‘พิจารณ์’ ซัด กลาโหม จัดงบ ‘ไม่คุ้มค้า-ไม่ตอบโจทย์-ไม่โปร่งใส’ พบเกินครึ่งจ่ายเลี้ยงกำลังพล

‘พิจารณ์’ ซัด กลาโหม จัดงบ ‘ไม่คุ้มค้า-ไม่ตอบโจทย์-ไม่โปร่งใส’ พบเกินครึ่งจ่ายเลี้ยงกำลังพล จวก ทุกเหล่าทัพตีเนียน ขอเงินเป็นพันล้านแจงบรรทัดเดียว หวั่น เสียค่าโง่ลงทุนโครงการเรือดำน้ำ มึน ตั้งงบพัฒนาพื้นที่ซ้ำซ้อน อปท. ตัดถนน-ขุดบ่อกว่า 2 พันล้าน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท โดยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายงบกระทรวงกลาโหม

ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พยายามบอกว่า งบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด และพยายามใช้อย่างจำกัดเพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ที่อาจจะคาดไม่ถึง และบอกว่าเพื่อนบ้านมีการซื้อยุทโธปกรณ์ ทั้งหมดที่พูดมาก็เข้าทางตนทั้งหมด ปีนี้กระทรวงกลาโหมได้งบ 197,293 ล้านบาท นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีหลังการรัฐประหาร ที่กระทรวงกลาโหมได้รับงบน้อยที่สุด คือ 6.19% เมื่อเทียบกับงบประมาณแผ่นดินทั้งหมด เป็นเรื่องดี แต่เมื่อดูในรายละเอียดตนมี 3 คำ คือ ไม่คุ้มค่า ไม่ตอบโจทย์ และไม่โปร่งใส

เพราะแม้งบจะลดลง 2.17% จากปีที่แล้ว แต่งบรายจ่ายบุคลากรภาครัฐ เพิ่มขึ้น 2.3% เพราะลดเงินเดือน และบำนาญไม่ลง เพราะกองทัพมีนายพล และกำลังพลมากเกินไป พล.อ.ประยุทธ์เคยบอกจะลดนายพลลงภายในปี 2572 แต่ไม่เคยมีนโยบายเออร์ลี่ รีไทร์ คือปล่อยให้นายพลตายกันเอง พอมาปี 2566 หนักกว่าเดิม เพราะค่าเฉลี่ยงบบุคลากรของทั้งแผ่นดินเพิ่มขึ้นจาก 37% เป็น 40% เฉพาะกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นจาก 45% เป็น 54% หากดูเฉพาะกองทัพบกหนักสุด 52% เป็น 62%

Advertisement

นายพิจารณ์กล่าวว่า จากข้อมูลงบประมาณเล่มสีขาวคาดแดง ทำให้ทราบว่าเรามีงบบุคลากรที่ชื่อคล้ายกับที่อยู่ในรายจ่ายกับบุคลากรภาครัฐ ไปซ่อนในงบดำเนินงาน และงบรายจ่ายอื่น ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าตอบแทนด้านสาธารณสุข ค่าตอบแทนพิเศษสำหรับแพทย์ ค่าตอบแทนทหารเกณฑ์ ค่าตอบแทนทหารสามจังหวัดชายแดนใต้ ค่าตอบแทนอาสาสมัครทหารพราน และเบี้ยเลี้ยงทหาร รวมแล้วเป็นเงินกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท เฉพาะค่าเบี้ยงเลี้ยงทหาร และค่าตอบแทนทหารพรานก็ปาไป 1.65 หมื่นล้านบาท และต้องตกใจว่าเฉพาะกองทัพบกจาก 62% ดีดขึ้นไปเป็น 77%

หมายความว่าให้เงิน 100 บาทกับกองทัพบกไป เอา 77 บาทไปจ่ายค่าคน เหลือ 23 บาท เอาไปปรับปรุงยุทโธปกรณ์ และก่อสร้างอาคารสถานที่ราชการเพื่อฝึกซ้อมรบ และศึกษาของทหาร ตนไม่เข้าใจว่า งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับทหารเกณฑ์ มีความจำเป็นแค่ไหนจึงลดงบส่วนนี้ไม่ได้ เพื่อนำไปพัฒนาส่วนอื่นของกองทัพ ขอบคุณที่ลดงบแต่แอบงงเพราะ ตั้งแต่ 2564-2566 กองทัพลดงบการซื้ออาวุธไปกว่า 7.6 พันล้านบาท ทำให้ตนงงว่าตกลง พล.อ.ประยุทธ์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือสมุหกลาโหมสมัยอยุธยา ที่กำลังรวบรวมกำลังพล ทหารราบเอาไว้รบกับข้าศึก แล้วเราจะใช้งบประมาณให้คุ้มค่าอย่างไร ถ้านำเงินส่วนใหญ่ไปให้กับกำลังพล

นายพิจารณ์กล่าวว่า ส่วนการซื้ออาวุธของกองทัพอากาศ โดยงบซื้ออาวุธของปี 2564-2566 ลดลงเล็กน้อยเกือบ 10% โดยปีนี้ได้งบซื้ออาวุธทั้งหมด 10,692 ล้านบาท แต่พบว่า มีการออกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อปรับแก้วินัยการเงินการคลัง ว่า การก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ปีแรกต้องจ่าย 20% แต่ไปปรับแก้ ให้เหลือ 10% ทำให้จ่ายแค่ 1,230 ล้านบาท จึงต้องดาวน์น้อยแต่ผ่อนหนัก และผ่อนนาน ส่วนที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่าการซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 เป็นไปตามแผนสมุดปกขาว

Advertisement

เพื่อทดแทน F-16 โดยจะซื้อ 12 ลำ แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จำนวน 6 ลำ ตั้งแต่ปี 2566-2569 ระยะที่ 2 อีก 6 ลำ ท่านบอกว่าซื้อรวม 7.2 พันล้านบาท โดยจ่ายงวดแรก 700 กว่าล้านบาท แต่แผนคือซื้อทั้งฝูงบิน คำถามคือ จะซื้อกี่ลำกันแน่ และจะซื้อมือสองหรือไม่ เพราะราคามันถูก การพิจารณาการซื้อเครื่องบินรบต้องซื้อรวมกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท จึงต้องดูรายละเอียดดีๆ อย่าเพิ่งซื้อในรัฐบาลนี้ เพราะจะผูกพันรัฐบาลหน้า

นายพิจารณ์กล่าวว่า การซื้ออาวุธของกองทัพเรือ รวม 6,160 ล้านบาท พิจารณาค่าซ่อมมี 2 พันล้านบาท เพราะกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ที่ซ่อมรถบรรทุกคันละ 2 ล้านบาท แต่หากซื้อจะตกคันละ 2.1 ล้านบาท ส่วนการจ่ายโครงการผูกพันเดิม ซึ่งยอดลดลงเหลือ 2,039 ล้านบาท ที่คาดว่าอาจจะเป็นกรณีที่การได้เครื่องยนต์ไม่เป็นไปตามสัญญา ความจริงปีนี้ต้องมียอดจ่าย 9 พันล้านบาท มี 11 โครงการ โดยใน 2 โครงการ เป็นการซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ซึ่งตามข้อมูลยังไม่ได้จ่ายเงินดาวน์ ทั้งนี้ เรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ นายกฯบอกว่า ไม่ได้ก็ยกเลิกสัญญาและหาใหม่ หมายความว่าเรากำลังจะเสียค่าโง่หรือไม่ เพราะจะต้องมีการลงทุนเกี่ยวกับโครงการเรือดำน้ำ ซึ่งต้องใช้เงินกว่า 9 พันล้านบาท ถ้าไม่สามารถเจรจาได้ตามสัญญา เงินที่ลงทุนไปแล้วจะทำอย่างไร

นายพิจารณ์กล่าวว่า การตั้งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า เป็นการให้ความสำคัญกับงานวิจัย เพื่อผลิตอาวุธ และจำหน่ายอาวุธ แต่ปรากฏว่าล้มเหลว เพราะกระทรวงกลาโหมที่เป็นหน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อนไม่ค่อยซื้อของไทย ทั้งรถยานเกราะล้อยาง เสื้อเกราะกันกระสุน และหน้ากากกันสารพิษ ไม่รู้ว่าของต่างประเทศมันมีเงินทอนมากกว่าหรือไม่ ทั้งนี้ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ มีกฎหมายของตัวเองให้ร่วมทุนกับเอกชน แต่ไม่มีแนวคิดร่วมวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีเลย

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมควรจะทลายข้อจำกัดของผู้ผลิตอาวุธของไทย เพราะตอนนี้มีมาตรฐานมากมาย และเพิ่มต้นทุนผู้ประกอบการ หน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ภายใต้กำกับสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ต้องทำงานเชิงรุกมากกว่านี้ หรือโอนงานไปให้สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพจะดีกว่าหรือไม่

นายพิจารณ์กล่าวว่า กองทัพตั้งงบวิจัยไว้เพียง 1% และสถาบันเทคโนโลยีฯ ที่มีส่วนสำคัญกลับได้รับงบเพียง 500 ล้านบาท แต่หน่วยงานที่ได้มากกว่าคือ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ได้ 1,359 ล้านบาท งานวิจัย มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาขีดความสามารถ เพื่อไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศ เราจึงต้องเพิ่มงบวิจัยมากขึ้น โดยการตัดงบที่ไม่ตอบโจทย์ เช่น งบพัฒนาพื้นที่ ตามรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ อปท.มีหน้าทำเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่กลับได้งบปีละกว่า 3.2 พันล้านบาท โดย 2 พันล้านบาท หมดไปกับงบตัดถนน และขุดบ่อน้ำ ส่วนความไม่โปร่งใส พบว่าแจงรายละเอียดบรรทัดเดียว เช่น ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนส่งกำลังบำรุง ซ่อมบำรุงและผลิตเพื่อแจกจ่าย ที่มีในทุกเหล่าทัพ เป็นงบหลักพันล้านบาทแต่ไม่บอกรายละเอียด ซึ่งท่านก็ชี้แจงว่าไม่ได้เตรียมมา

สุดท้าย สภาไม่ได้ตรวจสอบ ทำให้เบิกจ่ายไม่ครบถ้วน ดังนั้น ในชั้น กมธ. ก็ขอให้เตรียมเอกสารมาด้วย และนอกจากนี้ยังมีเงินนอกงบประมาณ ที่ใช้ประโยชน์จากที่ดินราชพัสดุ ที่ไม่ได้นำมาเปิดเผย ได้เงินเยอะ แต่ไม่เคยนำเงินมาสมทบเลย ทั้งที่มี โรงแรม ที่พักตากอากาศ สนามกอล์ฟ สนามมวย และสนามม้า ตนจึงรับไม่ได้กับร่าง พ.ร.บ.งบ 2566 โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม วันนี้ เราไม่ได้พิจารณางบปีเดียว เพราะหากงบปีนี้ผ่านไป ก็มีโอกาสอยู่ยาว ตนจึงวิงวอนให้หยุดประยุทธ์วันนี้ อย่าปล่อยให้ชาติต้องเสียโอกาสไปอีก 2 ปีงบประมาณ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image