ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. ประกอบด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล น.ส.ศนิ จิวจินดา และนายจิรัฏฐ์ ม้าไว

วันนี้เป็นวันแรก ก็คงลุยงานกันเลย เพราะมีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องเร่งด่วน อย่างเรื่องน้ำท่วม มีแน่นอนเพราะเป็นช่วงหน้าฝน เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน ทางม้าลายต่างๆ มันยังคงมีปัญหาต่อเนื่องมา เรื่องหาบเร่แผงลอย นโยบายยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่มีการโอนอ่อนอะไร เพราะเราเห็นว่าเริ่มมีข่าวว่า มีการเข้ามารุกล้ำพื้นที่ทางเท้ามากขึ้น ก็ต้องเรียนท่านปลัด กทม.ว่า เรายังไม่เปลี่ยนนโยบาย ต้องหาข้อสรุปเรื่องหาบเร่ แผงลอย ให้ได้ จุดที่สมดุลอยู่ตรงไหน และเรื่องสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว พรุ่งนี้ (2 มิถุนายน) ก็จะเชิญทางบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด มาให้ข้อมูล คงต้องทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส และคงต้องมีรายละเอียดคุยกับทางรัฐบาลได้มากขึ้น

สำหรับเกณฑ์การเลือกทีมงานเข้ามาทำงานร่วมกัน ดูจากหลายมิติ ขอให้มีความหลากหลาย ทั้งในแง่ประสบการณ์ สิ่งแรกคือ ความโปร่งใส ซื่อสัตย์ สุจริต สิ่งนี้สำคัญที่เราไว้วางใจได้มีความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายกันไป แต่ยังมีอีกกลุ่มที่ยังไม่สรุปชื่อมา เป็นกลุ่มทางเทคนิค มีประมาณ 30-40 ท่าน แต่กลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มการเมือง เป็นกลุ่มนักวิชาการ จึงต้องรอสรุปส่วนนี้อีกครั้ง สรุปก็คือ จะมีทีมผู้บริหาร คือ กลุ่มรองผู้ว่าฯกทม. กลุ่มเลขานุการผู้ว่าฯกทม. คณะที่ปรึกษาทางการเมือง และกลุ่มที่ปรึกษาทางเทคนิค

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image