นักวิชาการลุยยื่นสหประชาชาติ ปมสิทธิประกันตัว ‘ใบปอ-บุ้ง’ เผย จนท.รับปาก ‘จะไปสื่อสารกับรัฐบาลไทย’

จากซ้าย อ.ดร.เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว และนางภัควดี วีระภาสพงษ์

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหน้าองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินกลาง หลังตัวแทนผู้ชุมนุม 3 รายเข้ายื่นหนังสือ (อ่านข่าว นักแปลชื่อดัง-ป้าเป้า ทะลุกี จี้ปล่อยใบปอ-บุ้ง ยืนตากฝนหน้ายูเอ็น ยื่นหนังสือฟ้องสหประชาชาติ) โดยเมื่อเวลา 14.00 น. ตัวแทนทั้ง 3 คน เปิดเผยต่อสื่อมวลชน ถึงข้อสรุปในการยื่นหนังสือในครั้งนี้

นางภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปลและนักเขียนอิสระกล่าวว่า พวกตนได้เข้าไปยื่นจดหมายถึงนายเดวิด เมอร์ฟี ที่เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานทางด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ เกี่ยวกับกรณีของประเทศไทยซึ่งมีการละเมิดสิทธิการประกันตัว  นักโทษนักกิจกรรมทางการเมืองขณะนี้ไม่ได้รับการดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม

“เขารับทราบข้อมูลต่างๆ ในแง่หนึ่งเขาคิดว่าในเรื่องของไทย คงจะมีการจับตาดูต่อไปข้างหน้าว่าเป็นเช่นใดบ้าง” นางภัควดีกล่าว

อ.ดร.เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ม.มหิดล กล่าวเสริมว่า มีความกังวลเป็นพิเศษต่อกรณีนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะเยาวชนที่อดอาหารอยู่ในขณะนี้

Advertisement

“เรามีความกังวลต่อกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทางสำนักข้าหลวงใหญ่ก็เห็นความกังวลตรงนั้น และรับว่าจะไปสื่อสารกับรัฐบาลไทย เพื่อแสดงให้เห็นข้อกังวลตรงนี้ สิ่งหนึ่งที่ทางเราเสนอไป และทางยูเอ็นพยายามพิจารณาและติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐไทยเหมือนกันคือการขอเข้าไปเยี่ยมนักโทษทางการเมืองที่ตอนนี้อยู่ในเรือนจำ เพื่อที่จะได้ไปติดตามสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง” อ.ดร.เบญจรัตน์ กล่าว

ด้านนางภัควดี กล่าวต่อว่า ทางยูเอ็นได้ถามว่าเราได้ช่องทางอื่นๆด้วยหรือไม่ในแง่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย ซึ่งความจริงในหลายๆทางหรือทางด้านคณะกรรมการของสภา ได้พยายามใช้ทุกช่องทางอยู่แล้วในการเรียกร้องสิทธิในเรื่องนี้ ถึงที่สุดแล้วที่เราต้องการคือให้มีการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ทั้งในประเทศและกติกาสากลระหว่างประเทศ นี่ไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่เกินเลย

“ตรงนี้ทำให้สถานะไทยบนเวทีโลกก็จะมีปัญหา ถูกจับตามองมากขึ้นในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าเขามีความสนใจและมีการจับตามองอยู่” นางภัควดีกล่าว

Advertisement

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทางยูเอ็นจะมีแถลงการณเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ อ.ดร.เบญจรัตน์ ตอบว่าคงไม่ได้มีการแถลงการณ์อย่างนั้น แต่รับว่าจะนำส่งต่อข้อกังวลนี้ไปกับหน่วยงานราชการไทยที่เกี่ยวข้อง และเสนอแนะให้เราไปติดต่อ เช่น ส่งข้อมูลไปยังพวกกลไกพิเศษต่างๆของสหประชาชาติ ที่ติดตามเรื่องสิทธิทางการเมือง สิทธิพลเมืองของประชาชน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการดำเนินการเข้าเยี่ยมนักโทษทางการเมืองเป็นอย่างไรบ้าง อ.ดร.เบญจรัตน์ กล่าวว่า เข้าใจว่ามีการประสานกับกรมราชทัณฑ์เพื่อที่ขออนุญาตเข้าไปเยี่ยมแต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบเหมือนกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีไม่มีความคืบหน้าจะมีการดำเนินการอย่างไร นางภัควดี กล่าวว่า ในแง่หนึ่งตอนนี้สถานการณ์โควิด19 ทำให้รัฐไทยมีข้ออ้างเยอะ ในการให้เข้าเยี่ยมหรือไม่ให้เข้าเยี่ยม เมื่อใช้สถานการณ์โควิด19เข้ามาอ้าง ทางยูเอ็นเองต้องรอการตอบรับเหมือนกัน ซึ่งถ้ายูเอ็นได้เยี่ยมนักโทษแล้วมีอะไรต่อไปอาจมีการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น เพราะถ้ายังไม่ได้ไปเยี่ยม อาจแสดงความคิดเห็นอะไรไม่ได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทางยูเอ็นที่ติดตามสถานการณ์การเมืองไทยมาตลอดมีความเห็นอย่างไรบ้าง นางภัควดี กล่าวว่าทางยูเอ็นติดตามมาตลอด เพียงแต่ว่าอาจะไม่ได้แสดงความคิดเห็นโดยอิสระแบบที่เราสามารถแสดงได้ ก็จะมีข้อจำกัดในเรื่องสถานะบทบาทอยู่ แต่เขาจับตามอง เท่าที่เข้าใจ อันดับของไทยในการแสดงความคิดเห็นตกต่ำพอสมควร แสดงให้เห็นว่าเขามีความสนใจในเรื่องพวกนี้อยู่

อ.ดร.เบญจรัตน์ กล่าวเสริมว่า เท่าที่รู้ยูเอ็นติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดมาก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคาดหวังอะไรหลังจากเหตุการณ์วันนี้หรือไม่ อ.ดร.เบญจรัตน์ กล่าวว่าคิดว่าเราไม่ได้หวังให้ยูเอ็นเปลี่ยนแปลงอะไร ท้ายที่สุดแล้วเราประชาชนคนไทยต้องช่วยกันกดดัน เพื่อให้รัฐบาลของเรามีการเปลี่ยนแปลง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image