สาธิต เผย ‘จุรินทร์’ มีอาการเล็กน้อย ยัน ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่ม ไม่เกี่ยวมาตรการถอดแมสก์

“สาธิต” เผย “จุรินทร์” ติดโควิดหลังกลับจากตปท. ยัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ไม่เกี่ยว มาตรการถอดหน้ากาก

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ว่า เมื่อเช้าตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อหลังประชุมเสร็จได้มีการโทรคุยกันแล้ว นายจุรินทร์ จึงได้ฝากบอกว่า หลังจากเดินทางกลับมาจากปฎิบัติภารกิจที่ประเทศสหราชอาณาจักร พบว่ามีอาการเล็กน้อยและได้ทำการตรวจ จึงได้พบว่าเป็นโควิด-19 แต่ไม่มีอาการรุนแรง โดยแพทย์ให้รักษาตัวเองตามขั้นตอนของสาธารณสุข เฝ้าดูอาการจนกว่าจะหาย

นายสาธิตกล่าวว่า ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ในระยะนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการให้ถอดหน้ากากอนามัย ตามความสมัครใจ แต่เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากมีการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นกังวล แต่ก็ต้องรักษามาตรการ เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัยในที่แออัด และยังระมัดระวังตนเองเหมือนเดิม

“โรคโควิด-19 สายพันธุ์ BA.4 BA.5 ซึ่งขณะนี้กรมการแพทย์ได้มีการรายงานว่า ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้นเล็กน้อย จึงให้เก็บข้อมูลว่าสำหรับผู้ที่ติดเชื้อและมีอาการรุนแรงให้ส่งตัวอย่างเลือดไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อรวบรวมว่าเป็นสายพันธุ์ BA.4 BA.5 แต่ในขณะนี้ยังไม่มีอาการรุนแรง และอัตราส่วนในการครอบครองสายพันธุ์อื่นๆ พบว่ามีการครองไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการพัฒนาของสายพันธุ์ใหม่ แม้จะเริ่มแพร่ระบาดในไทย แต่กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ติดตาม ถึงแม้ว่าขณะนี้มีเส้นโค้งที่กำลังขึ้นแต่ไม่ได้ขึ้นเท่ากับช่วงที่ระบาดหนัก เพราะฉะนั้นช่วงนี้ต้องระมัดระวังตัวเอง” นายสาธิตกล่าว

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการบังคับการใส่หน้ากากอนามัยอย่างเข้มงวดอีกครั้ง นายสาธิตกล่าวว่า ตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สมัครใจในพื้นที่โล่ง และมีการเว้นระยะห่าง แต่ในสถานที่แออัดหรือมีความเสี่ยงให้ยังคงใส่ และในกลุ่มประชาชนผู้มีความเสี่ยง 608 โดยหากเราได้มีการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ แทบจะไม่มีความรุนแรง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จุรินทร์’ ติดเชื้อโควิด หลังกลับจากอังกฤษ ขอเวิร์กฟรอมโฮม 7 วัน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่