ลุยงบกลาโหม-อนุกมธ.ดุตัดทิ้ง 3 หมื่นล้าน เงินซื้อยุทโธปกรณ์กองทัพ-ฉุนอ้างลับ
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ให้สัมภาษณ์กรณีอนุ กมธ. จะเสนอกมธ.ชุดใหญ่ ตัดงบกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า อนุ กมธ. ได้ตัดงบประมาณในส่วนของกองทัพประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ในส่วนของครุภัณฑ์ ประมาณ 4 พันล้านบาท คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของงบกระทรวงกลาโหมงบประมาณส่วนใหญ่อยู่ที่กองทัพบกประมาณ 2 พันล้านบาท
ส่วนใหญ่มาจากการเลื่อนโครงการที่ยังทำไม่ทันและทำไม่เสร็จ หรือเหมือนว่าอาจจะไม่ได้ทำจริง โดยตัวเลขของกองทัพบกที่มากเป็นเรื่องของการสร้างโรงงานผลิตดินระเบิดที่ทำร่วมกับจีน ทั้งระยะที่หนึ่งและสองยังไม่ถึงไหน รอบนี้จะเอาเงินระยะที่หนึ่งและสองเพิ่มอีก กมธ.จึงเห็นว่าให้เลื่อนโครงการออกไปก่อน เนื่องจากเงินระยะที่หนึ่งยังเหลืออยู่ และจะตัดงบที่ดูแล้วไม่สามารถเป็นจริงได้ เช่น รถอีวี รถบัสไฟฟ้า ราคาคันละประมาณ 8 ล้านบาท กองทัพบกเป็นหน่วยงานแรกที่ขอซื้อ และขอซื้อเป็นจำนวนมาก หากซื้อรถแบบเดียวกันใช้น้ำมัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาท เท่านั้น
นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพเรือได้ตัดงบเรื่องของการฝึกฝนกองกำลังจะไปปฏิบัติการในเรือดำน้ำ เนื่องจากยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเรือดำน้ำจะใช้เครื่องยนต์อะไรในการทำงาน อ้างว่าฝึกไปก่อนค่อยปฏิบัติงาน ตนคิดว่าไม่สามารถเป็นไปได้ และในส่วนของกองทัพอากาศขอซื้อ เครื่องบิน F-35A จำนวน 2 ลำ ในงบประมาณ 7,300 ล้านบาท ในส่วนของอนุกมธ.ไม่ให้ผ่าน เนื่องจากมองแล้วไม่จำเป็นและไม่สมเหตุสมผล ไม่ได้เป็นไปตามที่พูดในสภาว่า ภายใน 2 ปีจะได้รับเครื่อง ในภายหลังแจ้งว่า 4 ปีได้ แต่ในความเป็นจริง 10 ปีถึงจะได้เครื่องเปล่าไม่สามารถขึ้นบินได้ เมื่อถามว่าจะต้องใช้งบเท่าไหร่ถึงจะได้ฝูงบินทั้งฝูง จำนวน 12 ลำ ก็ได้คำตอบว่าประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาทเป็นอย่างน้อย
เมื่อถามว่ากมธ. จะเห็นชอบหรือไม่ที่จะตัดงบประมาณในส่วนนี้ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า กระแสสังคมจะกดดันหนัก เหมือนกรณีซื้อเรือดำน้ำ และประชาชนมีความเชื่อว่าคนมาจากประชาชนคงไม่เป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่มีการซื้อ เช่น เรือดำน้ำ เรือเหาะ GT200 เกิดขึ้นได้จากหลังการรัฐประหารทั้งนั้น หากเป็นตัวแทนมาจากประชาชนเป็นกมธ.ดูเรื่องงบประมาณ ตนมั่นใจว่าเป็นเรื่องยากที่จะผ่าน เพราะก็ทราบอยู่ว่าไม่รู้จะเอามาทำอะไร ซื้อมาเพื่อตอบสนองคำว่า ดำรงสภาพความพร้อมรบเท่านั้นเอง และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะพร้อม
นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนไม่พอใจและเป็นประเด็นก็คือ เรื่องของเอกสารลับของกองทัพเรือและกองทัพบก ไม่ควรจะเป็นลับ ควรจะเปิดเผย เมื่อเอาเอกสารมาให้ก็จะต้องเซ็นชื่อรับ เมื่อเลิกประชุมแล้วก็จะต้องคืน ถึงขั้นต้องนับจำนวนแผ่น อันที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องลับอะไร เป็นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ตนคิดว่าที่ลับน่าจะเป็นเรื่องของราคา ในส่วนของเอกสารกองทัพบก มีชื่อผู้เปิดเอกสารเป็นลายน้ำในกระดาษ ตนมองว่าก็ไม่ผิดกฎหมายอะไรหากจะเปิดเผย ตนจะเปิดเผยแน่นอน
“งบลับอะไรไปซื้อรถไถนา รถพรวนดิน ไปซื้อเตียงนอนทหาร อุปกรณ์ทำนาทำไร่ ในโครงการทหารพันธุ์ดี มันลับตรงไหน ถ้าจะลับก็คงจะลับที่ราคา” นายจิรัฏฐ์ กล่าว
นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า นอกจากเรื่องเอกสารลับ ก็มีเรื่องของการโกงงบประมาณ ในส่วนของกองทัพเรือปีที่แล้ว มีกรณีเรือดำน้ำยังผลิตไม่เสร็จ และยังไม่มีเครื่องยนต์ งบที่ได้ก็ไม่ได้ใช้ ก็ควรจะคืนเข้าหลวง แต่ทางกองทัพเรือไม่คืน กลับโอนไปซื้อรถยานเกราะ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของกองทัพเรือ ตนมองว่าไม่มีจิตสำนึกในการใช้ภาษีประชาชนเลย