รอยร้าวอันเนื่องแต่การโหวต “หักมติ” ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ถือว่า”ลึกล้ำ”อย่างยิ่งแล้ว กรณีของสูตรเลือกตั้งยิ่ง “ล้ำลึก” เป็นทบเท่าทวีคูณ
ความแหลมคมอย่างยิ่งยวดก็คือ ความแหลมคมจากสภาพความขัดแย้ง แตกแยกอันบังเกิดขึ้น”ภายใน”
ไม่ว่าจะเป็นการตั้งข้อสังเกตต่อกระบวนการทำงานของรัฐมนตรีอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หรืออย่าง นายสุชาติ ชม กลิ่น หรืออย่าง นายจุรินทร์ลักษณวิศิษฎ์
อันเท่ากับเป็นปัญหา”ภายใน”ของพรรคพลังประชารัฐ อันเท่ากับเป็นปัญหา”ระหว่าง”พรรคพลังประชารัฐต่อ”3 ป.” พรรค ชาติไทยพัฒนาต่อพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อเข้าสู่พื้นที่ของการกำหนดสูตรในการเลือกตั้งที่เริ่มกระจายและขยายกว้างมากขึ้นเป็นลำดับ เสียงร้อง”เอ๊ะ”จึงดังขึ้นไม่เพียงแต่จากฝ่ายค้านหากแต่เริ่มก้องจากพรรคร่วมรัฐบาล
ภายในความกลัวของระบอบอันมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นตัวแทนยังมีเยื่อใยอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นอยู่หรือไม่และอย่างไร
ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนาจึงสำคัญ
เงาสะท้อนแห่งการกลับไปกลับมาของ”สูตรการเลือกตั้ง”ไม่เพียงยืนยันให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ของการสืบทอดอำนาจเท่านั้น หากยังปรากฏ”ความกลัว”ในระดับขนพองสยองเกล้า
เป็นความกลัวต่อการดำรงอยู่ของพรรคเพื่อไทย เป็นความกลัวต่อการเติบใหญ่เป็นลำดับของพรรคก้าวไกล
เพราะความกลัวนั้นเอง”อาการ”อันแสดงออกต่อแต่ละจังหวะก้าวของ โทนี่ วู้ดซั่ม และการขับเคลื่อนครอบครัวเพื่อไทยของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จึงไม่อาจเก็บไว้ได้
เพราะกลัวนั้นเอง”อาการ”ที่มีต่อแต่ละจังหวะก้าวของพรรค ก้าวไกลที่นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประสานกับแต่ละจังหวะ ก้าวของคณะก้าวหน้าจึงกลายเป็นความสยดสยองพองเกล้า
ทั้งๆที่อาการเหล่านี้คือความลุกรี้ลุกรน กลับไปกลับมา เป็น การวางแผนที่แทบมิได้มี”แผน”อะไรเลยอยู่ในมือ
ภาพที่เห็นและเป็นอยู่ ณ เบื้องหน้าของประชาชนในห้วง 8 เดือน ก่อนการเลือกตั้งจะมาตามวาระคือ การดิ้นอย่างสุดแรงท่ามกลาง ความสงบนิ่งของอีกฝ่าย
ฝ่ายที่”ดิ้น”กลับเป็นรัฐบาล เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ฝ่ายที่”สงบ”และพร้อมสู้อย่างเปี่ยมด้วย”วุฒิภาวะ”สัมผัสได้ จากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย
เมื่อบังเกิด”ความกลัว”ที่เป็น”ชายชาติทหาร”ก็แปรเปลี่ยน