“ส.ว.” จี้ “นายกฯ” ออกมติ ครม. ตรา พ.ร.ก.อุดช่องว่างใช้กัญชาเสรี ไร้การควบคุม แนะ อย่าฟังแพทย์การเมือง

“ส.ว.” จี้ “นายกฯ” ออกมติ ครม. ตรา พ.ร.ก.อุดช่องว่างใช้กัญชาเสรี ไร้การควบคุม เหน็บ ไม่เช่นนั้นอาจมีคนซื้อบ้องกัญชามาสูบในสภาฯ ได้ แนะ อย่าฟังแพทย์การเมือง อาจเป็นอันตรายต่อจรรยาบรรณ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 มิถุนายน ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยเปิดให้ส.ว.หารือปัญหาคามเดือดร้อนของประชน โดยส.ว มีการหารือถึงการปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และไม่มีกฎหมายควบคุมการเสพเพื่อสันทนาการ จนกลายเป็นสูญญากาศการปลดล็อคกัญชาเสรี

โดยนายสมชาย แสวงการ ส.ว. เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (14 มิถุนายน) เพื่อแก้ปัญหาสูญญากาศกัญชาเสรี โดยออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นำเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ…. ที่สภาผู้แทนราษฎร รับหลักการ ปรับปรุงแก้ไข โดยกำหนดข้อห้าม ข้อควบคุมการนำเข้า ส่งออก ขนย้าย เพื่อดูแลสังคมและเยาวชน ตนเชื่อว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวจะตราไม่ทันใช้บังคับได้ทันในสภาฯ ชุดปัจจุบัน และต้องรอสภาฯ อีกสมัย ซึ่งอาจทำให้เกิดสูญญากาศอีก 1 ปี นอกจากนั้นต้องออกระเบียบเพิ่มเติมโดยแยกกัญชาครัวเรือน กัญชาทางการแพทย์ กัญชาเพื่อการค้า โดยเฉพาะการค้าต้องมีข้อมูลส่วนผสม รวมถึงต้องตรวจสารทีเอสซีทุกครั้ง แต่ปัญหาคือค่าตรวจมีราคาแพงและไม่มีแล็ปทั่วประเทศ

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ขอให้มีมติ ครม.ห้ามใช้ เสพ สูบ ปรุง หรือด้วยวิธีอื่นใด โดยเฉพาะส่วนของช่อดอกกัญชา เพื่อสันทนาการทุกกรณี ยกเว้นเพื่อปรุงยาทางการแพทย์ สกัดน้ำมันกัญชา ที่ผ่านการเจือจางให้ค่าซีเอสซี เหลือ 0.2% นอกจากนั้นขอให้นายกฯ สั่งการไปยังสำนักงานคณะการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) หน่วยข่าวกรองทหาร สันติบาล ตรวจสอบขบวนการขน ย้ายกัญชาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะทราบว่ามีขบวนกรค้ากัญชาที่เตรียมไว้ ซึ่งนายกฯ ในฐานะประธานสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ต้องกำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตรวจสอบเส้นทางการขนย้าย จำหน่าย สูบ ในอินเตอร์เน็ต รวมถึงต้องเร่งสนับสนุนงบวิจัยผลกระทบในเชิงนโยบายและการคุ้มทุน โดยให้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ดำเนินการ

นายสมชาย กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 นายกฯ ลงนามท้ายร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ที่นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ และรักษาโรคได้ โดยนายกฯ เป็นผู้ตรวจร่างกฎหมายพร้อมลงลายเซ็นต์และมีข้อความกำกับว่า ให้ทบทวนความเหมาะสมใน 6 เดือน-3 ปี และให้ควบคุมตามกฎหมาย ดังนั้น ขอให้พิจารณาฟังความเห็น ของประชาชนที่เสนอความคิดเห็นกว่า 9.4 แสนคน ซึ่งเห็นด้วยกับกัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรี ที่ละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศ และไร้การควบคุม

Advertisement

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ดังนั้น ขอให้นายกฯ รีบสั่งการ อย่ารอกฎหมาย และบอกว่ามีกฎหมายอยู่ ทั้งนี้ตนสนับสนุนกัญชาทางการแพทยื แต่คัดค้านเสรีกัญชาที่ไร้การควบคุมกำกับและดูแล ความรับผิดชอบทางสังคม นอกจากนั้นมาตรการควบคุมค่อนข้างอ่อน และไม่สามารถควบคุมได้จริง เช่น ปรับจากควันกัญชาในที่สาธารณะ,ห้ามขับรถยนต์​สาธารณะ แต่ไม่ห้ามการขับขี่จักรยานยนต์ ไม่ห้ามคนเสพกัญญชาออกมาบนถนน และไม่ห้ามเด็กเยาวชน

“ดังนั้น ต่อไปอาจมีคนซื้อบ้องกัญชามาเสพในสภาฯ ได้หมด ขอให้นายกฯ รับฟังความกังวลของอายุรแพทย์ จิตแพทย์ และกุมารแพทย์ รวมถึงกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยที่ระบุว่ากัญชาคือ สิ่งต้องห้าม และขอนายกฯ อย่าฟังแพทย์การเมือง เพราะเป็นสิ่งอันตรายต่อจรรยาบรรณของนายกฯ” นายสมชาย กล่าว

ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. หารือว่า ตนมองว่าการออก พ.ร.ก.อาจมีผลกระทบ ดังนั้น สิ่งที่จะอุดช่องว่างสูญญากาศกัญชาเสรีได้ คือ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุขออกประกาศ ตามอำนาจในมาตรา 44 และมาตราา 45 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 เป็นการชั่วคราว โดยให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image