ไม่ว่าในที่สุด “ชะตากรรม” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในทางการ เมืองจะลงเอยอย่างไร
ถูก”ยึดทรัพย์”
โครงการ”จำนำข้าว”ได้กลายเป็น “ตราบาป”ติดตัวไปตราบชั่วกัลปวสาน
แต่ที่แน่ๆในท่ามกลางความเป็นไป
วิถีในทางการเมืองตามระบบ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้จบสิ้นไปแล้วโดยพื้นฐาน
ตั้งแต่สนช.มีมติ”ถอดถอน”ตามข้อเสนอ”ป.ป.ช.”
นั่นหมายความว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้อง”เว้นวรรค”ทาง การเมืองเป็นเวลา 5 ปี
ไม่มีสิทธิ์”เลือกตั้ง” ไม่มีสิทธิ์มี”บทบาท”
กระนั้น ก็มิได้หมายความ “กระแส”ทางการเมืองของ น.ส.ยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร จะหมดสิ้นไปอย่างสิ้นเชิง
ตรงกันข้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังมี”ฤทธิ์”
ฤทธิ์ในที่นี้ที่เห็นได้อย่างเด่นชัดนับแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา
คือ ฤทธานุภาพในด้าน “บารมี”
บรรดามวลชนที่นิยมชมชอบยังแวดล้อมให้ความอบอุ่นและยังเรียกขานคำนำหน้าว่า
“นายกฯ”ยิ่งลักษณ์อยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย
ฤทธิ์ตรงนี้หากพรรคเพื่อไทยมีความเฉลียวก็สามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้
ที่สำคัญก็คือ คะแนนสงสาร คะแนนความเห็นอกเห็นใจ
ขณะเดียวกัน เชื่อได้เลยว่าที่หลายคนมองว่า”จำนำข้าว”จะกลายเป็นเหมือน”ตราบาป”ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย
แต่แนวโน้มกลับเด่นชัดยิ่งว่าอาจกลายเป็น “จุดแข็ง”
ยิ่งรัฐบาลและคสช.ตัดสินใจงัดเอามาตรการ”จำนำยุ้งฉาง”มาเป็น เครือ่งมือในการสะสางวิกฤต”ราคาข้าว”
ยิ่งทำให้”จำนำข้าว” มีความโดดเด่น
เป็นความโดดเด่นที่สัมผัสได้จากความรู้สึกของ”ชาวนา”ไม่ว่าจะในพื้นที่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นั่นก็คือ เกิดการถวิลหา “จำนำข้าว”
หากมาตรการ”จำนำยุ้งฉาง”ทำให้ราคาข้าวโงหัวขึ้นจากสภาพ “โลละ 5 บาท”ได้
นั่นจะทำให้”จำนำข้าว”มีความหอมหวาน
เชื่อได้เลยว่า ในการเลือกตั้งก่อนปลายปี 2560 พรรคเพื่อไทย จะต้องนำเอานโยบาย”จำนำข้าว”ขึ้นมาอีก
ปรับแต่ง”จุดอ่อน” เสริม”จุดแข็ง”
แล้วก็นำเสนอเป็นทางเลือกและทางออก 1 สำหรับชาวนาและสังคมไทย
นี่คือ”ฤทธิ์”ของน้องปู นี่คือฤทธิ์ของ”จำนำข้าว”
