‘กลุ่ม 24 มิ.ย.-เครือข่ายคนรุ่นใหม่ฯ’ จวก รัฐไทย สมคบคิดเมียนมาเข่นฆ่าฝ่ายต่อต้านเผด็จการ

‘กลุ่ม 24 มิ.ย.-เครือข่ายคนรุ่นใหม่ฯ’ จวก รัฐไทย สมคบคิดเมียนมาเข่นฆ่าฝ่ายต่อต้านเผด็จการ อัด กองทัพอากาศ ใช้งบสูง แต่หย่อนประสิทธิภาพรักษาอำนาจอธิปไตย

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่รัฐสภา กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยและเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ยื่นหนังสือ ขอให้ตรวจสอบรัฐไทยสมคบรัฐเมียนมาละเมิดอธิปไตยไทยใช้เครื่องบินรบถล่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและตรวจสอบการยินยอมให้กองทหารเมียนมาใช้ภาคพื้นดินเขตแดนไทยโจมตีรัฐกะเหรี่ยง ผ่านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.)

โดย น.ส.อาทิตยา พรพรหม สมาชิกกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวว่า จากกรณีวันที่ 30 มิถุนายน เวลา 11.16 น. เครื่องบินรบเมียนมา MIG-29 รุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทย ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบในฝั่งรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา โดยบินผ่านเพื่ออ้อมไปยิงถล่มใส่ฝ่ายที่ต่อต้านในฝั่งเมียน ทำให้ชาวบ้านในบริเวณนั้นเกิดความแตกตื่นจนต้องเข้าไปหลบในหลุมหลบภัย ทั้งนี้ โรงเรียนในบริเวณต้องหยุดการสอนทันที เพราะนักเรียนต้องไปหลบในหลุมหลบภัย ผู้ปกครองต้องมารับนักเรียนกลับบ้าน รวมถึงมีกระสุนยิงไปยังรถยนต์ชาวบ้านคนไทยเสียหาย

นอกจากนี้ ยังมีผู้อพยพลี้ภัยสงครามเข้ามาถึง 576 คน และมีผู้หนีภัยคนบาดเจ็บอีกจำนวนมากมายที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในเขตแดนไทย ภายหลัง วันที่ 1 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวว่า เขาต้องตีวงเลี้ยวจึงล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทยเล็กน้อย ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โต คำกล่าวเช่นนี้ เป็นการยินยอมให้รัฐเผด็จการเมียนมา ใช้ดินแดนไทยไปทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง ดังนั้น การยินยอมให้เมียนมารุกล้ำในไทยไม่เพียงแต่เป็นการทำให้ไทยสูญเสียอธิปไตยเหนือดินแดน ยังเป็นการสมคบคิดทำลายล้างชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นอาชญากรสงคราม

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข สมาชิกกลุ่ม 24 มิถุนาฯ กล่าวว่า ก่อนหน้าการส่งเครื่องบินรบลุกล้ำเข้ามาน่านฟ้าไทย ในวันที่ 29 มิถุนายน พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาค 3 เดินทางไปกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา เพื่อร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา จึงมีข้อสงสัยได้ว่า จะเป็นการสมรู้ร่วมคิดยินยอมให้เมียนใช้ดินแดนไทยต่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแบบทำลายล้างในครั้งนี้หรือไม่ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยจึงขอเรียกร้องต่อสมาชิกผู้แทนราษฎรดำเนินดังต่อไปนี้

Advertisement

1.ตรวจสอบการใช้งบประมาณกองทัพอากาศประจำปี 2566 เพราะเป็นการใช้งบประมาณที่สูงไปกับความหย่อนยานการปกป้องอธิปไตยดังกรณีเครื่องบินรบพม่ารุกล้ำไทย 2.ตรวจสอบการสมรู้ร่วมคิดระหว่างรัฐไทยกับรัฐเมียนมาใช้เครื่องบินรบเข้ามาดินแดนไทยไปยิงถล่มกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแบบทำลายล้างทั้งในด้านที่เป็นการสูญเสียอธิปไตยเหนือดินแดน

นายสมยศกล่าวต่อว่า 3.ตรวจสอบการยินยอมให้ทหารเมียนมาจำนวน 100 นายพร้อมอาวุธเข้ามาดินแดนไทยเข้าไปโจมตีเมือง Sone Se Myaing เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ตามเอกสารและแผนที่ที่ได้แนบมา 4.ตรวจสอบความเสียหายทั้งที่เกิดกับชาวกะเหรี่ยงที่อพยพหนีภัยสงครามเข้ามาและชาวบ้านในพื้นที่ และให้มีการเยียวยาหรือชำระความเสียหายที่เกิดขึ้น

5.การที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทูตทหารเองก็ได้พูดคุยกันแล้ว เขาก็ขอโทษมา แล้วก็คุยกันแล้ว เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นเผด็จการทหารที่ไม่มีความรับผิดชอบทางสังคม ปราศจากศักดิ์ศรีของประเทศไทย ดังนั้น พล.อ.อาวุโส มิน ออง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำรัฐประหารเมียนมา ต้องกล่าวขอโทษและยืนยันเป็นทางการว่าจะไม่สมรู้ร่วมคิดกับทางการรัฐไทยในการใช้ดินแดนไทยเป็นฐานปฏิบัติการทางการทหารในการเข่นฆ่าประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ หรือประชาชนที่ต่อต้านเผด็จการทหาร

Advertisement

ขณะที่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า วันนี้ (7 กรกฎาคม) จะมีการประชุมคณะกรรมธิการ (กมธ.) การต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยได้เชิญกองทัพอากาศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กระทรวงการต่างประเทศ และผู้ว่าราชการจังหวัดตาก มาเข้าร่วมการประชุมด้วย เรื่องนี้ตนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อความมั่นใจของประชาชนที่จะอยู่อย่างปลอดภัยในพื้นที่ดังกล่าว สำหรับพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทยที่ติดกับเมียนมา เชื่อว่ามีคนในพื้นที่ไม่ว่าชายแดนไทยหรือชายแดนเมียนมานั้นเป็นญาติกัน ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมา ก็ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image