‘ตรีชฎา’ ฉะ ครม.เพิ่มเบี้ยคนชราหลักร้อย ไม่พอยาไส้ยุคข้าวยากหมากแพง

“ตรีชฎา” ฉะ ครม.เพิ่มเบี้ยคนชราหลักร้อย ไม่พอยาไส้ยุคข้าวยากหมากแพง เหน็บ ถ้าทำไม่ได้ก็ไปดูยุค “ยิ่งลักษณ์” ลั่น สิ่งที่ปชช.ต้องการคือ นายกฯ-รมต.ที่มีความสามารถพาประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลง ไม่อยู่ในสภาพรถตกหล่มแบบทุกวันนี้

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบกลางปี 2565 ที่เคยเห็นชอบหลักการไปแล้ว เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษ ผู้สูงอายุรวมกว่า 8,300 ล้านบาท ตั้งแต่ 100-250 บาทต่อคนต่อเดือนตามช่วงอายุ เป็นเวลา 6 เดือนนั้น ว่า การช่วยเหลือผู้สูงอายุและประชาชนเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากขณะนี้ประชาชนกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจกันอย่างถ้วนหน้า จากการบริหารที่ผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่การอุดหนุนเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุควรดำเนินการเร็วกว่านี้ และอุดหนุนให้เท่ากับที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยหาเสียงไว้ในการเลือกตั้งปี 2562 โดยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หาเสียงเอาไว้ว่า จะปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทุกช่วงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เคยหาเสียงจะปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) หาเสียงจะปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็น 2,000 บาทต่อเดือน จนปัจจุบันรัฐบาลอยู่มาเกือบครบวาระ 4 ปี แต่สิ่งที่ผู้สูงอายุได้รับกลับได้ไม่ครบถ้วนตามที่หาเสียงเอาไว้ โดยผู้สูงอายุ 60-79 ปี ได้เบี้ยคนชรารวมเพียง 700-850 บาท และจะได้รับจำนวนนี้จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้เท่านั้น กลายเป็นว่าไม่ใช่เงินอุดหนุนที่แท้จริง แต่เป็นเพียงเบี้ยหัวแตกที่ไม่พอยาไส้ในยุคข้าวยากหมากแพงตอนนี้

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า พรรคการเมืองคือศูนย์รวมบุคคลกลุ่มต่างๆ ที่มีแนวคิดอุดมการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจหรือสังคมที่คล้ายคลึงกัน โดยมีเป้าเดียวกันที่จะขจัดทุกข์ บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชน การที่ประชาชนลงคะแนนเลือกบุคลากรของพรรคใด ประชาชนย่อมมุ่งหมายให้พรรคการเมืองไปดำเนินการ ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ให้เป็นจริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไทยในตอนนี้คือ ผ่านมาเกือบ 4 ปี ประชาชนกลับตั้งคำถามว่าสิ่งที่อยู่บนป้ายหาเสียงในตอนนั้นกลายเป็นโฆษณาชวนเชื่อในวันนี้ใช่หรือไม่ และหากพล.อ.ประยุทธ์ มุ่งหวังจะคลี่คลายความโศกเศร้า ความทุกข์ตรมต่างๆ ของประชาชนให้ได้มากที่สุด สิ่งเดียวที่ประชาชนต้องการคือ เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี และอยากได้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่มีความสามารถ นำพาประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ไม่ตกอยู่ในสภาพรถตกหล่มแบบทุกวันนี้มากกว่า

“การหาเสียงไม่ใช่พูดไปเพื่อให้ประชาชนมาลงคะแนนเฉพาะช่วงการเลือกตั้งแล้วจบกันไปเท่านั้น แต่มันคือการแสดงความรับผิดชอบว่าพรรคการเมือง พร้อมที่จะรับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนของปวงชน จึงอาสามาลงสมัครรับเลือกตั้ง ตอนหาเสียงพูดอย่าง พอได้เป็นรัฐบาลทำได้เพียงแจกเงินแบบขอไปทีไม่ดีแน่ ถ้าทำไม่ได้ขอให้กลับไปดูนโยบายเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ว่าจะเสนอนโยบายใดก็ทำได้จริง จนเป็นเงินรายได้ให้ผู้สูงอายุและคนพิการมาจนถึงในปัจจุบัน” น.ส.ตรีชฎา กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image