บทนำมติชน : แค่ตีวงเลี้ยว
ภาพและคลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค. เครื่องบินรบมิก 29 ของพม่า บินเหนือ อ.พบพระ จ.ตาก ยิงปืนใส่ชนกลุ่มน้อยพม่าที่ไม่ยอมรับรัฐบาลทหาร เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการบินล้ำน่านฟ้าประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการแสดงท่าทีตอบโต้อย่างเหมาะสม โดยก่อนหน้านั้น เว็บไซต์สื่อพม่า โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมา รายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย หัวหน้าคณะรัฐประหาร และสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ให้การต้อนรับ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาค 3 แห่งกองทัพไทย ซึ่งคุมพื้นที่ชายแดนไทยพม่า นำคณะผู้แทนจากไทยมาเพื่อประชุมคณะกรรมการชายแดน ภูมิภาค ไทย-เมียนมา ครั้งที่ 34 เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
หลังเหตุการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ประสานไปยังพม่าแล้วเขายอมรับแล้วว่ารุกล้ำ พร้อมมีการขอโทษมาแล้ว และระบุว่าไม่ได้ตั้งใจจะมีปัญหา แต่เขาต้องตีวงเลี้ยวจึงล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทยเล็กน้อย ขณะที่เครื่องบินของเราก็ได้ทำการขึ้นบินเพื่อผลักดัน ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามมาตรฐาน วันนี้ทูตทหารเองก็ได้มีการพูดคุย เขาก็ขอโทษมา และตัวผมเองก็คุยกันแล้ว นี่เป็นเรื่องที่มองดูอาจเป็นเรื่องใหญ่ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำให้เรื่องใหญ่ ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือเรามีสมรรถนะพอเพียงที่จะป้องกันอธิปไตยของเราไว้ได้
น่าสังเกตว่า ท่าทีรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย อาจเพราะรัฐบาลไทยปัจจุบันมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลทหารของพม่า ขณะที่ผู้นำทางทหารก็มีมิตรภาพและความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีระหว่างกัน อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องบินรบรุกล้ำดินแดนของประเทศหนึ่งในลักษณะสู้รบ มีการยิงปืนกลอากาศ สร้างความหวาดหวั่นตื่นกลัวให้กับประชาชนคนไทย เกิดความเสี่ยงภัย มีทรัพย์สินของประชาชนเสียหาย ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และยังเกี่ยวข้องกับเกียรติภูมิของประเทศ ที่รัฐบาลต้องแสดงออกอย่างเหมาะสม เพื่อมิให้บรรดามิตรประเทศที่รักใคร่ชอบพอกันมาบินตีวงเลี้ยวในน่านฟ้าของประเทศอีก
