ชาวบ้านร้อง ‘ชัชชาติ’ ค้าน ‘ทางยกระดับ ซ.รามฯ24’ เผยเคยฟ้อง กทม. เรื่องยังคาที่ศาลปกครอง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 กรกฎาคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชาติชาย จิตตโรภาส ตัวแทนชุมชนซอยถาวรธวัช 1 และรามคำแหง 24 ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เรื่องคัดค้านโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนน และก่อสร้างทางยกระดับข้ามแยกถาวรธวัช 1 และถนนซอยรามคำแหง 24 โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักเลขาฯ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้รับหนังสือแทน
นายชาติชายกล่าวว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้ช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร เพราะมีการสร้างเสาตอม่อขวางตลอดแนวถนน รถที่สัญจรด้านล่างก็ยังต้องติดอยู่เหมือนเดิม อีกทั้งเป็นอุปสรรคต่อการเข้าใช้บริการสนามกีฬา ของการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) หรือคนที่จะมาโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงเห็นว่าไม่ควรสร้างสะพาน แต่ควรขยายถนนมากกว่า โดยแบ่งพื้นที่จาก ม.รามคำแหงมาขยายถนน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ฟ้องร้อง กทม.ต่อศาลปกครอง ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ เนื่องจากโครงการดังกล่าวไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนผู้ฟ้องยื่นคำคัดค้านคำให้การของผู้ถูกฟ้อง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า
นายชาติชายกล่าวต่อว่า เดิมมีการฟ้องร้องที่ศาลปกครอง คิดว่า กทม.จะรอคำพิพากษาค่อยเซ็นสัญญา แต่ปรากฏว่า กทม.ใช้ช่องว่างช่วงเปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม.ในการลงนามสัญญาจ้างไปแล้ว จึงมาร้องเรียน นอกจากนี้ กทม.ควรเปิดเวทีทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นประชาชน ทั้งนี้ ก่อนปี พ.ศ.2562 กทม.มีแค่โครงการขยายถนนไม่มีการก่อสร้างสะพาน งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท มีการยกเลิกไปและมีการปรับแบบ จนล่าสุดเป็นโครงการที่มีสะพานยกระดับด้วย และเพิ่มงบประมาณกว่า 700 ล้านบาท
“สะพานไม่มีประโยชน์เลย มีแต่โทษอย่างเดียว มันจะเป็นอุโมงค์ มีผลกระทบทั้งเรื่องเสียง ควันรถ ก็เป็นทุกข์มากสำหรับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตรงนั้น แล้วก็จะกลายเป็นสภาพเสื่อมโทรม มืด สกปรก” นายชาติชายกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติได้ตอบเรื่องดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าที่แยกไฟฉาย พร้อมระบุว่า ต้องมีผลกระทบอยู่แล้วเนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ การเยียวยาจึงต้องเหมาะสม จึงจะรอฟังความเห็นของชาวบ้านก่อน เพราะโครงการนี้เริ่มมานานแล้ว
นอกจากนี้ นายชัชชาติยังสอบถาม นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผอ.สำนักการโยธา ด้วยว่า โครงการนี้ได้ทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือไม่
โดยนายไทวุฒิ ชี้แจงว่า ไม่ได้ทำ EIA เพราะโครงการทำในพื้นที่สาธารณะ อยู่ในแนวถนนเดิม จึงพยายามหาทางออกร่วมกับชาวบ้าน
