09.00 INDEX ภาพ “ชัชชาติ” ชุมชนบ่อนไก่ สะเทือน ไปสู่ ทำเนียบรัฐบาล
ภาพที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไปปรากฏตัวพลันที่เกิดอุบัติภัยเพลิงไหม้ในพื้นที่ชุมชนบ่อนไก่ อาจทำให้คนแก่ๆหลายคนนึกถึง ภาพ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ หลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2500
นั่นคือ ความห่วงหาอาทรของ “หัวหน้าคณะปฏิวัติ”ต่อทุกข์ของ “ชาวบ้าน” ในลักษณะทันที ทันต่อสถานการณ์
ขณะเดียวกัน ผลสะเทือนอย่างฉับพลันอันทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องบังเกิดอาการ ”เหนื่อย” ขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงได้ลำบากยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง
กลายเป็น “คำถาม” ไม่เพียงแต่เป็นคำถาม 1 ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่ ”ปฏิบัติ” อย่างที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กระทำเหมือนกับเป็นเรื่องปรกติอย่างธรรมดายิ่ง
หากแต่ที่ลึกซึ้งมากยิ่งกว่า นั่นก็คือ 1 ภาพเปรียบเทียบที่ว่า หากเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปปรากฏกายขึ้นในพื้นที่ชุมชนบ่อนไก่จะแนบชิดกับชาวบ้านเหมือน ”ผู้ว่าฯกทม.” หรือไม่
เหมือนกับที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับ ”ชาวบ้าน” ได้เพราะมีพื้นฐานมาจาก ”ประชาชน” มาจากการตัดสินใจ ”เลือกตั้ง” โดยประชาชน
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิอาจและไม่สามารถเป็นเช่นนี้ได้เพราะมาจาก ”รัฐประหาร” มาจากปากกระบอก ”ปืน”
อย่าว่าแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลยที่ไม่สามารถเล่นบทได้ อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ”ชาวบ้าน”อย่างที่เห็นผ่านการปรากฎขึ้นของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
แม้กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็มิอาจและไม่สามารถเป็นได้
ยิ่งมองลึกลงไปยังบรรดา “ผู้ว่าราชการจังหวัด” ยิ่งมองลึกลงไปยังบรรดา “นายอำเภอ” ที่ประจำอยู่แต่ละจังหวัด ที่ประจำอยู่แต่ละอำเภอ ก็มิอาจและไม่สามารถเป็นได้
เพราะพวกเขาถูกหล่อหลอมมาในระบบราชการ มีความโน้มเอียงที่จะเป็น ”เจ้านาย” จึงไม่ปรากฏว่าจะเดินเข้าหาและยกมือไหว้ประชาชนได้เหมือนกับตระหนักในความเป็น ”เจ้านาย”
เพราะพวกเขาล้วนเป็นผลผลิตแห่ง ”รัฐราชการรวมศูนย์”
นับแต่ผลการเลือกตั้งปรากฏออกมาเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม และ นับแต่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สวมบทบาทเป็น ”ผู้ว่าฯกทม.” ในความเป็นจริง
จึงเท่ากับเป็นการปรากฏขึ้นของ”ซอฟท์ พาวเวอร์” สำคัญ
ทะลุทะลวงไปในทุกพื้นที่ในทางความคิดจาก”กรุงเทพมหานคร”กระทั่ง”ทำเนียบรัฐบาล” ผ่านกระทรวงมหาดไทยไปยังทุกจังหวัดและทุกอำเภอทั่วประเทศ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จึงกลายเป็น ”อาวุธ” อันทรงพลัง
