09.00 INDEX อำนาจ ประยุทธ์ จันทร์โอชา อำนาจ ประวิตร วงษ์สุวรรณ
หากการโยนหินถามทางในเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรุกเข้าไปเป็น “สมาชิก” และทะยานเข้าสู่ตำแหน่ง “หัวหน้าพรรค” พลังประชารัฐเป็นจริง
นั่นหมายความว่าการเดินเกมในแบบ “แยกกันเดิน รวมกันตี” ในกาลอดีตได้จบสิ้นไปโดยพื้นฐาน
ความหมายคือ กลุ่ม “3 ป.” ต้องผนึกและสร้างเอกภาพใหม่
นั่นก็คือ เป็นเอกภาพภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างค่อนข้างเบ็ดเสร็จ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นส่วนเสริมที่เหมาะสม
นับแต่รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา กลยุทธ์ ของ “3 ป.” ก็คือ ในทางการเมืองเป็นงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ การบริหารเป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
กระนั้นความอ่อนไหวเป็นอย่างยิ่งก็คือ ยิ่งอำนาจการเมืองเป็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยิ่งสร้างพลานุภาพให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มากขึ้นเป็นลำดับ
ผลดำเนินไปในด้านที่บั่นทอนอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงมีความจำเป็นต้องปรับขบวน ปรับกลยุทธ์
คำถามอยู่ที่ว่าหลังสถานการณ์เดือนกันยายน 2564 ปะทุขึ้นยังมีความจำเป็นต้องใช้กระบวนการของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในทางการเมืองอยู่อีกหรือไม่
เพราะเด่นชัดว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่ปฏิเสธ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยิ่งมอบความไว้วางใจให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในบทตัวเชื่อม ยิ่งทำให้อำนาจทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ มีมากเป็นทบเท่าทวีคูณ
ผลที่เหนือความคาดหมายก็เท่ากับเป็นการบั่นทอนอำนาจ และบารมีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ไปโดยอัตโนมัติ
คำถามจึงอยู่ที่ว่าการจัดดุลระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดำเนินไปอย่างไร
เวลาที่เหลืออยู่ก่อนหมดสมัยของรัฐบาลในเดือนมีนาคม 2566 เป็นเวลาที่ไม่มากนัก จึงมีความจำเป็นที่ภายใน “กลุ่ม 3 ป.” ต้อง หวนกลับมาทบทวนกันอย่างจริงจัง
นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะยึดกุม “พลังประชารัฐ” ต่อไปอีกหรือไม่
และการยึดกุมนั้นจะอยู่ในกำมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือในกำมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์สุวรรณ
ความชัดเจนในเรื่องนี้สำคัญและมีความเร่งด่วนเป็นอย่างสูง
