สถานีคิดเลขที่ 12 : ‘กล้วย-กล้วย’วอร์

สถานีคิดเลขที่ 12 : กล้วย-กล้วยžวอร์

หลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 11 คน เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

กระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) คงติดตามมา

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะบอกว่ายังไม่คิด

Advertisement

แต่เชื่อว่ากระแสมาแน่

ซึ่งน่าจะควรยินดีกับกระแสดังกล่าว หากการปรับคณะรัฐมนตรี เป็นผลมาจากการที่ฝั่งฟากรัฐบาลยอมรับข้อมูลของพรรคฝ่ายค้าน ที่ชี้ถึงความบกพร่อง ผิดพลาดของรัฐมนตรี จนต้องปรับปรุงแก้ไข

แต่ น่าเสียดาย ที่กระแสการปรับ ครม.ดังกล่าว

Advertisement

ส่อแนวโน้มมิได้เกี่ยวกับการซักฟอกสักเท่าไหร่นัก

ยิ่งกว่านั้น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 10 คน ดูจะปากแข็งปฏิเสธข้อมูลของฝ่ายค้านหลายประเด็น ประเด็นที่นำมาแสดงและชี้ชัดถึงความไม่ชอบมาพากล จนไม่สมควรที่จะทำหน้าที่ต่อไป

และที่หนักหนาไปกว่านั้น คือท่าทีของพรรคเล็กพรรคน้อย แทนที่จะคำนึงถึงเนื้อหาเป็นหลัก

แต่กลับปรากฏร่องรอยการต่อรองผลประโยชน์ อย่างโจ๋งครึ่ม

เวทีซักฟอก จึงกลายเป็นเวทีเจรจาต่อรองเรื่องกล้วย-กล้วย

ซึ่งมิได้หมายถึง ตัวเงินที่ว่ากันว่ามากถึงระดับ เงินล้านŽ เท่านั้น

หากแต่ยังหมายถึงผลประโยชน์ที่อิงแอบอยู่กับภาระหน้าที่ของรัฐมนตรีอันจะเอื้อต่อการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นอีกไม่นานข้างหน้านี้

รวมทั้งผูกโยงไปถึงการย้ายพรรค ย้ายสังกัดที่จะเริ่มชัดเจนขึ้นมากทุกที

ชาวบ้านนอกสภาได้รับทราบข่าวการเจรจาต่อรอง ตั้งแต่ผู้นำในฝั่งฟากรัฐบาล ไปจนถึงระดับ ส.ส.ในสภา แบบเปิดเผย

อย่างนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ในฐานะสมาชิกกลุ่ม 16 บอกชัดๆ ว่าในเบื้องต้นจะลงมติไม่ไว้วางใจ นายจุติ ไกรฤกษ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ แต่เมื่อมติของกลุ่ม 16 ถูกเปิดเผยไปก็มีผู้ใหญ่นัดเคลียร์กลุ่ม 16 โดยยอมรับว่าเป็นเพียงผู้น้อย คงต้องเปิดใจ และกลับมาทบทวนอีกรอบ

นายพีระวิทย์บอกว่า ผู้ใหญ่ในที่นี้คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้เชิญ นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้ากลุ่ม 16 ไปพูดคุยเพื่อขอให้โหวตให้รัฐมนตรีทั้ง 11 คนในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และหากมีสงสัยอะไร พล.อ.ประยุทธ์ยินดีจะเชิญรัฐมนตรีแต่ละคนมาให้ข้อมูล พร้อมเป็นคนกลางในการพูดคุยให้

อันทำให้เสียงจากพรรคเล็กเอียงไปยืนข้างรัฐบาลในที่สุด

นำไปสู่ภาวะนอตหลุดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ตอนหลังมีจุดยืนตรงข้ามรัฐบาล และต้องการให้พรรคเล็กทั้งหลายมายืนข้างตน

แต่เมื่อพรรคเล็กจะโดยกล้วยหรือจากแรงกดดันของผู้ใหญ่ หรือ อะไรก็แล้วแต่ เปลี่ยนไป

คำผรุสวาท จาก ร.อ.ธรรมนัส ถึง โสเภณีการเมืองŽ ก็ดังลั่น

พร้อมกับเกิดกรณีไลน์หลุด การจ่ายเงินให้นักการเมืองกลุ่มหนึ่งเดือนละ 1 แสน

ตอกย้ำความอื้อฉาวของ สงครามกล้วย-กล้วย

และสะท้อนให้เห็นว่า การขับเคลื่อนทางการเมืองที่ผ่านมา รวมถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ควรจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ไปยังสิ่งที่ดีกว่า

เป็นเพียงเวทีที่ใช้ต่อรองแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในหมู่พวกพ้องการเมืองของตนเองเท่านั้น

จึงไม่ต้องแปลกใจกับกระแสข่าว การดันก้นพี่ป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นนั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แทน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่คะแนนในศึกซักฟอกออกมาย่ำแย่สุดในพี่น้อง 3 ป.

แน่นอนชาวบ้านคงไม่ได้มรรคผลจากกรณีนี้

เพราะเป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างการเมืองแบบกล้วยๆ ที่เขาแย่งชาม อำนาจŽ กันเองเท่านั้น

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image