‘ชินวรณ์’ ยัน ต้องหาร 100 ไม่เช่นนั้นขัดหลักการ รธน.ที่แก้ไข

‘ชินวรณ์’ ยัน ต้องหาร 100 ไม่เช่นนั้นขัดหลักการ รธน.ที่แก้ไข แนะ วิปรัฐบาลร่วมทำงานให้รัดกุม อย่าไปดูหน้างาน

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 4 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และรองประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ยังมีข้อถกเถียงกันเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าจะหาร 100 หรือหาร 500 ว่า

ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 5-6 กรกฎาคมนี้ หลังจากพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เสร็จแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกินครึ่งวัน จากนั้นจะต่อด้วย พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งประเด็นของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีประเด็นเรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตนในฐานะที่เป็นรองประธาน กมธ. และในฐานะที่เป็นผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในนามพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 นั้น เป็นร่างที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอมาที่ ครม. ซึ่งตรงกับร่างของรัฐบาล เมื่อรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบ ในขั้นรับหลักการและเข้าสู่ กมธ. ทาง กมธ. ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย แต่ก็มีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งมี กมธ. สงวนความเห็น 11 คน

นายชินวรณ์ กล่าวว่า โดยหลักการแล้วเมื่อร่างผ่านความเห็นชอบของ กมธ. แล้ว วิปรัฐบาล ก็คงจะต้องยืนยัน ในหลักการดังกล่าวว่าเป็นร่างของเราเอง และการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรนูญนั้นเมื่อพิจารณาเสร็จในวาระ 2-3 ต้องเสนอกลับไปยัง กกต. ให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง

ดังนั้นเมื่อเป็นร่างของ กกต. แล้วจะให้ความเห็นชอบที่แตกต่างกันไป เป็นหารด้วย 500 เป็นเรื่องที่ กกต.ไม่สามารถทำได้ หากทำ กกต.จะถูกกล่าวหาได้เช่นเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด ในส่วนของกระบวนการ ที่จะดำเนินการประกาศใช้เป็นกฎหมาย หากมีการเสนอที่ผิดไปจากหลักการที่เสนอเข้ามา ก็จะเป็นเหตุผลหนึ่งต่อไปในอนาคตที่จะนำไปสู่การร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

Advertisement

และท้ายที่สุดการดำเนินการดังกล่าวก็อาจจะถูกกล่าวหาอีกเช่นกันได้ว่ามีผลประโยชน์ขัดกันหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีปัญหามาก ส่วนประเด็นมาตรา 91 ที่มีการเสนอให้หารด้วย 500 นั้น ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตาม มาตรา 93 และมาตรา 94 ขอย้ำว่าในชั้น กมธ.ได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และเห็นตรงกันว่า เรามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เท่ากับว่าได้แก้ไขเจตนารมณ์ต่อประเด็นการเลือกตั้งไปแล้ว คือจากระบบสัดส่วนผสม จากบัตรใบเดียวเป็นบัตรสองใบ และให้มีการคิดคำนวณอย่างชัดเจน คือ ส.ส.เขต 400 เขต ใครได้คะแนนสูงสุด ก็เป็น ส.ส. ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ให้คำนวณจากจำนวนบัญชีรายชื่อคือ 100 ดังนั้นรัฐบาลจึงควรทำตามหลักการนี้

นายชินวรณ์ กล่าวว่า ในส่วนพรรค ปชป. ที่ยังมีเสียงแตกกัน ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ เพราะนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรค ปชป. ก็เป็น กมธ.และเป็น 1 ใน 11 คนที่สงวนความเห็นเรื่องนี้ จึงมีสิทธิที่จะแสดงความเห็นเรื่องนี้ ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งพรรค ปชป. ที่เป็นสถาบันทางการเมือง เมื่อมีประเด็นนี้ขึ้นมา ตนจะนำเรื่องนี้ไปหารือในที่ประชุมพรรค ปชป. อีกครั้ง ว่าพรรคจะมีมติอย่างไร

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และพรรค ปชป. หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องกระทบกันในทางการเมือง ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายสำคัญ ตนได้เตือนตลอดว่า อาจจะส่งผลกระทบในทางการเมืองได้

Advertisement

ดังนั้นรัฐบาลจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เราจะไปพิจารณาหน้างานหรือพิจารณาโดยไม่ได้ตรวจทานร่วมกันคงไม่ได้ และประกอบกับช่วงนี้ เป็นช่วงสุดท้ายของสมัยประชุมแล้ว ตนจึงอยากเรียกร้องว่าต้องมีกระบวนการทำงานอย่างรัดกุม ซึ่งวิปรัฐบาลก็ต้องมาทบทวน ตรวจทานส่วนที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนทุกเรื่องไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาเวลามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ วิปรัฐบาลจะมาพูดว่าค่อยไปดูกันหน้างานอย่างนี้ไม่ได้ เพราะวิปรัฐบาล ต้องสร้างความเป็นเอกภาพให้เกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของสภาฯ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image