สวทช. อ้างทดสอบ GT200 เอง ถูกกว่าส่งตปท. อ.เจษฎา สวน เมืองนอกคงไม่เสียเวลาตรวจ

สวทช. อ้างทดสอบ GT200 เอง ถูกกว่าส่งตปท. อ.เจษฎา สวน เมืองนอกคงไม่เสียเวลาตรวจ

เมื่อเวลา 20.22 น. วันที่ 4 มิถุนายน เฟซบุ๊กเพจ NSTDA – สวทช. ได้เผยแพร่แถลงการณ์ “สวทช. ยืนยันตรวจทดสอบ GT200 ตามหลักมาตรฐานสากล” โดยระบุว่า 

ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหน่วยให้บริการ ซึ่งดำเนินการวิเคราะห์ ทดสอบ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้มาตรฐานสากล ได้รับการประสานจากกรมสรรพาวุธทหารบก เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องตรวจจับสารเสพติด อาวุธ และวัตถุระเบิด (GT200) ทุกเครื่องทั้ง 757 เครื่อง ว่าใช้งานได้หรือไม่ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ รวมถึงการผ่าพิสูจน์เครื่อง เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญประกอบการดำเนินคดีปกครอง การทดสอบจึงต้องดำเนินการตามหลักการทดสอบทุกรายการที่มีการดำเนินการทดสอบเครื่อง GT200 และใช้เป็นบรรทัดฐานของข้อมูลประกอบการพิจารณาคดีก่อนหน้านี้

การดำเนินการทดสอบทุกรายการต้องดำเนินการตามหลักการที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน และเชื่อถือได้ในชั้นการพิจารณาของศาล ทั้งการตรวจวัดไฟฟ้าสถิต การแพร่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การวัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง รวมถึงการผ่าพิสูจน์เครื่อง

สำหรับค่าบริการทดสอบทั้งหมด ศูนย์ PTEC คำนวณจากการใช้วัสดุและอุปกรณ์ทดสอบ ห้องปฏิบัติการทดสอบ ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการใช้สารเสพติดและวัตถุระเบิดในการทดสอบ เพื่อให้ได้คุณภาพของผลการทดสอบตามเอกสารว่าจ้างที่ระบุทุกรายการ ทั้งนี้ ค่าบริการดังกล่าวมีราคาถูกกว่าการทดสอบโดยห้องปฏิบัติการต่างประเทศ

Advertisement

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สวทช. ปฏิบัติหน้าที่ในทุกภารกิจบนหลักวิชาการและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพบนพื้นฐานในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ และขอยืนยันเจตนารมณ์ในฐานะองค์กรวิจัยและพัฒนาที่จะใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือ  รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ดังกล่าว ด้วยว่า

Advertisement

“ความตลกของเรื่องนี้ก็คือ ทางศูนย์พีเทคของ สวทช. ได้เคยช่วยตรวจเครื่องตัวอย่างของ gt200 และพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า มันไม่ได้มีประจุไฟฟ้าหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาจากเครื่อง ซึ่งแสดงถึงการเป็นเครื่องที่หลอกลวง เสร็จตั้งแต่การทดสอบโดยคณะกรรมการทดสอบฯ ในช่วงปี 2553 แล้ว

ซึ่งผลการทดสอบดังกล่าวก็ได้สามารถนำไปใช้ในการกล่าวหาดำเนินคดีกับบริษัทผู้ขาย และตัดสินคดีจนชนะ ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไปแล้ว
รวมถึงการเอาผลนี้ ไปใช้ในการไต่สวนของ ปปช. จนสามารถชี้มูลความผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างได้นับร้อยคน
ซึ่งทั้งกระบวนการที่ดำเนินงานนี้ก็เป็นช่วงกว่า 10 ปีแล้ว ทาง สวทช. น่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนและกล้าประกาศให้กับสังคมรับรู้กันโดยทั่วไปว่าเครื่อง gt200 เป็นแค่กระป๋องพลาสติกเปล่าๆ ที่หลอกลวงประชาชนและหน่วยงานต่างๆ
ซึ่งแทนที่จะให้คำแนะนำกลับไปกองทัพ ว่าไม่จำเป็นจะต้องตรวจสอบเครื่องทั้ง 757 เครื่องนี้อีก กลับรับงานตรวจสอบ ที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องเสียงบกว่า 7.57 ล้านบาทนี้ เสียเวลาเจ้าหน้าที่พีเทคที่จะทำงานอื่นๆ และสุ่มเสี่ยงจะทำให้สังคมรวมทั้งกองทัพเชื่อว่าอาจจะมีเครื่องบางเครื่องที่สามารถทำงานได้จริง จึงนำมาตรวจสอบหา
ผมก็คงได้แค่บ่นแหละ เดี๋ยวเรื่องมันก็เงียบๆ เนียนๆ กันไปเองอย่างที่เป็นมา หึๆ
ปล. ที่อ้างว่าการทดสอบโดยศูนย์พีเท็กมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าในต่างประเทศนั้น .. จริงๆ ต่างประเทศเขาไม่มาตรวจสอบอะไรอย่างนี้ให้เสียเวลาหรอกครับ เปิดแงะออกมาดูว่าข้างในเป็นกล่องพลาสติกเปล่าๆ กลวงโบ๋ เขาก็ฟ้องศาลกันแล้ว ไม่มีใครมาจินตนาการฝันไปแล้วว่ามันอาจจะสามารถทำงานได้ด้วยฟิสิกส์ควอนตั้มขั้นสูง ที่นักวิชาการบางคนแอบอ้าง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image