หมออ๋อง ไลฟ์แจง มั่นใจพรรครับได้ ไม่โหวต ‘สมรสเท่าเทียม’ ยื่น 2 เงื่อนไข หลังถูกวิจารณ์หนัก

หมออ๋อง ไลฟ์แจง มั่นใจพรรครับได้ ไม่โหวต ‘สมรสเท่าเทียม’ พร้อมยื่น 2 เงื่อนไข หลังถูกวิจารณ์หนัก

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไลฟ์สดชี้แจงกรณี “งดออกเสียง” ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ในวาระ 1 ซึ่งมี นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ หรือ ครูธัญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้นำเสนอร่าง ว่าก่อนอื่นต้องขอโทษ (ยกมือไหว้) ทุกท่านที่ผิดหวังและโกรธกับการตัดสินใจของผม ความรู้สึกเหมือนเป็นวันดีๆ ของชาว LGBTQ และคนที่สู้เรื่องนี้อย่างยาวนานที่จะฉลอง แต่เกิดเรื่องหงุดหงิดต่อการที่ผมงดออกเสียง ขอโทษอย่างเป็นทางการที่ไม่ได้เป็นเสียงของท่านในสภาด้วยการงดออกเสียง ทำให้ผิดหวัง โกรธ รู้สึกงุนงงว่าจะยังไง ไม่มีปัญหาเลยที่จะมีคนด่าทอต่างๆ รู้ว่าสู้มาขนาดไหน รู้ว่าโดนอะไรมาบ้าง

“ขอโทษโหวตเตอร์ก้าวไกล โดยเฉพาะเขต 1 ก้าวไกล ที่หวังว่าผมจะโหวตแคมเปญที่มีการหาเสียงไว้ในปี 2562 เรื่องนี้ทำให้ผมพิจารณาหนักมากว่าจะเป็น ส.ส.ต่อหรือไม่

“ต้องแสดงความยินดีอย่างจริงใจที่สุดที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านวาระแรก ตอนแรกคิดว่าไม่มีโอกาสชนะ เพราะรัฐบาลมีร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต และมีมติคว่ำ แต่ด้วยการรณรงค์อย่างแข็งขันของทุกท่าน และการร่วมมือของ ส.ส.ในสภาหลายคนก็ผ่านได้และเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญ” นายปดิพัทธ์ระบุ

ปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือหมออ๋อง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement

นายปดิพัทธ์กล่าวว่า เรียนด้วยความตรงไปตรงมาว่าผมมีทางเลือกอยู่ 2-3 อย่าง คือต้องลาป่วยไปเลย แต่คิดว่าการทำแบบนั้นขี้ขลาด ไม่กล้าเผชิญหน้าความจริง จึงเลือกมา พอมาแล้วอยู่เงียบๆ แล้วโหวตให้จบก็ได้ แต่ผมตัดสินใจอภิปราย เหตุผลที่อภิปรายคือตอนนั้นมี 3 โทน โทนสนับสนุน โทนขัดแย้ง แต่โทนที่ขัดแย้งเป็นโทนเดียวคือไม่เห็นด้วย 10 เปอร์เซ็นต์ โดยอ้างหลักคำสอนของศาสนา ซึ่งรุนแรง พอผมนั่งฟังอยู่คิดว่าถ้ารัฐสภาเป็นพื้นที่แทนประเทศ ก็ควรมีเสียงของคริสเตียนด้วย ผมจึงตัดสินใจลุกขึ้นพูด และพูดตรงๆ ว่าผมซัพพอร์ตการที่กฎหมายจะเป็นแบบที่หากทุกศาสนาจะเสมอภาคกัน จะต้องทำให้กฎหมายไม่มีศีลธรรมของศาสนาใดศาสนาหนึ่งมาเป็นตัวกำหนด แม้แต่ในรัฐธรรมนูญด้วย เพื่อเราจะไม่เป็นรัฐศาสนา ซึ่งตอนนี้เราเป็นรัฐศาสนากลายๆ

นายปดิพัทธ์กล่าวอีกว่า กฎหมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการค้าประเวณีถูกกฎหมาย ผมก็เป็นที่ปรึกษา กมธ.ชุดเดียวกับครูธัญ เพื่อผลักดันให้ถูกกฎหมาย เรื่องหนังโป๊ เซ็กซ์ทอย ทำให้ถูกกฎหมาย ประเด็นคือในวงการคริสเตรียน เมื่อเซอร์เวย์ทั่วโลกแล้วมีเรื่องเป็นตายกับผ่านไปเรื่อยๆ โดยเรื่องที่ค่อนข้างเป็นตายสรุปแล้วมีอยู่ 2 เรื่อง คือ การทำแท้ง และ การสมรสของเพศเดียวกัน ซึ่งเป็นประเด็นที่แตกหักกันอยู่ในหลายประเทศ

“ใจจริงผมเห็นด้วยว่าถ้าโหวต พ.ร.บ.นี้ต้องแยกไปเลย เพราะ พ.ร.บ.นี้ไม่ได้ไปคุกคามศาสนาอื่น แต่ให้สิทธิทุกคนเท่าเทียมกัน ตอนแรกผมคงจะต้องกด Yes แต่เอาเรื่องนี้ไปคุยกับคริสเตียนหลายกลุ่ม ต้องยอมรับว่ามีกระแสตีกลับ มีกระแสต้านแรงมาก ซึ่งกระแสต้านไม่ได้ระบุว่ามีคะแนนเสียงเท่าไหร่ ผมไม่ได้แคร์คะแนนเสียงขนาดนั้น เพราะเอาเข้าจริงก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ในแง่หนึ่งตอนนี้คริสตจักรก็ค่อยๆ เปิดรับเพศหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ หากเทียบกับตอนที่ผมทำงานกับคริสตจักรประมาณ 10 ปีก่อน

“10 ปีก่อนคริสตจักรไม่ยอมแม้แต่การมีบุคลิกหลากหลาย ไม่ยอมให้ผู้หญิงมีบทบาทในคริสตจักร อย่าว่าแต่แต่งงานเลย แค่มาคริสตจักรก็ยากแล้ว ผมจึงค่อยๆ ทำงานกับคริสตจักรให้ยอมรับความหลากหลายทางเพศ ทำงานมาได้สักพักหนึ่ง แต่สุดท้ายมาขาดกันที่ว่า คุณสนับสนุนการแต่งงานของเพศเดียวกันหรือไม่ ตอนผมยืนอภิปรายจึงอภิปรายไป แล้วให้สภาบันทึกไว้ หากคิดว่าสภาเป็นประเทศ อยากให้มีเสียงหนึ่งว่าคริสเตียนมีความกังวลเรื่องนี้ ผมก็ยืนขึ้นพูดในแง่มุมนั้น” หมออ๋องกล่าว

ปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือหมออ๋อง

หมออ๋องกล่าวอีกว่า ประเด็นนี้ผมพร้อมรับผลที่ตามมา เมื่อโหวตไปก็มีผลตอบรับที่ไม่ดีแน่นอน พอเราคิดอย่างนี้ได้ คิดว่าวาระ 1 จำเป็น การลงมติในสภามีการลงบันทึกตลอดไป อาจเป็นตราบาปของผมก็ได้ แต่มันจะได้เป็นบันทึกไว้ว่าคริสเตียน 1 คน หรือ 1 เปอร์เซ็นต์ ออกความคิดเห็นเรื่องนี้ ตอนนี้กลายเป็นว่าเรื่องเสรีอื่นๆ ที่เราจะผลักดันต่อ คนจะพูดว่าผมจะพูดดีไปเท่าไหร่ก็แค่นั้น เมื่อผมกดก็แปลว่าไม่เห็นด้วย แต่ผมกดงดออกเสียง งดออกเสียงคือผมเห็นด้วย แต่เห็นข้อห่วงกังวลที่จะทำให้รับหลักการที่ 1 ไม่ได้

หมออ๋องกล่าวว่า ประเด็นคือเราจะไปทำงานต่อในวาระ 2 และ 3 จากนั้นเนื้อหาในการที่ผมจะทำงานก็จะไปอยู่ในรายมาตรา ผมก็จะพูดในสิ่งที่ผมเชื่อและอภิปรายไปในวาระ 1 คือจะเน้นเรื่องสิทธิทางแพ่งต่างๆ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน

“จุดยืนคือตอนนี้ในตัวตน ผมมี 2 ขา ผมไม่ได้ห่วงคะแนนเสียง เพราะเสียไปเยอะแน่ๆ การเป็นคนของพรรค สนับสนุนพรรคมาทุกเรื่อง ไม่ว่าจะ 112 การโอนกำลังพล ไม่ว่าอะไรก็ลุยเต็มที่ ซึ่งผมขอพรรคว่าในเมื่อพรรคให้โอกาสคนหลายศาสนามารวมกัน ในวันที่มีการตัดสินใจกฎหมายที่มีผลกระทบต่อความเชื่อทางศาสนาต้องมีการสงวนความเห็นของกลุ่มที่แตกต่างได้ ซึ่งพรรคก็ยอมรับเรื่องนี้ ให้ผมมีโอกาสทำงานด้วยได้

“ผมจะรับผิดชอบยังไง 1.จะเปิดโอกาสให้พรรคสรรหาผู้สมัครคนใหม่แทนตัวผม คนที่สามารถเป็นตัวแทนอุดมการณ์ของพรรคที่ชาวพิษณุโลกจะเลือกเข้ามาได้ ปกติ ส.ส.เก่าที่ชนะมาจะให้ลงต่อ ถ้าไม่เป็นงูเห่า แต่ผมจะให้พรรคสรรหาเลย ถ้ามีคนที่ฟังไลฟ์นี้อยู่เป็นชาวพิษณุโลก เขต 1 คิดว่าควรจะต้องเป็นตัวแทนพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมเรียนเชิญให้มาสมัครได้เลย เราจะให้สมาชิกพรรคได้เลือกกัน

2.ผมจะทำงานในวาระที่ 2 และ 3 ด้วยการกลับไปถามพี่น้องประชาชนให้มากขึ้น โดยเฉพาะชาวพิษณุโลก เขต 1 และนำเสียงเหล่านั้นกลับมาทำต่อในสภา เพื่อให้กฎหมายที่ผ่านไปแล้วสมบูรณ์ที่สุด

“ผมเข้าใจดีกว่าการขอโทษของผมในวันนี้ และการแสดงความรับผิดชอบจะไม่ถูกใจหลายท่านแน่ๆ แต่เป็นความจริงใจที่ผมนำเสนอได้มากที่สุดในเวลานี้แล้ว” หมออ๋องยืนยัน

ปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือหมออ๋อง

นายปดิพัทธ์กล่าวว่า อีกประเด็นคือ การทำแท้งเสรี บรรดาเสรีต่างๆ ที่เป็นข้อถกเถียงในวงการคริสตจักรมีหลายร้อยเรื่อง แต่เรื่องเป็นตายคือ 2 เรื่องดังกล่าว ผมได้อภิปรายด้วย สนับสนุนการทำแท้งปลอดภัย ไม่อยากให้ใช้คำว่าทำแท้งเสรี เพราะบิดเบือนเจตนารมณ์กฎหมาย และการทำแท้งโดยไม่คิดถึงตัวอ่อนไม่มีข้อจำกัด เป็นจุดยืนที่คริสเตียนรับไม่ได้ แบบเดียวกันคือ งดออกเสียง เหมือนกัน

“จะว่าสบายใจก็สบายใจไปแล้ว เพราะ 2 เรื่องใหญ่ที่สุดของคริสเตียนอยู่ในการทำงานวาระแรกของผมไปแล้ว ดังนั้น ไม่กลัวแล้วว่าหลังจากนี้กฎหมายก้าวหน้าต่างๆ ผมโหวตให้พรรคก้าวไกลได้แล้ว แน่นอนว่าผมไม่ได้เป็นตัวแทนศาสนา จริงๆ มีคนชวนผมเข้าพรรคศาสนาคริสต์ด้วย แต่ไม่ได้เข้า ถ้ามองราษฎรเป็นราษฎร คือการเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ ดังนั้น ในสภาก็อยากให้มีเสียงของคนทุกกลุ่มอยู่เท่านั้นเอง นี่เป็นความเชื่ออย่างจริงใจของผม

“การที่ผมตัดสินใจแบบนี้ ผมรู้แน่นอนว่ารอบหน้าผมสอบตกได้เลย แต่ก็จำเป็นต้องเป็น ส.ส.อย่างที่ตั้งใจเข้ามาพรรคนี้วันแรก คือการอยู่ร่วมกับคนที่มีแนวทางไม่เหมือนกับศาสนาคริสต์ได้ แต่ผมโหวตให้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ของเรื่องทั้งหมดได้ เพราะเห็นด้วยกับเสรีนิยม ถ้ามี ส.ส.มุสลิมที่อยู่ในพรรค แต่ตอนนี้ออกจากพรรคไปแล้ว ก็คงงดออกเสียงเหมือนกัน” นายปดิพัทธ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image