‘ชัชชาติ’ เผย เปิดศึกหลายด้าน มั่นใจจุดแข็งทีม ‘ทวิดา’ รองผู้ว่าฯ ฝากขรก. ‘อะไรเริ่มทำได้ ทำเลย’

ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

‘เราเปิดศึกหลายด้าน’ ชัชชาติเชื่อ ทีมมีจุดแข็ง-บาลานซ์ ‘ทวิดา’ รองผู้ว่าฯ ฝาก ขรก. อะไรทำได้ทำเลย

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ภายหลังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้ารายงานตัวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อรับตำแหน่ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 ของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ก่อนเดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) และร่วมพิธีมอบหมายงานในหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นั้น

ต่อมาเวลา 15.25 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) นายชัชชาติเดินทางไปสักการะ ศาลพระภูมิและศาลตายาย ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารสํานักการโยธา และพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ สัญลักษณ์ของ กทม. ที่บริเวณลานหน้าอาคารไอราวัตพัฒนา

ในตอนหนึ่ง เมื่อผู้สื่อข่าวถาม นายชัชชาติว่า ทีมงานมีแต่คนเก่งๆ แบ่งคอนเซ็ปต์ในการทำงานอย่างไรบ้าง ?

Advertisement

นายชัชชาติกล่าวว่า อาจารย์ทวิดา กมลเวชช เก่งเรื่องยุทธศาสตร์ ก็ดูเรื่องยุทธศาสตร์เพราะทำกับ กทม. มานาน, อาจารย์วิศณุ ทรัพย์สมพล ก็เก่งเรื่องโยธา ก่อสร้าง เพราะท่านก็เรียนเป็นอาจารย์ด้านวิศวกรรมโยธา การระบายน้ำ ส่วนท่าน จักกพันธุ์ ผิวงาม ก็เป็นลูกหม้อ กทม. มานานในเรื่องการเงิน ดูบุคลากร ดูความโปร่งใส ซึ่งจะช่วยให้เราเบางานไปเยอะ เพราะท่านรู้จักคนทุกคน ส่วน ศานนท์ หวังสร้างบุญ เป็นเด็กรุ่นใหม่อายุ 33 ปี แต่ลงชุมชนเยอะ เขารู้หมด ชุมชน NGO

“ผมว่าแต่ละคนมีจุดแข็ง และบาลานซ์ ที่ปรึกษาก็มีหลายท่าน มีทั้งท่านที่นั่งวีลแชร์ มีประสบการณ์ เป็นข้าราชการเก่า ผมว่าครบเครื่อง ครบถ้วน เดี๋ยวมีข้าราชการเก่งๆ ที่เราเลือก ทำงานประกบกันไป ส่วนที่ปรึกษาเทคนิคอีกประมาณ 30 กว่าคน จะรอเปิดตัวอีกที” นายชัชชาติกล่าว

Advertisement

เมื่อถามถึงการทำงานตลอด 1 เดือนนี้ จะเป็นอย่างไร มีทิศทางแบบไหน ?

นายชัชชาติเปิดเผยว่า ทุกอย่างเริ่มพร้อมกันหมด เพราะว่าแต่ละคนก็มีแนวทางของตัวเอง

“ศานนท์ก็ดูชุมชน อาจารย์ทวิดา ก็ดูสาธารณสุข งานไม่ได้เปิดฟร้อนต์เดียว เราเปิดศึกหลายด้าน ช่วงเริ่มต้นก็จะมีการวางแผน กำหนด KPI ตัวชี้วัด เป้าหมาย” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการเปิดตัวทีมรองผู้ว่าฯ และคณะที่ปรึกษาอีกว่า เป็นการสมดุลกัน ระหว่างบุคคลที่มีประสบการณ์มาก กับคนรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีทั้งความลึก มีทั้งอุดมการณ์ มีทั้งคนรุ่นใหม่ มีทั้งความหวัง นี่คือความง่ายของการเป็นอิสระ เพราะเราทุกคนสามารถเลือกด้วยตัวเองได้ เราเลือกได้ ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง

“คุณใหญ่ วิลาวัลย์ ธรรมชาติิ เคยเป็น ส.ก.พรรคเพื่อไทย ที่รู้จักกันเพราะเคยเรียนหนังสือด้วยกัน และเธอเป็นคนกว้างขวาง ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเลย

คุณภิมุข สิมะโรจน์เอง ก็เคยเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย มานานแล้ว และเป็น (อดีต) รองหัวหน้าพรรคกล้าด้วย ความจริงแล้ว 2 คนนี้ก็ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่นี่คือความหลากหลายของการเป็นอิสระ เราสามารถเลือกคนที่เราคิดว่าเหมาะสมได้ ผมว่าเป็นทีมที่คนเห็นแล้วน่าจะมีความไว้ใจ และน่าจะทำงานได้ดี” นายชัชชาติกล่าว

เมื่อถามว่า กทม. อยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล จะมีการทำงานร่วมกันอย่างไร?

นายชัชชาติเผยว่า ไม่เป็นไร เข้าใจบทบาทของตัวเอง และรู้ว่าอำนาจเราอยู่แค่ไหน

“เราก็ต้องสื่อสารกับมหาดไทย เพราะเขามีอำนาจควบคุมเรา แต่ขณะเดียวกัน เรื่องงบก็มีอำนาจพิจารณา ส่วนเรามีสภา (ส.ก.) ของเราเอง ในส่วนเชื่อมต่อ ก็มีเฉพาะบางเรื่องที่ต้องเชื่อมต่อ แต่ส่วนใหญ่แล้วเราก็สามารถมีอำนาจบริหารด้วยตัวเองได้ ก็บริหารตรงนี้ให้ดี และเราให้เกียรติซึ่งกันและกัน ที่ผ่านมาเราก็พยายามให้เกียรติทุกคน ทุกคนก็มีหน้าที่เป็นของตัวเอง ต้องคุยกัน ไม่ได้มีอะไรเลย เดินตามขั้นตอน ระเบียบปฏิบัติ” นายชัชชาติกล่าว

เมื่อถามว่า มองงบประมาณที่เหลือน้อย เป็นการถูกวางยาหรือไม่ ?

นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่เป็นไรครับ ตนว่าคงมีความจำเป็น งบที่เหลือจะไปโทษผู้บริหารเก่าไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากว่า เราตัดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไป เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ เงินหายไปหมื่นล้าน รัฐบาลไม่ได้ให้คืนมา เราไปโทษผู้บริหารเก่าไม่ได้ เพราะงบบน้อยจริง งบหลายอันถูกตัดไปแล้ว และมีเรื่องโควิด เรื่องอะไรด้วย

“ผมว่าทุกท่านก็ทำดีที่สุดแล้วในบริบทที่ตัวเองยืน ดังนั้นอย่าไปมองอดีต มองถึงอนาคต แต่เชื่อว่ามันมีช่องทางที่บริหารได้” นายชัชชาติระบุ

ด้าน ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. ดูแลด้านภัยพิบัติและสาธารณสุข เปิดเผยถึงการเลือกทีมคณะทำงานของนายชัชชาติ ว่า นายชัชชาติต้องการได้คนที่รู้การทำงานอยู่แต่เดิม รู้ปัญหาอยู่แต่เดิม

“ทีมงานของอาจารย์ชัชชาติทำข้อมูลไว้เยอะมาก เพราะฉะนั้น มันคือการเริ่มทำเลย ถ้าได้คนที่คุ้นเคย ได้ทีมที่พร้อม และตอนนี้เห็นจากการตอบรับของข้าราชการเมื่อสักครู่ ทุกคนยินดีมาก ทุกคนพร้อมที่จะพยายาม ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก ตอนนี้อะไรที่เริ่มทำได้ ก็เริ่มทำไปก่อนเลย อะไรที่สามารถทำให้เห็นผลได้ ข้อจำกัดที่มีอยู่ เรารู้อยู่แล้ว เจรจาและเริ่มทำให้มันเกิดขึ้นได้เลย” ผศ.ดร.ทวิดากล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมผู้บริหาร ของนายชัชชาติ ประกอบด้วย รองผู้ว่าฯ กทม. 4 คน คือ 1.นายวิศณุ ทรัพย์สมพล ดูแลด้านโครงสร้างพื้นฐาน 2. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม ดูแลด้านการเงิน การคลัง 3. น.ส.ทวิดา กมลเวชช ดูแลด้านภัยพิบัติและสาธารณสุข และ 4. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ ดูแลด้านการศึกษาและสังคม

ตำแหน่งคณะที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ประกอบด้วย 1. นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. 2.นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ 3. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก4. พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ 5.พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี 6. นางวิลาวัลย์ ธรรมชาติ 7.นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี 8.นายภาณุมาศ สุขอัมพร และ 9.นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์

ตำแหน่งเลขานุการ ได้แก่ นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. ประกอบด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล นางสาวศนิ จิวจินดา นายจิรัฏฐ์ ม้าไว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image