‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ เปิดญัตติซักฟอก ถลกหนัง ‘บิ๊กตู่’ ไร้ความสามารถทุกมิติ อย่าอยู่เป็น 608 ทำลายชาติ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน

‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ประเดิมอ่านญัตติซักฟอกวันแรก เดินหน้าตัดวงจรอุบาทว์ เห็บปรสิตที่สูบเลือดประเทศ ถลกหนัง ‘บิ๊กตู่’ เป็นผู้นำไร้ความสามารถทุกมิติ ระบุอย่าดันทุรังบริหารประเทศ อย่าอยู่เป็น 608 ทำลายชาติ

เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ในรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คน วันแรก โดยมี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม

จากนั้นเวลา 09.40 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อ่านญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจและอภิปรายขยายความในญัตติตอนหนึ่งว่า ความเจ็บปวดและความทุกข์ยากของประชาชนถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่บุคคลชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ความปรารถนาในอำนาจ ความอยากอยู่ในตำแหน่งไปตลอดกาลของนายกรัฐมนตรีคนนี้

นพ.ชลน่านอภิปรายว่า การบริหารแบบคุยโวที่ผ่านมาทั้งหมดตลอด 8 ปี คือความบกพร่อง ผิดพลาด ล้มเหลวของตัวท่านเองแต่เพียงผู้เดียว และความสิ้นหวังที่เกิดขึ้นกับประชาชนในขณะนี้ยากเกินความสามารถ เกินสติปัญญาของท่านที่จะแก้ไข ซึ่งท่านไม่ควรดันทุรังบริหารประเทศต่อไปอีกแล้ว ผมคาดหวังจะเห็นจากนายกฯตระหนักถึงจิตสำนึกความเป็นมนุษย์ การรู้ผิดชอบชั่วดีว่าตนนั้นไร้ศักยภาพ ไร้ความสามารถโดยสิ้นเชิงในการบริหารจัดการแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติ และประชาชนคาดหวังว่าอาจถึงเวลาแล้วที่จะเกิดความสำนึกรู้ว่าตนควรจะยุติบทบาทนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ประวัติศาสตร์จะจารึกถึงความล่มสลายที่ท่านได้ก่อขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ พวกเราคงต้องติดตามดูภาวะผู้นำของนายกฯคนนี้กันต่อไป

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกความจริงต้องถูกเปิดเผย ความเสียหายที่สร้างไว้ต้องถูกตีแผ่ ทุกความผิดพลาด บกพร่อง ล้มเหลว การก่อทุจริตต้องถูกเปิดโปง และนำไปสู่การดำเนินคดีในกระบวนการยุติธรรม นำคนผิดมาลงโทษ เราจะร่วมกันตัดวงจรอุบาทว์ เห็บปรสิตที่สูบเลือดประเทศเพื่อความอิ่มเอมของตนและพวกพ้องจะต้องถูกกำจัด

Advertisement

“พรรคร่วมฝ่ายค้านจะขอใช้เวลาทั้งสิ้น 4 วัน 45 ชั่วโมง อย่างคุ้มค่าทุกวินาที เพื่อหยุดสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ หยุดการทำลายชาติ เพื่อชี้ให้สภาแห่งนี้เห็นถึงภัยร้ายที่เกิดขึ้นมาตลอด 8 ปี หวังว่าสิ่งที่พวกเราได้ทุ่มเททำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ จะทำให้ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่า นั่งร้านที่พวกท่านพยายามค้อมหัวยอมเป็นให้กับรัฐบาลนี้ ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างใหญ่หลวง ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะร่วมมือกันยุติความเสียหายเหล่านี้ และเริ่มต้นใหม่กับรัฐบาลที่มาจากเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง

“ผมขอขอบคุณ กลุ่มราษฎร ที่เปิดกล่องลงมติไม่ไว้วางใจเป็นมติมหาชน หากเห็นมติมหาชนจะเปลี่ยนใจมาลงมติไม่ไว้วางใจร่วมกับฝ่ายค้าน พล.อ.ประยุทธ์และพวกมีที่มาไร้ความชอบธรรม เข้าสู่อำนาจด้วยการรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากประชาชน นั่นคือการปล้นอำนาจของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ ผลักดันตนเองเข้ามาเป็นรัฐบาลเถื่อน ฉีกรัฐธรรมนูญกฎหมายสูงสุดของประเทศ และยังรักษาอำนาจด้วยกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญที่น่าอดสูใจอย่างยิ่ง

“เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างกองกำลังในสภาให้ซ้ายหันขวาหัน โหวตรักษาอำนาจให้ตนได้ตามอำเภอใจ จนรัฐบาลเถื่อนของตนอยู่รอด สร้างความล่มสลายให้ประเทศต่อเนื่องยาวนานเกือบ 8 ปี” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ยอมรับเถิดว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เกิดจากนิติบริกรที่ พล.อ.ประยุทธ์เลือกเข้ามาจัดทำรัฐธรรมนูญจนได้ดังใจนั้น เป็นรัฐธรรมนูญที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ ดึงประเทศถอยหลังนับสิบๆ ปี เป็นมะเร็งร้ายบ่อนทำลายระบอบการเมืองไทย ทำลายประเทศ และอนาคตของลูกหลานของเราทั้งหมด เป็นเพียงเพราะความอยากอยู่ต่อในอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์อย่างไร้สำนึก ไร้ความชอบธรรม โดยไม่ใส่ใจความพินาศของเศรษฐกิจสังคม

นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นผู้นำไร้ความสามารถ ผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ ใช้ปากบริหารประเทศ เพราะชีวิตของ พล.อ.ประยุทธ์อาจรู้จักแต่กองกำลังในค่ายทหาร จึงมักคัดเลือกบุคลากรที่คุ้นเคยเหล่านี้เข้ามาทำงานในด้านต่างๆ แบบผิดฝาผิดตัว เป็นผู้นำที่สร้างความพินาศ ล้มเหลวให้กับประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข การเมือง คอร์รัปชั่นจนระบบประเทศพังพินาศล้มเหลว อาทิ ภาพการพิจารณางบประมาณปี 2566 เห็นชัดเจนว่าช่วงใกล้เลือกตั้งจัดงบกระจุกตัว จัดให้แต่ฝ่ายตนเองและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด

“การลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนที่จะต้องได้รับความยุติธรรม แต่กลับจับติดคุกทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษา บังคับใช้กฎหมายล้นเกิน กล่าวหาคนเห็นต่างไม่จงรักภักดี ทั้งที่จริงตัวท่านเองแอบอิงใช้ประโยชน์เพื่อต้องการอยู่ในอำนาจ การสถาปนาสภากล้วย จงใจเป็นปฏิปักษ์ทำลายระบบรัฐสภาและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรื่องนี้ถึงศาลแน่นอน อีกทั้งยังครอบงำชี้นำพรรคการเมืองที่สมยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก้าวก่ายแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติสั่งการสูตรคำนวณ ส.ส.หาร 500 มีการต่อรองทางการเมืองมากมาย เพื่อทำงานพรรคการเมืองคู่แข่งให้การยึดอำนาจมาไม่เสียของ เหมือนจับหนูตัวเดียวแต่เผาบ้านตัวเอง

“ผมยังเชื่อมั่นศาลรัฐธรรมนูญ พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ส. ท่านใช้วิธีการแบบนี้พรรคกลางและพรรคเล็กตายหมด ผมแนะนำว่ายังมีเวลาไปใช้ศาลรัฐธรรมนูญทักท้วงว่าการแก้ไขมาตรา 23 ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ถึงศาลแน่ และจะมีใครบางคนถูกสอย เสียงในสภาไม่ชนะศรัทธาประชาชนแน่นอน คนดูถูกอำนาจประชาชนจะถูกสั่งสอนในสนามเลือกตั้ง

“ผมขอร้องไปยังเพื่อนสมาชิก เรามาจากประชาชนต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชน เพื่อประเทศชาติและบ้านเมือง ผมหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพวกเราจะได้มาเจอกัน ณ แห่งนี้ และหวังว่าคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ควรจะไปจากสภาแห่งนี้ เพราะท่านไม่เคยให้เกียรติสภาแห่งนี้ ไปได้แล้วครับ ท่านอย่าอยู่เพื่อเป็น 608 ทำลายประเทศชาติ” นพ.ชลน่านกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image