พบ ‘งบกำลังพล’ กินไปเกินครึ่ง ตั้งโครงการไม่เกี่ยวงานทหารกว่า 3.1 พันล้าน-ขอซื้ออาวุธกันทุกเหล่าทัพ

‘พริษฐ์’ เผย 6 ข้อกังวลงบกลาโหม พบ ‘งบกำลังพล’ กินไปเกินครึ่ง ตั้งโครงการไม่เกี่ยวงานทหารกว่า 3.1 พันล้าน-ขอซื้ออาวุธกันทุกเหล่าทัพ

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณางบของกระทรวงกลาโหมว่า ในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ หน่วยงานหลักภายใต้กระทรวงกลาโหม 6 หน่วยงาน คือ 1.สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 2.กองทัพบก 3.กองทัพเรือ 4.กองทัพอากาศ 5.กองบัญชาการกองทัพไทย และ 6.สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จะเข้ามาชี้แจง กมธ. ในปี 2566 กระทรวงกลาโหมได้ของบประมาณทั้งหมด 197,293 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 4 โดยภาพรวมงบประมาณลดลงมา 1.32 % หรือ 2,644 ล้านบาท

นายพริษฐ์กล่าวว่า เมื่อดูแล้วอาจจะมีความสอดคล้องกับข้อทักท้วงในปีก่อนๆ ถึงความเหมาะสมกับภารกิจในประเทศ แต่เมื่อดูในรายละเอียด ตนมีข้อกังวล 6 ประเด็น คือ 1.งบบุคลากรที่ยังถือว่าค่อนข้างสูง ที่เพิ่มขึ้น 2,404 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนงบของกระทรวงกลาโหมใช้ไปกับบุคลากร 54% เป็นอัตราสูงสุดในรอบ 5 ปี ทั้งที่ภัยคุกคามในอนาคตอาจจะพึ่งพาบุคลากรน้อยลง เช่น ภัยคุกคามอาวุธนิวเคลียร์ ภัยคุกคามไซเบอร์ ภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ หรือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ ตนจึงจะตั้งคำถามถึงแผนการจัดการบุคลากร และอัตรากำลังพล ว่าคิดจากฐานและกรอบความคิดอะไร 2.การเกณฑ์ทหาร เมื่อดูจาก 5-10 ปีที่ผ่านมายอดกำลังพลที่กองทัพขอประมาณ 90,000-100,000 คน โดยตนจะถามถึงความชัดเจนว่าปีนี้จะเกณฑ์กำลังพลเท่าใด และจะถามถึงงบประมาณที่ต้องใช้เกณฑ์ทหาร ตนคิดว่าการวางกำลังพลเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ ก็ไม่น่าถึงจำนวนที่กองทัพขอ และปัจจุบันทหารเกณฑ์บางส่วนก็ไม่ได้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง หากลดยอดกำลังพล และเพิ่มสวัสดิการ จะทำให้ยอดคนสมัครมีมากเพียงพอต่อกำลังพลที่ต้องการ จนนำไปสู่การยกเลิกการเกณฑ์ทหารได้

นายพริษฐ์กล่าวว่า 3.ยุทโธปกรณ์ จากข้อมูลเท่าที่ดูได้ กระทรวงกลาโหมของบในส่วนนี้ 12,389 ล้านบาท กระจายไปที่กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองบัญชาการกองทัพไทย ตนจะสอบถามแต่ละหน่วยงานใน 3 ประเด็น คือ 1) ความเหมาะสมของยุทโธปกรณ์ในแต่ละโครงการว่าจำเป็นเร่งด่วนมากน้อยเพียงใด และใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร 2) มีแนวทางการทำนโยบาย Defense Offset หรือแนวคิดการนำเข้ายุทโธปกรณ์ ที่วางเงื่อนไขและสัญญาที่จะต้องให้เกิดการจ้างงาน เพิ่มมูลค่าให้กับประเทศไทย และการโอนถ่ายเทคโนโลยีอย่างไรบ้าง และ 3) มีแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมยุทโธปกรณ์ภายในประเทศ เพียงพอหรือไม่ และมีแผนการลดการนำเข้าจากต่างประเทศหรือไม่ 4.งบวิจัยและพัฒนาของปีนี้ ยังคงต่ำ คืออยู่ที่ 197 ล้านบาท หรือ 0.1% ของงบกระทรวงฯ จึงจะสอบถามว่ากระทรวงฯมีความจริงจังกับการลงทุนวิจัยและพัฒนามากน้อยเท่าใด และอยากจะถามถึงผลลัพธ์ของงานที่ผ่านมาว่านำไปสู่อะไรบ้าง

นายพริษฐ์กล่าวว่า 5.งบประมาณที่ถูกใช้ไปกับโครงการที่ไม่น่าเป็นพันธกิจหลักของทหาร ที่ของบมา 3,160 ล้านบาท โดยนำไปใช้กับโครงการพัฒนาศักยภาพด้านการพัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชน ในรายละเอียดจะเป็นโครงการจัดหาแหล่งน้ำของกองบัญชาการกองทัพไทย ที่ตั้งงบ 1,325 ล้านบาท คิดเป็น 25% ของงบที่กรมทรัพยากรน้ำได้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างและปรับปรุงทางหลวงชนบท การอนุรักษ์ และฟื้นฟูธรรมชาติ จึงสงสัยว่าเหตุใดทหารจึงมาดำเนินการเรื่องเหล่านี้ และ 6.งบราชการลับ ที่ตั้งไว้ 470 ล้านบาท กระจายไปทุกเหล่าทัพ จึงต้องสอบถามว่าเหตุผลที่ต้องระบุเป็นงบราชการลับ และแนวทางการเพิ่มความโปร่งใสของการใช้งบ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image