สุรชัย ชี้ ไทยมีหลักทฤษฎีปชต.ไทย กอบศักดิ์ ชี้ ปชต.ไม่เต็มใบ เพราะคนไทยไม่เข้มแข็ง

วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ถนนราชดำเนินนอก ในงานประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ประจำปี 2559 มีการอภิปราย เรื่อง เดินหน้าประชาธิปไทย โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 นายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัย เพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 กล่าวว่า ประชาธิปไตยแบบไทย คือประชาธิปไตยที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ในฐานะฝ่ายการเมืองในขณะนี้ได้เอาทฤษฎีต่างๆ มามาคลี่ดู พบว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นหลักทฤษฎีประชาธิปไตยไทย แบบมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่เหมือนในต่างประเทศ เมื่อทุกคงคนตกผลึกเห็นฟ้องว่าขณะนี้ไทยยังมีประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์ไม่ว่าช่วงก่อนหรือหลังรัฐประหาร ทุกคนต้องช่วยกันไปสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทสที่มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ รัฐประหารไม่ใช่การเปลี่ยนผ่าน แต่จะเป็นเครื่องมือไปสู่การเปลี่ยนผ่านหรือไม่ ตรงนี้ถือเป็นความร่วมมือของสังคม ที่จะช่วยกัน ถอดบทเรียนในอดีต และนำมาช่วยกันแก้ไข

“ในทัศนะของผมว่า ต้องดูว่าขณะนี้เราตกผลึกความคิดร่วมกันแล้วหรือยังว่าจะเลือกประชาธิปไตยที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งทุกบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญที่ผ่านมายืนหยัด หลักการตรงนี้ ถ้าคนไทยยังไม่รับหลักการตรงนี้ ปัญหาพื้นฐานยังคงอยู่ เพราะ เมื่อยังไม่ตกผลึกเหมือนกัน กระบวนการต่อยอดความคิด ไปสู่กระบวนการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ จะมีความแตกต่างกัน นำไปสู่ความแตกแยก เหมือนในอดีตที่ผ่านมา เพราะที่ผ่านมาเรามีการเลือกตั้งสลับกับรัฐประหาร อยู่ในวงเวียนแบบนี้ 85 ปีแล้ว”นายสุรชัย กล่าว

47

Advertisement

นายสุรชัย กล่าวว่า ไทยกำลังเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่อำนาจเป็นของประชาชน ต้องมีการเลือกผู้แทนประชาชน แต่ที่ผ่านมากระบวนการคัดสรรผู้แทนประชาชน ยังมีข้อสงสัยว่าผ่านกระบวนการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมแล้วหรือยัง ตรงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ไทยยังก้าวข้ามไม่พ้นประชาธิปไตยขั้นพื้นฐาน ผู้แทนของประชาชน ยังขาดความตระหนักภาระกิจ เอาภาระกิจพรรคการเมืองเป็นที่ตั้งมากกว่าภาระกิจที่มีต่อประชาชน ทำให้ต้องมีการพัฒนาใน 2 กระบวนการ คือการปฏิรูปประเทศ และการสร้างกลไลต่างๆ มาเป็นเครืองมือในการพัฒนาประเทศ ซึ่งควรต้องมีการเปิดกว้างเรื่องข้อมูล พลเมืองต้องเข้มแข็ง ประชาชนต้องมีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากกว่าที่ควรจะเป็น

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยยังแสวงหาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และยั่งยืน มานานกว่า 84 ปี ทำให้เกิดประชาธิปไตยไม่เต็มใบ เกิดจากประชาชนยังไม่เข้มแข็ง เขาไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง ส่วนหนึ่งเกิดจากความล้มเหลวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในไทย โดยพบว่า รายได้ของคนไทย ช่วงที่ผ่านมา คนรวย 20% มีรายได้เกินครึ่ง เกิดจาก ผลการพัฒนาประเทศไปตกแค่บางกลุ่ม นำไปสู่ทุนการเมือง ไม่เกิดความเท่าเทียม เห็นได้จากบัญชีเงินฝากของไทย 87 ล้านบัญชี ในจำนวนนี้ 1 แสนบัญชี มีเงินครึ่งหนึ่งของคนทั้งประเทศ ส่วนการถือครองที่ดินพบว่าที่ดินคนรวยในจำนวน 20% นั้นมีการถือครองที่ดินถึง 80% ของที่ดินในประเทศ แตกต่างจากการถือครองที่ดินของคนจนถึง 400 เท่า คนรวยที่มีที่ดินมากสุด มีที่ดิน 6 แสนไร่ เกิดขึ้นแค่หนึ่งช่วงอายุของเขา เพราะก่อนหน้านี้เขาจนมาก ในขณะที่คนแก่หลายคนยังเข็นรถ เก็บขยะเพื่อเลี้ยงชีพ ตรงนี้ผลพวงตรงนี้เกิดจาการไม่พัฒนาเศรษฐกิจให้เหมาะสม และมุ่งแต่พัฒนาประชาธิปไตยอย่างเดียว ระบบที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่เศรษฐกิจที่ดี เกิดจากพัฒนาไม่ถูกต้อง ทำให้ประชาธิปไตยเปลี่ยนผ่านตลอดเวลา

นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาขณะนี้เกิดจากกลุ่มคน 2 กลุ่ม คือ คนรวยสุด กับจนสุด ก้าวหน้าไม่เท่ากัน ทางออก คือต้องสร้างระบบเศรษบกิจที่กระจายอย่างเท่าถึงเป็นธรรม ถ้าไม่ทำตรงนี้ก็ยากที่จะเดินหน้าประชาธิปไตยได้ เพราะส่วนนี้เป็นรากฐานหนึ่งของประชาธิปไตย ที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้มีการแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ มีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายปฏิรูปในด้านต่างๆ อาทิ การเงินชุมชน ให้มีแบงก์เล็กๆมากขึ้นให้ประชาชนเข้าถึงเงินทุน การกระจายถือครองที่ดิน ปกป้องเกษตรกรพันธะสัญญาที่ไม่เป็นธรรม การทำประกันภัยพืชผล การกระจายอำนาจ การดูแลไม่ให้คนรวยได้ประโยชน์มากเกินไป สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งในเรื่องการพัฒนาาต้องทำตามลำดับขั้น สร้างพื้นฐาน ให้พอมี พอกิน พอใช้ สร้างเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อรากฐานที่มั่นคงของแผ่นดิน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image