‘วิลาศ’ แฉเสาไม้สักสภาขึ้นราเพียบ ค้านส่งมอบงาน 100% จ่อร้อง ป.ป.ช.เอาผิดคนลงมติรับมอบโครงการ

‘วิลาศ’ ยกคณะ ค้านส่งมอบรัฐสภา 100% เล็งร้อง ป.ป.ช. คนลงมติรับมอบโครงการก่อสร้าง แฉเสาไม้สักขึ้นราเพียบ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง และ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ ประธานกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เรื่อง ขอคัดค้านการตรวจรับงานแล้วเสร็จ 100% ของโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ของคณะกรรมการตรวจการจ้างฯ ฉบับที่ 1

นายวัชระกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2556 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ลงนามสัญญาเลขที่ 116/2556 และสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อว่าจ้างบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จำนวน 12,280 ล้านบาท กำหนดเวลาแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งจนถึงวันนี้ รวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 3,353 วัน แต่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญานั้น จึงขอคัดค้านคณะกรรมการตรวจการจ้างในการตรวจรับงานแล้วเสร็จโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงอย่างชัดแจ้งว่าการก่อสร้างดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จครบถ้วนตามข้อกำหนดในสัญญา อีกทั้งยังปรากฏโดยมีหลักฐานอย่างชัดเจนว่ามีการใช้ชนิดของวัสดุไม่ตรงตามข้อกำหนดในสัญญาและไม่ตรงตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของผู้ออกแบบ

นายวัชระกล่าวว่า เช่น ต้นไม้จำนวนมากตายจนถูกตัดเหลือแต่ตอ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบการฟื้นตัวและอยู่รอดของต้นไม้ได้ เพราะต้นไม้เหล่านั้นได้ตายไปก่อนการตรวจสอบ อันส่งผลถึงระยะเวลา 240 วันของข้อกำหนดในสัญญาดังกล่าว ที่มีเพื่อตรวจการฟื้นตัวและการอยู่รอดของต้นไม้ จึงยังไม่เริ่มนับ เพราะไม่มีต้นไม้ที่อยู่รอดให้นับระยะเวลาเหล่านั้น อันส่งผลให้ถือว่าการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ หากคณะกรรมการตรวจการจ้างรับมอบงานแล้วเสร็จในวันนี้ วันพรุ่งนี้ (5 กรกฎาคม) จะยื่นเรื่องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนบุคคลที่ลงมติเห็นชอบทุกคนต่อไปโดยไม่ละเว้น

Advertisement

ด้านนายวิลาศกล่าวว่า นอกจากนี้ไม้สักจำนวนทั้งหมด 4,200 ต้น พบว่ามีเชื้อราขึ้น 2,400 ต้น เพราะอบไล่ความชื้นมาไม่ได้ที่ ทำให้ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ส่วนพื้นอาคารยังใช้ไม้ผิดประเภท จากข้อกำหนดที่ต้องใช้ไม้ตะเคียนทอง แต่ใช้ไม้พะยอม หรือไม้ชนิดอื่นๆ แทน และแผ่นไม้ปูพื้นต้องมีความยาวไม่น้อยกว่า 3 เมตร ยกเว้นกรณีจำเป็น ประตูห้องกรรมาธิการ (กมธ.) ไม่กันเสียง 65 ห้อง ผนังห้องประชุมกรรมาธิการไม่กันเสียง 148 ห้อง และหินทราโวทีนมีขนาดต่ำกว่าข้อกำหนด ต้นไม้ขนาดใหญ่ตาย 347 ต้น และไม่มีการปลูกทดแทน รวมทั้งต้นไม้ขนาดเล็กตายเป็นจำนวนมาก เป็นต้น

นายวิลาศกล่าวว่า สุดท้ายคือการส่งมอบงานครั้งนี้จะมีการตรวจสอบงานนาน จึงอยากให้ใช้ช่วงเวลานี้ซ่อมแซมส่วนที่มีปัญหา ถ้าสภายอมให้ทำ ถือว่าสภาต้องรับผิดชอบ ตนไม่ติดใจผู้รับจ้างเพราะมีสิทธิทำธุรกิจก็ต้องทำกำไรทุกวิถีทาง แต่สภาต้องทำตามระเบียบการส่งมอบ

จากนั้นนายวิลาศ พร้อมคณะ ได้พาสื่อมวลชนเดินสำรวจจุดบกพร่องต่างๆ ของโครงการก่อสร้างบริเวณชั้น 1 ตามที่ระบุไว้ในเรื่องร้องเรียน เช่น ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ยืนต้นตายและถูกตัดออกไป พื้นอาคาร และเสาไม้สักขึ้นราและแตก เนื่องจากมีความชื้น เพื่อให้เห็นภาพว่าเป็นสิ่งที่ควรปรับปรุงและซ่อมแซมอย่างแท้จริงก่อนรับมอบ

Advertisement

นายวิลาศระบุว่า หากคณะกรรมการรับมอบยังดึงดันรับมอบก็เตรียมติดคุกได้เลย เพราะจะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ เพราะได้ยื่นคัดค้านและบอกปัญหาที่เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image