“อนุ กมธ.ปาล์มน้ำมัน” จี้ รัฐสร้างโรงงานผลิตปุ๋ย แก้ปัญหาปุ๋ยขาดแคลนในประเทศ แนะ เร่งเจรจากัมพูชาขอขุดเจาะก๊าซธรรมชาติกลั่นเป็นปุ๋ย
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 10 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเรื่องราคาปุ๋ยแพง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มสูงขึ้น และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นประเทศส่งออกปุ๋ยยูเรียรายใหญ่ของโลก ทำให้ไม่สามารถส่งมายังประเทศไทยได้ ส่งผลให้ปัจจุบันประเทศไทยขาดแคลนปุ๋ย รวมถึงส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อน ทั้งนี้ ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตปุ๋ยยูเรียและโพแทสเซียม แต่นโยบายของรัฐบาลกลับไม่สนใจที่จะทำ ฉะนั้น จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดการสร้างโรงงานปุ๋ยยูเรียและโรงงานผลิตปุ๋ยโพแทสเซียมให้เร็วที่สุด เนื่องจากเรามีสินทรัพย์โพแทสเซียมในแหล่งแร่พื้นที่ จ.ชัยภูมิ, จ.อุดรธานี และ จ.นครราชสีมา กว่า 4 แสนล้านตัน แต่เพราะเหตุใดทำไมเราจึงต้องนำเข้าปุ๋ยโพแทสเซียมทุกปี ถึงปีละประมาณหลายล้านตัน
นายวีระกรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ปุ๋ยยูเรียเป็นปุ๋ยที่สำคัญและเกษตรกรใช้ประมาณ 60% ของปุ๋ยทั้งหมด โดยเมื่อปีที่แล้วราคาปุ๋ยอยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่ขึ้นมา 3 เท่า การที่ราคาปุ๋ยขึ้นเป็น 3 เท่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่รัฐบาลไทยจะพิจารณาอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเร่งรัดให้มีการสร้างโรงงานปุ๋ย ซึ่งท่านสามารถปรับนโนบายต่างๆ ได้ หากมีความตั้งใจที่จะสร้างโรงงานปุ๋ย หรืออีกแนวทางหนึ่งที่สามารถทำได้คือ เร่งเจรจากับประเทศกัมพูชา ซึ่งมีพื้นที่รอยต่อระหว่างไทยและกัมพูชาอยู่บริเวณอ่าวไทยติดกับแหล่งก๊าซเอราวัณ ซึ่งเราใช้อยู่ในขณะนี้ ก็มีศักยภาพที่จะมีก๊าซธรรมชาติเหลือมากลั่นเป็นก๊าซมีเทนที่เป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตปุ๋ยยูเรีย
