ชัชชาติ ควง ศานนท์ รองผู้ว่าฯ สำรวจสวนป้อมมหากาฬ มอบหมายภารกิจฟื้นฟูวิถีชีวิต
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน เวลาประมาณ 15.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินเท้าสำรวจรอบศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ประชาชนที่สัญจรไปมาเข้าไปขอถ่ายภาพกับนายชัชชาติตลอดเส้นทาง
ในตอนหนึ่ง นายชัชชาติแนะนำร้านอาหารในซอยสำราญราษฎร์ และร้านกาแฟที่กำลังจะเปิดใหม่โดยเจ้าของเป็นคนรุ่นใหม่ โดยกล่าวว่า เด็กรุ่นใหม่สามารถสร้างงานได้ด้วยตนเอง ต้องสร้างพื้นที่ให้มีโอกาสสร้างสรรค์ได้
ต่อมาเวลา 15.15 น. นายชัชชาติแวะ Once Again Hostel ซึ่งนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้ก่อตั้ง โดยมีครอบครัวของนายศานนท์พร้อมภรรยาอุ้มบุตรชายให้การต้อนรับ
จากนั้นนายชัชชาติและนายศานนท์ เดินเลียบกำแพงวัดเทพธิดารามฯ พร้อมแนะนำร้านอาหาร ร้านขายของชำ มุ่งหน้าสู่ถนนมหาไชย นายชัชชาติแวะร้าน ‘อู๋เย็นตาโฟ’ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทีมงานลืมจ่ายเงิน
“ซอยนี้อาหารอร่อยเยอะ เป็นผู้ว่าฯ ต้องอ้วนแน่ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟผมกิน 2 วันติดแล้ว เล้งก็อร่อย” นายชัชชาติกล่าว
นายศานนท์กล่าวว่า ซอยนี้มีครบทุกอย่าง ทางเดินเท้ามีจุดชำรุดอยู่บ้าง และมีจุดทิ้งขยะที่ต้องมีการออกแบบปรับปรุงใหม่
ต่อมาเวลา 15.25 น. นายชัชชาติ และนายศานนท์ เดินถึงถนนมหาไชย แวะทักทายพ่อค้าขายส้มตำไก่ย่างที่เคยอาศัยอยู่ในชุมชนป้อมมหากาฬ โดยหลังจากโดนไล่รื้อก็ยังคงอาศัยอยู่บริเวณนี้ จากนั้น เดินเข้าสู่สวนสาธารณะป้อมมหากาฬ พร้อมเล่าว่าอดีตเป็นชุมชนแต่ถูกไล่รื้อซึ่งนับเป็นบทเรียน
“เป็นบทเรียน ชุมชนที่มีค่า บางทีกทม.ต้องเข้าไปดูแลก่อนที่จะเสื่อมโทรมมาก” นายชัชชาติกล่าว ก่อนเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อนว่า ตนเจอหญิงสูงอายุ 3 คน นั่งในสวนสาธารณะป้อมมหากาฬ ต่างคนต่างอยู่กระจัดกระจาย แต่ยังคิดถึงพื้นที่ จึงนั่งรถเมล์มา มาคุยกันแล้วแยกย้ายกลับ
จากนั้นนายศานนท์เล่าว่า ก่อนหน้าถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ หลังกำแพงป้อมฯ มีบ้านไม้โบราณหลายหลัง อายุตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ควรเก็บไว้ แต่ถูกรื้อถอนไปแล้ว เมื่อเป็นสวน ก็ค่อนข้างตัดขาดจากภายนอก เพราะมีกำแพงสูงกั้นอยู่
นายชัชชาติกล่าวว่า พื้นที่ดูเหงา ไม่มีชีวิตชีวา แต่มีหลายคลองล้อมรอบ เป็นพื้นที่ที่มีคุณค่า เจอชาวบ้านเขาขอเครื่องออกกำลังกาย และล่าสุดมีการรื้อห้องน้ำออกไป
นายชัชชาติกล่าวว่า ย่านนี้มีเรื่องราวมากมายที่เป็นอัตลักษณ์ ชาวบ้านจำนวนมากต้องเสียสละพื้นที่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม อดีตผ่านไปแล้ว เป็นบทเรียนมองถึงอนาคตว่าจะทำพื้นที่อย่างไรให้มีคุณค่า ทำอย่างไรให้เป็นแหล่งวัฒนธรรม แหล่งการเรียนรู้ ดังนั้น จึงต้องดึงนายศานนท์มาด้วย
ต่อมา นายชัชชาติเยี่ยมชมอาคารและท่าเรือพระยาญาณประกาศ สมัยรัชกาลที่ 6 โดยมีแผนฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นำคนในชุมชนมาเปิดร้านขายของสร้างรายได้ ให้มีกิจกรรมในสวน ต้องให้คนรุ่นหลังดูแล โดยฝากภารกิจนี้ให้นายศานนท์
“การต่อสู้ไม่ได้สิ้นสุดลง ต้องเดินต่อทำพื้นที่ให้มีประโยชน์ ให้คนกรุงเทพฯใช้ประโยชน์ ให้กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่มีคุณค่า สร้างให้คนมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ใช่แค่ว่าปลูกต้นไม้ ต้องทำให้มีเนื้อหา มีกิจกรรม มีชีวิตให้คนเข้ามาอยู่ด้วย” นายชัชชาติกล่าวและสอบถามนายศานนท์ว่า ทำได้หรือไม่?
นายศานนท์กล่าวว่าได้ ทั้งคู่พร้อมจับมือสัญญาด้วยกัน
“ศานนท์เป็นคนรุ่นใหม่ที่เป็นความหวัง ต่อสู้เพื่อชุมชนมามาก อดีตไม่เป็นไรเป็นบทเรียน อนาคตทำให้ดีกว่านี้” นายชัชชาติกล่าว
จากนั้น เมื่อเวลา 15.40 น. นายชัชชาติเดินทางกลับ