‘มีชัย’ ขุดจุดเด่น โชว์ เป็นรธน.ฉบับก้าวหน้า-สากล ตามวิถีตัวเอง

“มีชัย” โชว์ 6 ประเด็น ร่างรธน.ก้าวหน้า เหน็บ “มะกัน” ไทยไร้เหยียดผิว แล้วจะใส่ทำไม สอน จะเป็นสากลหรือไม่ ต้องแก้ปัญหาตามวิธีตัวเองได้

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา 2 คณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดงานสัมมนาหัวข้อ “บทบาทของผู้หญิงกับร่างรัฐธรรมนูญใหม่” โดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า บางคนอ่านร่างรัฐธรรมนูญเพียงบางช่วงแล้วรู้สึกว่าครอบคลุมไม่ถึงที่ตัวเองต้องการ แต่ถ้าอ่านครบจะรู้ว่าครอบคลุมพอสมควรแล้ว ชึ่งการเหลือเวลาทิ้งไว้เดือนเศษ เพราะสติปัญญาคนเขียนร่างทั้ง 21 คนคงได้เท่านี้ จึงต้องฟังคนอื่นด้วยเพื่อจะได้นำกลับไปคิดต่อ ทั้งนี้ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าของร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องแรก สิทธิและเสรีภาพของสังคมไทยจะกว้างขวางขึ้น อะไรที่เป็นเรื่องสำคัญจะกำหนดเป็นหน้าที่ของรัฐ ใครมาเป็นรัฐบาลต้องทำ ที่ห่วงกันว่าถ้ารัฐบาลไม่ทำจะเป็นอย่างไร คำตอบคือเอารัฐบาลนั้นออกหรือฟ้องร้องได้ อีกทั้งในร่างรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติว่า ใครดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงองค์กรอิสะ หากจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญก็ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำหน้าที่สอบได้ หากพบว่ามีมูลต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือออกจากตำแหน่ง ผลที่ได้แรงกว่า การที่บอกว่าประชาชนมีสิทธิเรื่องต่างๆ นอกจากนี้ในร่างรัฐธรรมนูญนี้ยังใส่ความก้าวหน้าให้ประชาชนได้ประโยชน์ และไม่ไห้ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมด้วย รวมถึงการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร

นายมีชัย กล่าวต่อว่า เรื่องที่สอง การใช้สิทธิเสรีภาพที่ต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องหนัก แต่เป็นของจำเป็นของคนที่อยู่ในสังคมร่วมกัน เพราะขณะนี้นับวันสังคมไทยมุ่งไปในทางวัตถุไม่ค่อยคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของคนอื่นเท่าไร เรื่องที่สาม การสร้างความเป็นธรรมทางการเมือง โดยเฉพาะการใช้สิทธิเลือกตั้ง เราบ่นตลอดว่าในระบอบประชาธิปไตยเราได้ใช้สิทธิเพียง 2 วินาที ในการหย่อนบัตร ด้วยระบบเลือกตั้งแบบเดิมคะแนนเสียง 40 เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศจะหายไป การใช้บัตรใบเดียวแล้วเอาคะแนนทั้งประเทศมาวัดว่าแต่ละพรรคพรรคจะได้ส.ส.กี่คน เป็นการยอมรับนับถือทุกคะแนนเสียง ส่วนข้อกล่าวหา การบัญญัติให้พรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯ 3 คน เป็นการเตรียมคนนอกเป็นนายกฯ คงไม่ใช่แบบนั้น เพราะคนเสนอชื่อนายกฯคือพรรคการเมืองเอง ไม่มีใครเอาปืนมาจี้ให้เสนอ หรือหากกลัวใจอ่อนเพราะมีคนเอาปืนมาจี้ ก็ไปเขียนในข้อบังคับพรรคกันเองได้

นายมีชัย กล่าวต่อว่า เรื่องที่สี่ เป็นหัวใจสำคัญ เป็นไฟต์บังคับของรัฐธรรมนูญชั่วคราว นั่นคือ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ขจัดคนไม่ดีทุจริตให้ออกจากวงการเมืองตลอดชีวิต กรธ.ได้สร้างกลไกสกัดตั้งแต่ไม่ให้คนที่มีประวัติในทางทุจริตประพฤติมิชอบเข้ามาสมัคร และเป็นกลไกตรวจสอบว่าหากดำรงตำแหน่งอยู่แล้วกระผิดต้องพ้นจากตำแหน่ง ส่วนการถอดถอนที่ให้โหวตคะแนนว่าให้ออกหรือไม่คงไม่ถูกต้อง ถ้าทำผิดต้องรับผลกรรมไม่ใช่ลงคะแนนว่าจะอยู่หรือไป เพราะคนไทยเวลาโหวตเต็มไปด้วยพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา คือวางเฉยไม่ลงคะแนน จึงไม่เคยถอดถอนได้ ถ้าเป็นที่ยุติแล้วว่ามีการทำผิดก็ไม่ต้องโหวต แต่ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งทันที นอกจากนี้ยังกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ ทั้งนี้ ข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า กรธ.บัญญัติให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญกว้างขวางเกินไปนั้น ร่างรัฐธรรมนูญนี้ให้อำนาจไว้ 16 อย่าง เหมือนปี 40 และ50 เว้นแต่กรณีที่ให้อำนาจวินิจฉัยว่าองค์กรอิสระใดประพฤติผิดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรงก็ให้พ้นจากตำแหน่งไป โดยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับเดิมๆ ไม่มี

Advertisement

“ส่วนข้อกังขาว่า ร่างนี้ไม่ให้ส.ส.ช่วยประชาชน ถือเป็นการบิดเบือน เพราะรัฐธรรมนูญ 40-50 เขียนว่าการพิจารณางบประมาณแผ่นดินประจำปี ห้ามไม่ให้ส.ส. ส.ว.กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในการนำเงินไปใช้ ซึ่งในอดีตจะใช้วิธีการแปรญัตติ เป็นการร่วมมือกันทำผิดรัฐธรรมนูญทุกองคาพยพ กรธ.จึงเติมว่าถ้าทำแล้วจับได้ ต้องพ้นจากตำแหน่งหมดทุกคน เพราะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ส.ส.ช่วยราษฎรได้ แต่ห้ามไม่ให้แปรญัตติเข้ากระเป๋าตัวเอง รวมถึงเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน ถ้ายังไม่อุ่นใจเราจะไปทำให้อุ่นใจ ตรงไหนใส่เพิ่มในร่างรัฐธรรมนูญได้เราจะไปใส่ไม่ใช่ปัญหา” ประธาน กรธ.กล่าว

นายมีชัย กล่าวอีกว่า เรื่องที่ห้า การมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งกำลังมีปัญหา เพราะชุมชนรู้สึกไม่สบายใจ เพราะกรธ.เขียนเรื่องดังกล่าวไว้หลายแห่ง โดยไม่ได้เขียนไว้เฉพาะที่เฉพาะทางเหมือนรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ซึ่งตนก็รับรู้ แต่ก็พยายามอธิบาย แต่ทางภาคประชาชนก็ยังไม่อุ่นใจ จึงจะพยายามใส่ให้เท่าที่จำเป็น และในประเด็นสุดท้าย ในเรื่องการบริหารบ้านเมืองที่จะทำให้มีการเมืองโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งมีพรรคการเมืองบิดเบือนว่า กรธ.วางกรอบการทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้บริหารงานได้ไม่เต็มที่นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะด้วยกลไกที่กรธ.วางไว้จะช่วยให้การบริหารบ้านเมืองของรัฐบาล มีกรอบ มีวินัย พอสมควร ไม่ได้สกัดไม่ให้เขาทำอะไรตามนโยบายของเขาได้ เรื่องที่แปลกไปจากรัฐธรรมนูญอื่น

“มีคนถามว่ารัฐธรรมนูญเราเป็นสากลหรือไม่ ผมก็บอกว่าเป็น รัฐธรรมนูญที่เป็นสากลต้องแก้ปัญหาของแต่ละประเทศตามวิถีทางของตัวเอง หลายเรื่องที่ไอ้กันโวยวายแทบกันเป็นแทบตาย แต่เราไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร เราก็ไม่ได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ เช่น เรื่องสีผิว เพราะคนอเมริกันเป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องนี้มาก จึงต้องเขียนเรื่องนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ประเทศอื่นเขาไม่เดือดร้อน ประเทศไทยก็ไม่มี แล้วก็ไม่เคยได้ยินว่าการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของคนไทยมีเรื่องสีผิวด้วย มีแต่สีคนไทย” นายมีชัยกล่าวและว่า ที่ผ่านมาเวลาครม.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะให้อยู่ไปก่อนจนกว่าจะมีชุดใหม่ทำหน้าที่ แต่เรายังไม่เคยคิดว่าถ้าพ้นทั้งคณะเพราะเรื่องทุจริต แล้วจะให้ครม.นั้นรักษาการอย่างนั้นหรือ ตนคิดว่าไม่ควร ถ้าพ้นเพราะทุจริตจากหน้าที่ครม.ชุดนั้นควรพ้นไปเลย กรธ.จึงไปนำแนวคิดของร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มาว่าในช่วงช่องว่าง 5-10 วันหลังพ้นหน้าที่ก็ให้ลัดกระทรวงดูแลไปก่อนได้ครม.ชุดใหม่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image