‘ก้าวไกล’ ล็อกเป้าเด็ดหัว ‘นายกฯ’ ตั้ง 4 ทีมคุมเกมซักฟอก ‘ไอติม’ ร่วมแจมทัพหลักดูภาพรวม คาด 6 ก.ค.นี้ เคาะวันอภิปรายฯ
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่วิปรัฐบาลยืนยันให้ซักฟอกแค่ 4 วัน ว่า อันที่จริงแล้วตนได้มีโอกาสคุยกับนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ก็ยังไม่ได้ฟันธงว่าจะให้เพียง 4 วัน ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการพูดคุย ประสานงานกัน ในเบื้องต้นจะมีการนัดประชุมวิปทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนถึงระยะเวลาในการอภิปราย และเริ่มตั้งแต่วันที่เท่าใด สำหรับจุดยืนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่ได้อยู่ที่จำนวนวัน แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงที่คิดว่าเหมาะสมกับจำนวนรัฐมนตรี และประเด็นที่จะอภิปรายมีกรอบอยู่ที่ 40 ชั่วโมง
เมื่อถามว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์ เพราะถือว่าเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายณัฐวุฒิกล่าวว่า รัฐบาลก็คงพูดแบบนี้ทุกครั้ง แต่ประโยคนี้มีความย้อนแย้งกันเอง ตนก็ไม่ทราบว่านำชื่อมาจากหนังจีนเรื่องอะไรมีทั้งทีมเจ้ายุทธ ทีมปราบมาร แต่เท่าที่ทราบรัฐมนตรีแต่ละคนไม่ได้เรียกร้องให้มีองครักษ์ เนื่องจากจะตอบคำถามด้วยตนเอง ตนคิดว่าทั้งรัฐมนตรีที่มาจากพรรค หรือว่า ส.ส.ของรัฐบาลควรจะหารือกันก่อนว่ารัฐมนตรีต้องการคนที่จะมาปกป้องหรือไม่ หรือเป็นที่ ส.ส.เองที่จะมาเล่นใหญ่แสดงบทบาทปกป้องรัฐมนตรีจนเกินงาม ไม่ใช่เป็นประเด็นที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องมีความกังวล
เมื่อถามว่า มั่นใจในข้อมูลอยู่หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ข้อมูลยังมีเข้ามาเรื่อยๆ และยังมีประเด็นใหม่เพิ่มขึ้นมา เช่น มีการรุกล้ำน่านฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านและท่าทีของประเทศไทยที่ตอบสนองในเรื่องนี้ เป็นไปในท่าทีที่เป็นมิตรมากกว่าที่จะปกป้องประชาชนของตนเอง รอบนี้เราต้องการเด็ดหัวนั่งร้าน ในกรณีของการบริหารราชการและการควบคุมกำกับดูแลที่ผิดพลาดของราชการในส่วนของนายกฯ รองนายกฯ และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก สำหรับรัฐมนตรีคนอื่นมีข้อมูลเรื่องของการทุจริต การเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้องทั้งในอดีตและในปัจจุบัน และประเด็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งอยากให้จับตามองดีๆ เพราะอาจจะเป็นประเด็นที่ไม่มีใครเคยทราบมาก่อน ตัวของ ส.ส.ของฝ่ายรัฐบาลเองก็อาจจะยังไม่เคยทราบ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ก็อาจจะนำไปสู่การน็อกได้ ในกรณีที่มีหลักฐานคาหนังคาเขาอย่างชัดเจน พรรคร่วมฝ่ายค้านยอมรับว่า เสียงน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่เมื่อเป็นครั้งสุดท้ายความมั่นใจในการน็อกไม่ได้มาจากเพื่อนร่วมฝ่ายค้านด้วยกันอย่างเดียว จึงหวังว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะเข้ามาช่วยด้วย
“ผมคิดว่าถ้าน็อกได้ก็จะน็อกไปที่ตัวนายกฯไปเลย หรือรัฐมนตรีรายบุคคลมากกว่า อาจจะไม่สามารถน็อกรัฐมนตรีทั้งหมดได้ ถึงกระนั้นก็คงสร้างบาดแผลที่จะนำไปสู่การร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพิ่มเติมหรือจะส่งผลต่อการเลือกตั้งในครั้งถัดไปที่เราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่” นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.เตรียมตัวอย่างไรในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พรรค ก.ก.จะเตรียมตัวบุคคลมากขึ้น โดยแบ่งทีมคร่าวๆ 4 ทีม โดยทีมที่ 1 จะเป็นทีมที่ดูธีม นโยบาย และประเด็นที่จะใช้อภิปรายทั้งหมด ซึ่งมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค เป็นทีมหลักแต่ปีนี้ที่เพิ่มเข้ามา คือ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ทีมที่ 2 คือกลุ่มประสานงานเรื่องของเวลา ในการวางว่าใครจะลงอภิปราย โดยจะดูในภาพรวมของฝ่ายค้านทั้งหมด มีนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นทีมประสานงาน
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทีมที่ 3 คือทีมที่จะเตรียมประเด็นในการอภิปรายของฝั่งรัฐบาลที่อาจจะพาดพิงมาที่ฝ่ายค้านหรือการดำเนินการที่จะผิดข้อบังคับของฝั่งรัฐบาล มีตน นายธีรัจชัย พันธุมาศ และ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดูแล และทีมที่ 4 คือทีมสื่อสาร ตอบโต้ในประเด็นต่างๆ ระหว่างที่มีการอภิปรายรวมถึงหลังการอภิปรายด้วย ก็จะมีทีมโฆษกของพรรค ก.ก.โดยได้เพิ่ม นายกรุณพล เทียนสุวรรณ เข้ามาเป็นหลัก
“พรรค ก.ก.มีความมั่นใจกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา และคงไม่เกิดกรณีที่ ส.ส.ไม่ได้อภิปรายอีก เราเชื่อว่าประสบการณ์ใน 3-4 ปีรอบนี้จะเป็นรอบที่ดีที่สุด และมีความเป็นเอกภาพกับพรรคร่วมฝ่ายค้านมากที่สุด” นายณัฐวุฒิกล่าว