“พีระวิทย์” รับ “บิ๊กตู่” เรียกคุย ขอให้โหวต 11 รมต. เผย บ่ายนี้พบ “ธรรมนัส”
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม กล่าวถึงทิศทางการลงมติรัฐมนตรีทั้ง 11 คน ว่า เบื้องต้นจะลงมติไม่ไว้วางใจนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แต่เมื่อมติของพวกเราถูกเปิดเผยไป ก็ได้มีการนัดเคลียร์ของผู้ใหญ่และขอให้กลุ่ม 16 พูดคุยกันอีกครั้ง
นายพีระวิทย์ กล่าวว่า ตนยอมรับว่าพวกเราเป็นเพียงผู้น้อย ซึ่งคงต้องเปิดใจ และกลับมาทบทวนอีกรอบ ซึ่งผู้ใหญ่ในที่นี้คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการเชิญนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หัวหน้ากลุ่ม 16 ไปพูดคุยเพื่อขอให้โหวตให้รัฐมนตรีทั้ง 11 คนในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และหากมีสงสัยอะไร พล.อ.ประยุทธ์ยินดีจะเชิญรัฐมนตรีแต่ละคนมาให้ข้อมูล โดยอาจจะมี พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนกลางให้ ทั้งนี้ ทิศทางการโหวตของพรรคเล็กจะเป็นไปในทิศทางเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล
“ยอมรับว่าพวกเรามีความหนักใจ และวันนี้เรามีนัดกันในเวลา 09.00 น. ซึ่งจะมีพรรคเล็กร่วมประชุมครบทุกพรรค โดยจะมีการพูดคุยว่า หาก ส.ส.มีความเห็นว่าไม่ขอลงมติไว้วางใจ หากจะไล่ออกจากรัฐบาลก็ยอม เราถูกขอให้รักษาความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล คือการโหวตให้รัฐมนตรีทั้ง 11 คนไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก็มีเพียง 2-3 พรรคที่ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม หากเกิดการบังคับ อาจจะมีการสวนมติ และถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล โดยนายพิเชษฐสังกัดพรรค พปชร.และเป็นหัวหน้ากลุ่ม 16 เราอาจจะขอให้นายพิเชษฐออกเสียงไปคนเดียวเพื่อรักษาความเป็นสังกัดพรรค พปชร. อย่างไรก็ตามหากพรรคเล็กพูดคุยกันแล้ว ผมและนายพิเชษฐก็จะไปพบและพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี โดยผมตั้งใจจะไปถามนายกรัฐมนตรีถึงนโยบายผู้สูงอายุ เพราะถ้าทำให้ต่อ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ยกมือให้ทั้ง 11 คน ผมจะโดนสังคมด่าก็ด่าไป แต่ผมเอาเงินมาให้ผู้สูงอายุ ผมยอมโดนด่า หรือผ่านที่ผมจะไปลงสมัครที่สระบุรี ในนามพรรคพลังประชารัฐ นายกฯ จะสามารถ ลงพื้นที่ไปพบประชาชนกับผมสักครั้งได้ไหม ถ้านายกทำได้ผมก็ไม่มีปัญหา” นายพีระวิทย์กล่าว
เมื่อถามถึง ทิศทางการลงมติของพรรคเล็ก ที่มีกระแสข่าวการต่อรองผลประโยชน์โดยการเลื่อนขั้นของลูกชายนายพิเชษฐ นั้น นายพีระวิทย์ กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้มีเรื่องส่วนตัวและเรื่องครอบครัวเข้ามาโยงใย และในฐานะที่ตนสนิทกับนายพิเชษฐ ตนขอยืนยันว่านายพิเชษฐไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใคร และเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เรื่องนี้จบไปนานแล้ว และถ้าเอาเข้าจิงลูกนายพิเชษฐควรจะได้ขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งนั่นก็จะกลายเป็นประเด็นการเมืองอีกว่าถูกดองการเมือง อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ พรรคเล็กทุกพรรคได้นัดพบกันกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) โดยจะไปกันทุกพรรคยกเว้นพรรคเศรษฐกิจใหม่ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
