อนุเล็งหั่นทิ้ง งบกองทัพ 3 หมื่นล้าน ฉะ ‘ทบ.-ทร.’ ชอบอ้างเอกสารลับ เปิดเผยไม่ได้

‘จิรัฏฐ์’ เผยอนุ กมธ.ฯเล็งตัดงบกองทัพ 3 หมื่นล้าน ฉะใช้เงินฟุ่มเฟือย ไร้จิตสำนึก

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ให้สัมภาษณ์กรณีอนุ กมธ.จะเสนอ กมธ.ชุดใหญ่ตัดงบกระทรวงกลาโหม ว่าอนุ กมธ.ได้ตัดงบประมาณในส่วนของกองทัพประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ในส่วนของครุภัณฑ์ ประมาณ 4 พันล้านบาท คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของงบกระทรวงกลาโหม โดยงบประมาณส่วนใหญ่อยู่ที่กองทัพบก ประมาณ 2 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเลื่อนโครงการที่ยังทำไม่ทันและทำไม่เสร็จ หรือเหมือนว่าอาจจะไม่ได้ทำจริง โดยตัวเลขของกองทัพบกที่มากเป็นเรื่องของการสร้างโรงงานผลิตดินระเบิดที่ทำร่วมกับจีน ซึ่งทั้งระยะที่หนึ่งและสองยังไม่ถึงไหน โดยรอบนี้จะเอาเงินระยะที่หนึ่งและสองเพิ่มอีก กมธ.จึงเห็นว่าให้เลื่อนโครงการออกไปก่อนเนื่องจากเงินระยะที่หนึ่งยังเหลืออยู่ และจะตัดงบที่ดูแล้วไม่สามารถเป็นจริงได้ เช่น รถอีวี รถบัสไฟฟ้า ราคาคันละประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งกองทัพบกเป็นหน่วยงานแรกที่ขอซื้อ และขอซื้อเป็นจำนวนมาก หากซื้อรถแบบเดียวกันที่ใช้น้ำมัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาทเท่านั้น

นายจิรัฏฐ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของกองทัพเรือได้ตัดงบเรื่องของการฝึกฝนกองกำลังที่จะไปปฏิบัติการในเรือดำน้ำ เนื่องจากยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเรือดำน้ำจะใช้เครื่องยนต์อะไรในการทำงาน โดยอ้างว่าฝึกไปก่อนค่อยปฏิบัติงาน ตนคิดว่าไม่สามารถเป็นไปได้ และในส่วนของกองทัพอากาศที่ขอซื้อเครื่องบิน F-35A จำนวน 2 ลำ ในงบประมาณ 7,300 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของอนุ กมธ.ไม่ให้ผ่าน เนื่องจากมองแล้วไม่จำเป็น และสมเหตุสมผล และไม่ได้เป็นไปตามที่พูดในสภาว่า ภายใน 2 ปี จะได้รับเครื่อง ซึ่งในภายหลังแจ้งว่า 4 ปีได้ แต่ในความเป็นจริง 10 ปีถึงจะได้เครื่องเปล่าที่ไม่สามารถขึ้นบินได้ และเมื่อถามว่าจะต้องใช้งบเท่าไหร่ถึงจะได้ฝูงบินทั้งฝูง จำนวน 12 ลำ ก็ได้คำตอบว่าประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาทเป็นอย่างน้อย

เมื่อถามว่า กมธ.จะเห็นชอบหรือไม่ที่จะตัดงบประมาณในส่วนนี้ นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า กระแสสังคมจะกดดันหนัก เหมือนกรณีซื้อเรือดำน้ำ และประชาชนมีความเชื่อว่าคนที่มาจากประชาชนคงไม่เป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่มีการซื้อ เช่น เรือดำน้ำ เรือเหาะ GT200 เกิดขึ้นได้จากหลังการรัฐประหารทั้งนั้น หากเป็นตัวแทนที่มาจากประชาชน เป็น กมธ.ที่ดูเรื่องงบประมาณ ตนมั่นใจว่าเป็นเรื่องยากที่จะผ่าน เพราะก็ทราบอยู่ว่าไม่รู้จะเอามาทำอะไร ซื้อมาเพื่อตอบสนองคำว่าดำรงสภาพความพร้อมรบเท่านั้นเอง และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะพร้อม

นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า สิ่งที่ตนไม่พอใจและเป็นประเด็นก็คือ เรื่องของเอกสารลับของกองทัพเรือและกองทัพบก ซึ่งไม่ควรจะเป็นลับและควรจะเปิดเผย เมื่อเอาเอกสารมาให้ก็จะต้องเซ็นชื่อรับ เมื่อเลิกประชุมแล้วก็จะต้องคืน ถึงขั้นต้องนับจำนวนแผ่น อันที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องลับอะไร เป็นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ตนคิดว่าที่ลับน่าจะเป็นเรื่องของราคา ในส่วนของเอกสารกองทัพบกมีชื่อผู้เปิดเอกสารเป็นลายน้ำในกระดาษ ซึ่งตนมองว่าก็ไม่ผิดกฎหมายอะไรหากจะเปิดเผย ซึ่งตนจะเปิดเผยแน่นอน

Advertisement

“งบลับอะไรไปซื้อรถไถนา รถพรวนดิน ไปซื้อเตียงนอนทหาร อุปกรณ์ทำนาทำไร่ ในโครงการทหารพันธุ์ดี มันลับตรงไหน ถ้าจะลับก็คงจะลับที่ราคา” นายจิรัฏฐ์กล่าว

นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า นอกจากเรื่องเอกสารลับก็มีเรื่องของการโกงงบประมาณ ในส่วนของกองทัพเรือปีที่แล้วมีกรณีเรือดำน้ำที่ยังผลิตไม่เสร็จและยังไม่มีเครื่องยนต์ งบที่ได้ก็ไม่ได้ใช้ ก็ควรจะคืนเข้าหลวง แต่ทางกองทัพเรือไม่คืน กลับโอนไปซื้อรถยานเกราะ ซึ่งไม่ใช่ความรับผิดชอบของกองทัพเรือ ตนมองว่าไม่มีจิตสำนึกในการใช้ภาษีประชาชนเลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image