เสียงสะท้อน… ‘หอค้าจังหวัด-ท่องเที่ยว’ ปลดล็อกทั้งปท.1ก.ค.

เสียงสะท้อน…
‘หอค้าจังหวัด-ท่องเที่ยว’
ปลดล็อกทั้งปท.1ก.ค.

หมายเหตุความเห็นและข้อเสนอแนะของหอการค้าจังหวัด สมาคมท่องเที่ยวและผู้ประกอบการภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติผ่อนคลายมาตรการปรับ 77 จังหวัดเป็นพื้นที่สีเขียว ให้ถอดหน้ากากอนามัยในที่โล่งแจ้งตามความสมัครใจยกเลิกไทยแลนด์พาส และเปิดสถานบันเทิงและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้

ศักดิ์ชาย ผลพานิชย์
ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา

Advertisement

ทุกมาตรการที่มีการผ่อนคลายถือเป็นข่าวดีสำหรับคนไทยทั้งประเทศ และส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก เพราะเรื่องการถอดหน้ากากอนามัยได้ จะส่งผลดีในด้านจิตใจ ทำให้รู้สึกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคได้คลี่คลายลงมาก ประชาชนจะรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมากขึ้น กล้าที่จะออกมาใช้ชีวิตร่วมกับคนจำนวนมาก

ส่วนการปลดล็อกขยายเวลาให้สถานบริการต่างๆ เปิดบริการไปจนถึง 02.00 น.นั้น ถ้าเป็นไปได้ก็จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ผู้คนออกมาพักผ่อนใช้จ่ายเงินมากขึ้น ผู้ประกอบการร้านค้าและสถานบริการต่างๆ ก็จะได้รับอานิสงส์โดยตรง ช่วยเพิ่มระยะเวลาการให้บริการและจำหน่ายสินค้าอาหารเครื่องดื่มได้มากขึ้นด้วย จะช่วยให้ภาคบริการมีกำลังใจและมีแรงที่จะเดินหน้ากันมากขึ้น เพราะรายได้ที่เพิ่มเข้ามาจากการขยายเวลาเปิดบริการถึง 02.00 น. จะช่วยให้ผู้ประกอบการและพนักงานในส่วนต่างๆ รวมไปถึงเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้าได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนมาตรการกระตุ้นให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศมากขึ้น ตั้งแต่ยกเลิกไทยแลนด์พาส ทำให้เริ่มเห็นนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และนักลงทุนชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับภาคเศรษฐกิจ

ภาคเอกชนและภาครัฐในจังหวัดนครราชสีมาได้หารือพูดคุยหาแนวทางมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาจะประเดิมด้วยงานเทศกาล “ทุเรียนครบุรี” ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จากนั้นสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดฯ ร่วมกับองค์กรเอกชนในจังหวัดฯ จะคิกออฟจัดงาน Wellness Tourism ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ที่เดอะ เปียโน รีสอร์ท เขาใหญ่ เป็นการเปิดตัวจังหวัด โปรโมตท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ดึงนักท่องเที่ยวที่สนใจเที่ยวเชิงสุขภาพให้เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้โรงแรมและสถานประกอบการ ที่ประกาศตัวเป็น Wellness แล้วประมาณ 11 แห่ง กระจายอยู่ในตัวจังหวัดและที่ อ.ปากช่องกับเขาใหญ่ นอกจากนี้ กำลังเตรียมจัดกิจกรรม “คอนเสิร์ตริมผา” ที่ กม.21 เขาใหญ่ มีวงดนตรีชั้นนำเป็น 10 วงมาแสดง และมีภาคเอกชน เข้ามาร่วมโปรโมตท่องเที่ยวของจังหวัดด้วย รวมทั้งยังมีมหกรรม FOODEX จะจัดในช่วงวันที่ 14-18 กันยายน ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จากนั้นในช่วงวันที่ 24-28 พฤศจิกายน หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาจะจัดงานเทศกาลอาหารย่าง หรือ Thailand BBQ ครั้งที่ 25 ที่ตลาดนัดเซฟวัน โคราช ขณะที่สภาอุตสาหกรรมจังหวัดก็จะจัดงานนวัตกรรมอุตสาหกรรมในช่วงปลายปีนี้ด้วย ซึ่งทุกๆ กิจกรรมได้เริ่มเดินงานกันแล้ว

Advertisement

นอกจากนี้โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” น่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็นช่วง Low Season ให้คึกคักมากขึ้น หรืออาจจะโฟกัสเน้นการท่องเที่ยวในวันธรรมดา จะช่วยกระตุ้นให้คนเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น ทั้งนี้ อยากให้รัฐเติมเม็ดเงินเข้ามาในระบบเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มากขึ้น เพราะตอนนี้ทุกคนต่างประสบภาวะวิกฤตน้ำมันแพง สินค้าแพง ค่าครองชีพสูง ทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกครัวเรือน แต่รายได้ยังเท่าเดิมหรืออาจจะน้อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ ภาครัฐอาจจะต้องมาพูดคุยพิจารณาเรื่องการปรับค่าแรงขึ้นด้วย เพื่อให้รายได้สอดรับกับรายจ่ายที่ประชาชนต้องแบกรับอยู่ในขณะนี้

จุลนิตย์ วังวิวัฒน์
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่

สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ภาพลักษณ์ประเทศดีขึ้นที่มีความปลอดภัย ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่มากขึ้น การถอดแมสก์ถือเป็นสัญญาณบวก ที่ฟื้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้ตรงจุด คาดเศรษฐกิจฟื้นตัวไตรมาสที่ 4 หรือไตรมาสสุดท้าย เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว มีนักท่องเที่ยวจากอเมริกาและยุโรปมาเที่ยวมากขึ้น มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวทยอยเปิดกิจการกว่า 40-50% แล้ว แต่บางส่วนปิดกิจการถาวรหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ที่ลงทุนไม่สูง แต่ได้ผลกำไรมากขึ้น

มาตรการจังหวัดและภาคเอกชน ผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) จังหวัด เพื่อรองรับการถอดแมสก์และเปิดสถานบันเทิงถึงตี 2 นั้น คือสร้างพื้นที่ปลอดภัยโควิด โดยอบรมมาตรฐานสาธารณสุข เพื่อการท่องเที่ยว หรือชาพลัส พร้อมรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3-4 อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้า
ฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 80% ของประชากรด้วย นอกจากนี้ ได้ขอรัฐบาลสนับสนุนแหล่งเงินทุนแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวระยะสั้น เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนเปิดกิจการใหม่อีกครั้ง โดยปลดล็อกเงื่อนไขการขอสินเชื่อ ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น หลังมีมาตรการผ่อนคลายโควิด ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา สังเกตว่า มีประชาชนและนักท่องเที่ยวไปใช้บริการร้านอาหาร และสถานบันเทิงมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าธุรกิจท่องเที่ยวบางประเภทเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว แต่ต้องเฝ้าระวังโควิดไม่ให้แพร่ระบาดอีก

ช่วงนี้ยังไม่สามารถประเมินภาพรวมเศรษฐกิจเชียงใหม่ได้ ต้องรอไตรมาสสุดท้ายของปี คาดมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 100,000 คน มีเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยวเชียงใหม่แล้ว

วรารัตน์ โชติวรรณ
เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด
และเจ้าของโรงแรมตราดซิตี้

ธุรกิจท่องเที่ยวของ จ.ตราด และธุรกิจอื่นๆ ดีขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ และยาวมาถึงช่วงพฤษภาคม2565 รวมทั้งมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอีกช่วงตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 ที่รัฐบาลปลดล็อกมาตรการต่างๆ ที่เข้มงวดออกไป ซึ่งจะเห็นได้จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและธุรกิจอื่นๆ ขยับเคลื่อนไหวมากขึ้น และดึงพนักงานกลับคืนสู่ธุรกิจมากขึ้น และเมื่อรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 มากขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม จะยิ่งผลักดันให้ธุรกิจท่องเที่ยวได้เดินต่อไปอย่างเเข็งแรงมากขึ้น ซึ่งจะเห็นนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศได้เริ่มบุ๊กกิ้งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มากเหมือนช่วงที่ไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดก็ตาม
ธุรกิจท่องเที่ยวได้เริ่มเติบโตอย่างมีนัยยะหลังรัฐบาลได้ลดมาตรการในการควบคุมโควิด-19 ลงตั้งแต่ 1 มิถุนายน โดยเฉพาะการเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา จ.ตราดมากขึ้น และคาดว่าปลายปี 2565 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของการ
ท่องเที่ยวของจังหวัดตราดนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาเหมือนผึ้งแตกรัง ซึ่งเป็นทั้งภาคตะวันออก ซึ่งมีการบุ๊กกิ้งของนักท่องเที่ยวกลุ่มมีการจองมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน รัฐบาลกระตุ้นด้วยโครงการเที่ยวด้วยกันเฟส 5 จะเป็นตัวช่วยให้เกิดการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาช่วยธุรกิจท่องเที่ยวได้มาก นอกจากนี้ การที่รัฐเน้นย้ำอีกว่าค่าใช้จ่ายจากการเดินทางท่องเที่ยวยังสามารถนำไปหักภาษีได้ 2 เท่าจึงเป็นตัวกระตุ้นได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะเป็นตัวลดทอนธุรกิจท่องเที่ยว คือปัญหาทางด้านเศรษฐกิจในช่วงนี้ ที่มีปัญหาจากราคาสินค้าราคาแพงขึ้น ราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนในการเดินทางสูงตามขึ้นมา รายได้ของนักท่องเที่ยวที่ลดลงและช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของจังหวัดตราด อาจจะเป็นเหตุที่ธุรกิจท่องเที่ยวไม่เติบโตเหมือนเดิม แต่นั่นเป็นแค่ผลลบเล็กๆ เท่านั้น

สง่า เรืองวัฒนกุล
นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร

การผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งการยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส และยกเลิกการกรอกใบ ตม.6 (การกรอกรายการของคนต่างด้าว ซึ่งเดินทางเข้าในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร) สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางทางอากาศ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป เชื่อว่าจะเป็นส่วนช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถตัดสินใจเข้ามาเที่ยวไทยได้ง่ายมากขึ้น ส่วนการผ่อนคลายให้เปิดธุรกิจกลางคืน หรือสถานบันเทิง อาทิ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ได้ถึง 02.00 น.
นั้น ถือเป็นตัวช่วยกระจายรายได้ให้ธุรกิจกลางคืนที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น ทั้งรถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก ร้านอาหารต่างๆ โดยประเมินเฉพาะธุรกิจในถนนข้าวสาร คาดว่าเมื่อมีการผ่อนคลายเริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม จะดันให้เม็ดเงินสะพัดกลับคืนมากว่า 20% หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 4-5 ล้านบาทต่อวัน เทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 ที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งในขณะนี้ธุรกิจในถนนข้าวสารฟื้นตัวแล้วประมาณ 20% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 2-3 ล้านบาทต่อวัน โดยพบว่าตัวเลขทยอยปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่รัฐบาลผ่อนคลายให้ธุรกิจเปิดบริการได้ถึง 24.00 น. และการยกเลิกเทสต์แอนด์โกเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา

หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศที่ผ่านมาทั้งหมด เราเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในถนนข้าวสารมากขึ้น สะท้อนได้จากตัวเลขการเข้าพักในโรงแรมที่พักบริเวณรอบถนนข้าวสาร ซึ่งมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 30% คิดเป็นจำนวนคนประมาณ 1,000 คนต่อวัน จากเดิมช่วงก่อนเกิดโควิด-19 มี
นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวถนนข้าวสาร ประมาณ 20,000 คนต่อวัน โดยคาดว่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป อานิสงส์การผ่อนคลายจะดันให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นเข้ามาที่ 2,000 คนต่อวันได้ หรือประมาณ 10% ของปี 2562

ต้องยอมรับว่าขณะนี้เรายังคาดหวังนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ไม่เต็มที่มากนัก เพราะอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) บวกกับตลาดนักท่องเที่ยวหลักยังไม่กลับเข้ามาเที่ยวไทย โดยเฉพาะจีน ที่เดิมมาเที่ยวไทยแบบ 1 ใน 4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด แต่รัฐบาลจีนยังไม่มีนโยบายให้พลเมืองเดินทางเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงตลาดยุโรปที่มีสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ชาวรัสเซียชะลอการมาเที่ยวไทย และสายการบินก็หายไปบางส่วน ทำให้เที่ยวบินไม่สามารถกลับเข้ามาได้เต็มศักยภาพเหมือนช่วงเวลาปกติ ที่สามารถรับได้กว่า 1,500 เที่ยวบินต่อวัน แต่ขณะนี้มีจำนวนเที่ยวบินฟื้นตัวกลับมาเพียง 1,000 เที่ยวบินต่อวันเท่านั้น โดยคาดหวังว่าในไตรมาส 4/2565 เราจะได้เห็นสายการบินทำเส้นทางการบิน และเที่ยวบินฟื้นตัวกลับคืนมาแบบเต็มศักยภาพที่ 1,500 เที่ยวบินต่อวันได้

ข้อเสนอที่ต้องการให้ยกเลิกต่อไปคือ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ เนื่องจากส่งผลต่อการตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอย่างชัดเจน แม้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะชี้แจงว่า มีไว้เพื่อให้สามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับโควิด-19 แบบได้สะดวกมากที่สุด แต่ขณะนี้มองว่าสถานการณ์การระบาดโควิด-19 คลายตัวลงไปมากแล้วจำนวนเตียงในการรองรับผู้ป่วยมีเพียงพอ ขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขไม่ได้ล้นเหมือนช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ทำให้มองว่าถึงเวลาที่เราควรยกเลิกการประกาศใช้ทั้ง 2 กฎดังกล่าวได้แล้ว บวกกับอีกไม่นานจะมีการประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งหมายถึงการบริหารจัดการโรคดังกล่าวนี้จะสามารถทำได้ง่าย
และไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป จึงอยากให้ประกาศยกเลิกใช้ก่อนจะประกาศโรคประจำถิ่นออกมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image