‘ศรีสุวรรณ’ ยื่น กกต.สอบ 4 พรรคเล็กรับกล้วยรายเดือน ชี้โทษหนักถึงยุบพรรค

“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.สอบ 4 พรรคเล็กรับกล้วยรายเดือน ชี้โทษหนักถึงยุบพรรค มั่นใจไม่เกิน 3 เดือนรู้ผล

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นคำร้องต่อ กกต.กรณีที่มีกระแสข่าวพรรคเล็กรับเงินก่อนที่จะมีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เตรียมหลักฐานทั้งหมด 8 หน้า ประกอบด้วยหลักฐานการโอนเงินไปยังหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคเล็ก จำนวน 4 พรรครวม 5 คน รวมถึงสลิปการโอนเงินไปยังบุคคลปลายทางตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน เป็นชื่อของหัวหน้าพรรคการเมืองขนาดเล็กรวมทั้งหัวหน้ากลุ่มการเมืองด้วยโดยจ่ายกันเป็นรายเดือนๆละ 100,000 บาท โดย ส.ส.ที่ตนมายื่นเรื่องจะต้องชี้แจงต่อ กกต. เพราะว่าการโอนเงินมีระยะเวลาที่กระชั้นชิดห่างกันกันแค่ 1-2 นาที มีพิรุธ และผิดสังเกต ทำให้ กกต.จะต้องขับไล่นักการเมืองเหล่านี้ออกไปจากการเมืองของประเทศ หากปล่อยให้นักการเมืองเหล่านี้มาขอเงิน หรือปล่อยให้บุคคลอื่นมาครอบงำ ประชาชนจะพึ่งหวังใครได้

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังนำบทสัมภาษณ์ของ ส.ส.บางคนที่ยอมรับว่ารับเงินนำไปใช้เพื่อลงพื้นที่ไปดูแลชาวบ้านในเขตเลือกตั้ง จะถือเป็นรายได้หรือรายรับของพรรคการเมืองตาม มาตรา 62(5) (7) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 ประกาศให้ประชาชนทราบตามมาตรา 65 ปฏิบัติตาม มาตรา 67 ครบถ้วนแล้วหรือไม่ และจัดทำและลงรายการทางบัญชีรายรับ-รายจ่ายของพรรคการเมืองตาม มาตรา 59 หรือไม่ หากไม่ใช่ถือได้ว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทันที เข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 72 ประกอบ มาตรา 126 ของกฎหมายพรรคการเมือง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเท่าใดก็ได้ขึ้นอยู่กับศาลกำหนด

นอกจากนี้การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน มาตรา 28 ประกอบ มาตรา 92(3) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 มีโทษถึงขั้นยุบพรรคการเมืองทั้งนี้ สำหรับกรอบระยะเวลาตรวจสอบ เบื้องต้นทาง กกต.ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสื่อมวลชนได้รายงานไปแล้วบางส่วน และถ้าได้รับข้อมูลจากตนจะทำให้หลักฐานมีความแน่นหนามากยิ่งขึ้น ถ้ารวบรวมหลักฐานครบก็จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติม คาดว่าระยะเวลาในการตรวจสอบไม่ควรจะเกิน 3 เดือน เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image