เดินหน้าชน : ลดแรงกระแทก

แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะพยายามฝ่าฟันสารพัดปัญหา ทำให้ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ดูเหมือนจะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ

แต่หลังจากนี้ไทยยังคงเผชิญปัญหารอบด้าน มีแรงกระแทกหนักหน่วงอีกหลายเรื่อง

ทั้งปัญหาราคาสินค้าแพง เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพสูงค่าไฟ ค่าแก๊ส จ่อปรับขึ้น

รวมถึงดอกเบี้ยเตรียมปรับขึ้นค่อนข้างแน่นอน

Advertisement

ส่วนจะเป็นเท่าไหร่ รอฟังมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 ส.ค.นี้

ขณะเดียวกันยังมีระเบิดเวลาจากหนี้ครัวเรือน

หลังเกิดปรากฏการณ์สินค้าแพงเป็นตัวเร่งเงินเฟ้อพุ่งพรวด

Advertisement

เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเงินเฟ้อพุ่ง 7.6% สูงสุดรอบ 13 ปี

ซ้ำร้ายเงินบาทอ่อนค่าเคลื่อนไหวระดับ 36-37 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

แสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยมองว่า เศรษฐกิจนับจากนี้ยังน่าหนักใจ

เพราะมีความเสี่ยงต่อสถานการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ส่งสัญญาณเตรียมขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลกระทบผู้มีรายได้น้อยแน่นอน

ทำให้ประชาชนเผชิญปัญหาการเงิน ส่งผลให้อำนาจซื้อลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ

รวมถึงต้นทุนพลังงาน ค่าครองชีพสูงขึ้น วัตถุดิบต่างๆ ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ด้าน วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย มองว่าเศรษฐกิจไตรมาส 3/2565

แม้จะเจอสารพัดปัญหา แต่ยังพอมีแรงส่งจากภาคการผลิตและภาคการส่งออก

รวมถึงถ้าการท่องเที่ยวเป็นไปตามคาด จะช่วยได้มาก
แม้จะมีปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก

เพราะเพิ่งพ้นจากโควิด แต่ละประเทศต้องกลับมาดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างกัน

ไม่ว่าจะวัตถุดิบ หรือสินค้าสำเร็จรูปยังมีแรงส่งดีต่อเนื่อง

คาดหวังการท่องเที่ยวเป็นหลัก เนื่องจากเชื่อมโยงภาคบริการอื่นอีกมาก

ขณะที่ ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มองว่า

ถ้าสถานการณ์โดยรวมยังเป็นเช่นนี้ การท่องเที่ยวจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นกลับมาในไตรมาส 3/2565 ได้แน่นอน

แต่ถ้าจะให้นักท่องเที่ยวเข้าเป้าและเข้าถึงเป้าหมายให้เร็ว ก็ควรลดข้อจำกัดลงอีก

เช่น เพิ่มจำนวนที่นั่งบนเครื่องบินให้เต็มลำ เพิ่มไฟลต์บินมากขึ้น

เนื่องจากปัจจุบันเที่ยวบินกลับมาวิ่ง 30% ของปี 2562

ควรเพิ่มขึ้นเป็น 30-45% โดยรัฐต้องเจรจากับสายการบินต่างๆ

เพื่อหาทางออกร่วมกันให้ท่องเที่ยวเดินหน้าต่อแบบไม่สะดุด

ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ความเสี่ยงจะกระทบเศรษฐกิจ

ภาพรวมคาดว่าจะชัดเจนขึ้นช่วงครึ่งหลังปี 2565

ยังคงเป็นเพียงการคาดการณ์บนความคาดหวัง

ดังนั้นรัฐบาลจึงพยายามระดมมาตรการต่างๆ

เพื่อมาช่วยพยุงเศรษฐกิจไม่ให้โดนแรงกระแทกหนัก
เกินไป

อย่างเช่นการเดินหน้าต่อมาตรการ คนละครึ่งเฟส 5 เริ่ม ก.ย.นี้

แม้จะเพียงแค่คนละ 800 บาท

ยังมีการเพิ่มเงินบัตรคนจน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกลุ่มเปราะบาง

รวมทั้งความพยายามหาทางไม่เพิ่มค่าไฟถึงหน่วยละ 4.72 บาท

ตรึงดีเซลไม่เกิน 35 บาทให้นานที่สุด และคงไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงเกินไป

ล้วนแล้วแต่เป็นความพยายามบรรเทาผลกระทบจากภาครัฐ

ส่วนจะช่วยได้แค่ไหน คงต้องดูปัจจัยบวก และฝีมือของรัฐบาล

ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การส่งออก การลงทุน

จะมีแรงมาช่วยพยุงไม่ให้ทรุดมากไปกว่านี้ได้แค่ไหน

สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image