เปิดหมวกไล่หวดเผด็จการ ‘ยืนหยุดขัง’ อนุสาวรีย์ชัยฯ ตั้งโต๊ะเขียน จ.ม.ถึงนักสู้-ทวงยุติธรรม
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม สืบเนื่องจากแฟนเพจ “ยืนหยุดขังประเทศไทย” ประกาศเชิญชวนประชาชนที่สนใจร่วมจัดกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” ทั่วประเทศไทย เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวผู้ต้องหาคดีทางการเมืองที่ยังไม่ถูกตัดสิน ซึ่งมีหลายกลุ่มกิจกรรมร่วมด้วยหลากหลายภูมิภาค ในช่วงเวลาตั้งแต่ 16.00-19.12 น. รวม 15 จังหวัด 24 จุด 1 กิจกรรมออนไลน์ โดยที่กรุงเทพมหานครมีการจัดกิจกรรม 9 จุด อาทิ หน้าศาลฎีกา, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งพญาไท, สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน, สยามสแควร์, เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ, สำนักงานอัยการสูงสุด รัชดาฯ, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท วง Fooong ร่วมกับสหภาพคนทำงาน จัด “ดนตรีเปิดหมวกไล่หวดเผด็จการ” ครั้งที่ 1
เวลา 16.00 น. เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางมารวมตัวบริเวณรอบเกาะพญาไท โดยบางส่วนนำป้ายข้อความเรียกร้องปล่อยตัวนักกิจกรรมทางการเมืองติดกระเป๋ามาด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล สายตรวจปฏิบัติการพิเศษ จอดริมถนน พร้อมวางกรวยจราจรบริเวณป้ายรถประจำทาง แต่ยังไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเฝ้าสังเกตการณ์
ต่อมาเวลา 16.20 น. นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้าทะลุกี เดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย โดยปูเสื่อนั่งรอชมดนตรี ขณะที่นักดนตรีวง Fooong เริ่มหาจุดทำกิจกรรม ตั้งลำโพง ทั้งนี้ มี สมณะดาวดิน ที่เคยอดอาหารท้วงสิทธิประกัน เดินทางมาร่วมด้วย
บรรยากาศเวลา 16.30 น. นักกิจกรรมเดินแจกจดหมายเปิดผนึกของเครือข่ายนักกฎหมาย คณาจารย์นิติศาสตร์ นักวิชาการ ทนายความ และนักสิทธิมนุษยชน ให้กับประชาชนที่สัญจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีเนื้อหาเดียวกันกับฉบับที่ รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนากฎหมาย ม.เชียงใหม่ นำคณาจารย์นิติศาสตร์ และภาคีนักกฎหมาย เดินเท้าไปยื่นจดหมายถึงประธานศาลฎีกา เมื่อช่วงเวลา 11.00 น. ของวันนี้
ผู้จัดกิจกรรมระบุถึงสาเหตุที่นำมาแจกด้วยว่า เป้าหมายของเรา คือต้องการเข้าถึงคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ ว่าขณะนี้มีนักกิจกรรมทางการเมืองถูกคุมขังโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม
นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งป้ายไวนิล ระบุข้อความขนาดใหญ่ว่า “พวกเราไม่เอาประยุทธ์” พร้อมภาพใบหน้านักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกคุมขัง มากกว่า 10 ราย อาทิ น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ และ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง จากกลุ่มทะลุวัง, นายเวหา แสนชนชนะศึก, คทาธรและคงเพชร, ปฎิมา, พรพจน์ แจ้งกระจ่าง, เอกชัย หงส์กังวาน, สมบัติ ทองย้อย, โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ, วัชรพล, พลพล, โอม ใบบุญ เป็นต้น ซึ่งมีผู้ประกาศอดอาหารประท้วงในเรือนจำ อย่างน้อย 3 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ายังมีการติดตั้งป้ายข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา” “คืนสิทธิประกันตัว” ไปจนถึงป้ายข้อความ “ร่วมส่งกำลังใจให้เพื่อนเรา” “เพื่อนเรากำลังจะตาย” ตั้งอยู่บนพื้น บริเวณใกล้เคียงกันมีการตั้งโต๊ะเขียนโปสการ์ด 2 แบบ คือ ส่งถึงเพื่อนในเรือนจำ และศาลฎีกา
เวลา 16.40 น. นักดนตรีวง Fooong เริ่มบรรเลงเพลงแรก เป็นเพลงสากล สลับกับเพลงไทย โดยเนื้อเพลงบางส่วนกล่าวถึงเพื่อน ที่ไม่ห่างหายไปจากความทรงจำ ระหว่างนี้ นายไพศาล จันปาน คนเสื้อแดง ผู้ริเริ่มกิจกรรมเดินหยุดขัง เดินทางมาร่วมด้วย
ต่อมาเวลา 16.45 น. นักกิจกรรมประกาศเชิญชวนผู้ที่สัญจร ร่วมเขียนโปสการ์ดส่งกำลังใจให้เพื่อนในเรือนจำ และส่งถึงศาลฎีกา เพื่อยืนยันสิทธิขั้นพื้นฐานในการประกันตัวชั่วคราว
เวลา 16.53 น. มีชายชาวต่างชาติร่วมสังเกตการชุมนุม พร้อมชู 3 นิ้วจากบนสะพาน โดยผู้ชุมนุมชาวไทย ต่างชู 3 นิ้วตอบกลับ และบันทึกภาพ
บรรยากาศเวลา 17.11 น. นักร้องวง Fooong กล่าวว่า วันนี้พวกเราวง Fooong จะมาเปิดหมวก แต่เราไม่ได้ต้องการเงิน เราต้องการกำลังใจให้เพื่อนของเรา มาร่วมกันเขียนโปสการ์ดฟรี ส่งถึงเพื่อนเราในเรือนจำได้
“เพื่อนๆ ที่ผ่านไปผ่านมา เรามาถึงที่ มีโปสการ์ดให้เขียนถึงผู้ต้องหาคดีทางการเมือง ที่ถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งตอนนี้มีถึง 30 กว่าคนแล้ว เราจะส่งถึงเพื่อนเราทุกใบ และวันนี้มีกิจกรรมยืน หยุด ขัง ด้วย รวมถึงมาเล่นดนตรีให้เพื่อนได้ฟัง ระหว่างรอรถประจำทาง” หนึ่งในนักดนตรี วง Fooong กล่าว
เวลา 17.15 น. นักกิจกรรมกล่าวผ่านโทรโข่ง ชวนเขียนโปสการ์ด ถึงศาลฎีกา เรียกหาความยุติธรรม และ ส่งโปสการ์ดถึงเพื่อนในเรือนจำ เติมกำลังใจให้กัน ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เวลา 17.20 น. มีการบรรเลงเพลง “แฟนฉัน” ผู้ร่วมกิจกรรมส่งเสียงร้องตาม พร้อมปรบมือสนั่นหลังจบเพลง ขณะเดียวกันยังคงมีประชาชนทั่วไปเข้ามาร่วมเขียนโปสการ์ดอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนมากเป็นเยาวชน นิสิต นักศึกษา และวัยทำงาน บางส่วนเข้ามาสอบถามถึงการทำกิจกรรมในวันนี้
หนึ่งในนักดนตรี วง Fooong กล่าวว่า เราอยากให้เพื่อนของเรารับรู้ความรู้สึก ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไป เราสู้ของเรา คนข้างในก็กำลังสู้อยู่เหมือนกัน พร้อมทั้งยังกล่าวถึงกลุ่มที่รวมกิจกรรมวันนี้ อาทิ เฟมินิสต์ปลดแอก, ทีมการ์ด Secure Ranger, กลุ่ม We volunteer หรือวีโว่ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทำกิจกรรมวันนี้ มีการติดกระดาษข้อความเผยถึงจุดประสงค์ในการจัดงาน ความว่า มีนักโทษการเมือง 30 คนในเรือนจำ (ข้อมูลจาก iLaw วันที่ 21 ก.ค.65)
จนถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 มีนักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนและระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุดอย่างน้อย 30 คน นับจากกระแสเรียกร้องทางการเมืองรอบใหม่ หลังการชุมนุมของเยาวชนปลดแอก ในปี 2563 การคุมขังนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดขึ้นเป็นระลอกๆ ตามบรรยากาศการชุมนุมเรียกร้องที่ขยายตัวขึ้นและลง ครั้งนี้ถือเป็นระลอกที่ 4 แล้ว ไล่เรียงมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563, เดือนกุมภาพันธ์ 2564, เดือนสิงหาคม 2564 และเดือนมีนาคม 2565 ในเดือนเมษายน 2565 มีการไต่สวนเพิกถอนสัญญาประกันของผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ทั้งสิ้นรวมห้าครั้ง โดยที่ 3 ใน 5 มีคำสั่งให้ถอนประกัน
ประกอบไปด้วย ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565, เวหา แสนชนชนะ
ศึก เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 และกรณีของใบปอ-ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ กับบุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม จากกลุ่มทะลุวัง เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 (เลื่อนฟังคำสั่งจากวันที่ 27 เมษายน 2565) ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นเดือนที่มีวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ชุมนุมใหญ่ในปี 2535 และการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 นักกิจกรรมผู้ต้องหามาตรา 112 ที่ถูกเพิกถอนสิทธิประกันหลายคนก็ได้รับการปล่อยตัวในช่วงปลายเดือน เช่น เก็ท-โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง จากกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมจับในคดีมาตรา 112 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 หรือตะวัน ได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เดือนมิถุนายน 2565 การชุมนุมบริเวณแยกดินแดงกลับมาชีวิตอีกครั้ง หลังการประกาศนัดหมายชุมนุมแบบไร้แกนนำภายใต้กิจกรรม “ราษฎรเดินไล่ตู่” เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่ง โดยกิจกรรมบริเวณแยกดินแดง ที่การชุมนุมหลักก็มีการนัดหมายกันอย่างต่อเนื่องในระหว่างวันที่ 12-19 มิถุนายน 2565 และส่งผลให้มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นจำนวน 14 คน
เดือนกรกฎาคม ซึ่งมีวันสำคัญในช่วงปลายเดือน รวมทั้งมีกำหนดไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของสภาชุดปัจจุบัน (19-22 กรกฎาคม 2565) การฝากขังนักกิจกรรมระหว่างพิจารณาคดีในครึ่งเดือนแรกก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การออกหมายจับ แซม-พรชัย ยวนยี จากกลุ่มทะลุฟ้า ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ตามมาด้วยการฝากขังสมาชิกทะลุฟ้าเพิ่มอีก 7 คน ภายหลังอัยการสั่งฟ้องคดีการชุมนุมเมื่อหนึ่งปีก่อน ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นวันแรกที่กลุ่มทะลุฟ้า ในนามราษฎร นัดหมายกันไปปักหลักชุมนุมที่หน้ารัฐสภาในช่วงของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ขณะเดียวกัน ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มเพื่อนกัญปฏิวัติ ก็ได้นัดหมายทำกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” ตั้งแต่เวลา 18.00-19.00 น.
สำหรับกิจกรรม ยืนหยุดขังประเทศไทย ในกรุงเทพฯ จุดอื่นๆ อาทิ เวลา 17.30-18.42 น. “พลเมืองโต้กลับ” ยืนหยุดขัง ที่ลานอากง หรือหน้าศาลฎีกา, เวลา 18.00-19.00 น. กลุ่ม 14 ขุนพลคนของราษฎร lll ยืนหยุดขัง สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน, เวลา 18.00-19.12 น. กลุ่มทะลุฟ้า ยืนหยุดขังประเทศไทย ที่สยามสแควร์ ด้านกลุ่มทะลุแก๊ซพิทักษ์ราษฎร ยืนหยุดขัง ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ, มวลชนอิสระ ยืนหยุดขัง หน้าสำนักงานอัยการสูงสุด รัชดาฯ (วันที่ 69), นอกจากนี้ เวลา 17.00-18.12 น. เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ยังร่วม “ยืนหยุดขัง” บริเวณกินซ่า ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
ขณะที่ส่วนภูมิภาค ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการจัดกิจกรรมคู่ขนานในหลายจุด ดังนี้
ที่ จ.เชียงใหม่ จัดกิจกรรม 2 จุดใหญ่ ได้แก่ เวลา 17.00-18.12 น. กลุ่มยืนหยุดทรราช ยืนหยุดขัง ที่ประตูท่าแพ, เวลา 17.00-18.12 น. กลุ่มทะลุ มช. ยืนหยุดขัง หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จ.เชียงราย ห้าแยกพ่อขุน ยืนหยุดขัง เวลา 17.30 น.
จ.พิษณุโลก หน้าตลาดนัด ม.นเรศวร (ประตู 6) กลุ่ม NU-Movement จัดกิจกรรม Performance Art เวลา 16.00-17.00 น. และยืนหยุดขัง 17.00-18.12 น.
จ.นนทบุรี ยืนหยุดขัง ที่หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ เวลา 17.00 น.
จ.นครปฐม ยืนหยุดขัง หน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์ เวลา 17.00-18.12 น.
จ.ราชบุรี ยืนหยุดขัง บริเวณหอนาฬิกาบ้านโป่ง เวลา 18.00 น.
จ.พระนครศรีอยุธยา ยืนหยุดขังชหน้าศาลากลางหลังเก่า เวลา 17.00-18.12 น.
จ.นครสวรรค์ ยืนหยุดขัง หน้าศาลอุทธรณ์ ภาค 6 และศาลจังหวัดนครสวรรค์ เวลา 17.00-18.12 น.
จ.อุบลราชธานี กลุ่มคบเพลิง ยืนหยุดขังหน้ามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เวลา 18.00-19.12 น.
จ.ชลบุรี กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก พื้นที่ ต.บ่อวิน อ. ศรีราชา ณ สี่แยกปากร่วม เวลา 17.20-18.32 น.
จ.ขอนแก่น ยืนหยุดขัง หน้าประตูมอฝั่งเจ้าพ่อมอ เวลา 17.30 น.
จ.สุราษฎร์ธานี ยืนหยุดขัง หน้าตึกอัยการสุราษฎร์ ฝั่งริมน้ำ เวลา 15.00-16.30 น.
จ.สงขลา ยืนหยุดขังใน ม.อ.หาดใหญ่ ตรงข้ามลานพระบิดา เวลา 18.30 น.
จ.ตรัง ยืนหยุดขัง หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง เวลา 17.00 น.
ขณะที่ จ.นครราชสีมา กลุ่มโคราชมูฟเมนต์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยืนหยุดขังออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่น ติ๊กต็อก (TikTok) เป็นเวลา 112 วินาที พร้อมติดแฮชแท็ก #ยืนหยุดขัง และ #ยืนหยุดขังchallenge
