เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน เวลา 16.00 น. ที่แยก ณ ระนอง เขตคลองเตย ห้าแยกจุดตัดระหว่างถนนรัชดาภิเษก, ถนนพระรามที่ 3, ถนนสุนทรโกษา และถนน ณ ระนอง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่จากการร้องเรียนของประชาชนเพื่อตรวจสอบโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยก ณ ระนอง ที่ล่าช้า พร้อมด้วยนายมนูศักดิ์ บินยะฟัล รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา และคณะ
นายชัชชาติกล่าวว่า บริเวณนี้คือจุดที่ประชาชนร้องเรียนเรื่องการก่อสร้างที่ล่าช้า เมื่อเปรียบเทียบกับถนนรัชดาภิเษกเป็นถนนที่ให้ผ่านตลอด ไม่ต้องมีไฟเขียวไฟแดง ต้องทำอุโมงค์หลายๆ จุดที่ฝั่งธนแยกไฟฉาย ท่าพระ เส้นวงแหวนชั้นใน แต่จุดนี้เป็นจุดที่ยังมีจุดตัดอยู่ จึงต้องทำทางยกระดับยาว 2 กิโลเมตร เพื่อไปเชื่อมกับสะพานเดิมที่ข้ามพระราม 4 กล่าวคือของเก่ายังใช้อยู่มาเชื่อมกับของที่ทำใหม่
“เผอิญมีถนนหลายเส้น มีถนนรัชดาภิเษกเข้าและออก 2 แยก ถนนสุนทรโกษา เข้ากับออกรวมเป็น 4 และถนน ณ ระนองอีก 1 รวมเป็น 5 แยก และมีทางรถไฟอีก แล้วดูทางที่ตัดจะเห็นว่ามีจุดที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ถ้าไม่มาก็ไม่เห็น มันคือจุดที่ทำให้ต้องชะลอ มอเตอร์ไซค์ ก็อันตราย“ นายชัชชาติกล่าว
นายมนูศักดิ์กล่าวว่า เดิมสร้างช่วงปี 2561 หมดสัญญาประมาณเดือนมีนาคม 2564 ประมาณ 3 ปีเศษ แต่มีอุปสรรคเรื่องการขอใช้พื้นที่สะพานข้ามเชื้อเพลิงของการรถไฟ และช่วงยกสะพานข้ามทางด่วน
นายชัชชาติกล่าวเสริมว่า ถนนเส้นนี้เป็นช่วงยกสะพานข้ามทางด่วนขั้นหนึ่งที่วิ่งไปทางพระราม 9 และความล่าช้าคือการประสานงานขอเข้าพื้นที่ ล่าช้าจากมีนาคม 2564 โดยเส้นสะพานข้ามแยกหลัก ณ ระนอง ในเดือนธันวาคม 2565 เหลือเวลาอีก 6 เดือน
ต่อมาเมื่อนายชัชชาติสอบถามว่ามีอะไรที่จะทำให้เป็นอุปสรรคอีกหรือไม่ หากประเมินความเสี่ยงซึ่งทำให้ไม่เสร็จตามกำหนดการ นายมนูศักดิ์ตอบว่า ทางผู้รับจ้างมีปัญหาเรื่องแรงงานจากสถานการณ์โควิด และเรื่องอื่นๆ ซึ่งมีการผ่อนผันให้การก่อสร้างล่าช้าบ้าง แต่หลังจากนี้คงไม่มากแล้ว โดยเส้นสะพานข้ามถนนเชื้อเพลิง และเส้นสะพานข้ามแยก ณ ระนอง จะเสร็จเดือนสิงหาคม 2565
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า เรื่องโควิดอย่าให้เป็นข้ออ้าง เพราะส่งผลต่อเศรษฐกิจมาก ขอให้ระดมแรงงานดำเนินการให้เสร็จภายในธันวาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา นายชัชชาติได้เดินเท้าไปยังสะพานที่ยังเปิดใช้งานไม่ได้เนื่องจากการก่อสร้างสะพานอีกระดับที่ทับซ้อนกันอยู่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ และยังพบปัญหาการตีวงโค้งทางแยกที่นายชัชชาติแนะนำว่าควรเบี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยขณะเดินขึ้นไปบนสะพานมีประชาชนที่อยู่ด้านล่างสะพานตะโกนเรียก นายชัชชาติจึงโบกมือให้พร้อมกล่าว ‘สวัสดีพวกเรา’
“เดี๋ยวเราต้องไล่ตามกัน ต้องโหดๆ กับผู้รับเหมาหน่อย อันดับแรกคือทางรถไฟที่ขรุขระและเปิดทางสัญญาณใหม่ แนวโค้งปาดให้มากขึ้น จะได้ตีวงง่ายขึ้น” นายชัชชาติกล่าว
ทั้งนี้ นายชัชชาติได้ถามนายตำรวจจราจรคนหนึ่งว่ามีปัญหาอะไรบริเวณนี้บ้าง มีรถติดหรือไม่ นายตำรวจจราจรกล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร มีรถติดในช่วงเร่งด่วน และโรงเรียนอยู่ใกล้บริเวณนี้ทำให้รถติดในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งหลัง 08.00 น. ก็ไม่มีรถติดแล้ว
จากนั้นนายชัชชาติได้ไปดูบริเวณแยกที่มีปัญหารถจักรยานยนต์ย้อนศร และเกิดอุบัติเหตุบ่อย ก่อนกล่าวว่า ”จราจรปวดหัวน่าดูเลย” ก่อนฝากช่วยดูเรื่องนี้ด้วย
“ยืนยันสิงหาคมเปิดเส้นนี้ เดี๋ยวเรามารอดูกันว่าทำได้ตามสัญญาไหม และธันวาคมเสร็จหมด ขอให้พี่น้องอดทนนิดหนึ่ง เดี๋ยวจะมาเร่งให้ทุกเดือนเลยว่าเป็นอย่างไร แต่ในช่วงชั่วคราวก็จะดูในพื้นที่จราจรกับผิวให้ และทุกโครงการ” นายชัชชาติกล่าว
