‘บิ๊กตู่’ ครบวาระ 8 ปีไม่ออก ‘จตุพร-ทนายนกเขา’ ขู่นำมวลชนบุกทำเนียบ

‘บิ๊กตู่’ ครบวาระ 8 ปีไม่ออก ‘จตุพร-ทนายนกเขา’ ขู่นำมวลชนบุกทำเนียบ

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และกลุ่มประเทศไทยต้องมาก่อน คณะหลอมรวมประชาชน ได้แถลงการณ์และยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้มีคำสั่งยกเลิกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงเรื่องการชุมนุมฉบับที่ 15 และให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหมวด 8 คณะรัฐมนตรีมาตรา 158 โดยนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี รับเรื่องแทน

โดยแถลงการณ์ ระบุว่า ประเทศไทยต้องมาก่อน คณะหลอมรวมประชาชนเห็นว่าประกาศดังกล่าวมีลักษณะที่ใช้อำนาจรัฐเกินสมควรไม่มีความจำเป็นใช้ดุลพินิจไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงขัดต่อเจตนารมณ์ในการตราพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ขัดต่อหลักนิติธรรม เป็นการสร้างอุปสรรคในการใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชนชาวไทยเกินสมควร แล้วหากเกิดปัญหาอันเป็นผลโดยตรงมาจากการชุมนุม การทำกิจกรรม ก็สามารถแก้ไขปัญหาด้วยการบริหารราชการรูปแบบปกติได้ จึงขอให้รัฐบาลดำเนินการยกเลิกประกาศ 1.ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถาณการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่องการชุมนุมฯ ฉบับที่ 15 ประกาศ ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2565 2.ให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หมวด 8 คณะรัฐมนตรีมาตรา 158 บทเฉพาะกาลมาตรา 265 ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าว ทำให้คิดเป็นได้ว่าเพื่อรักษาความมั่นคงและประโยชน์ของรัฐบาลมากกว่าความมั่นคงและประโยชน์ของรัฐดังนั้นในฐานะ นายกรัฐมนตรี ผู้รักษาการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินควรมีคำสั่งให้ยกเลิกประกาศฯ ตามที่กล่าวมาข้างต้นโดยทันที

ด้านทนายนกเขากล่าวว่า การออกบังคับในเรื่องการห้ามชุมนุมเป็นการใช้อำนาจเกิน ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สร้างภาระอุปสรรคในการใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน คิดว่าเจตนารมณ์ของรัฐบาลนั้นต้องการขัดขวางการชุมนุมทางการเมือง โดยเฉพาะการขับเคลื่อนกิจกรรม โดยอำนาจอธิปไตยของปวงชนของคณะหลอมรวม ดังนั้น การออกกฎหมายและระเบียบข้อบังคับดังกล่าวนั้น เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ความมั่นคงของรัฐบาลเท่านั้น ไม่ใช่ประโยชน์ของรัฐตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ควรจะไปยกเลิก

Advertisement

ทนายนกเขากล่าวว่า ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ที่จะครบวาระ 8 ปี มาเตือนเพื่อให้รับรู้ข้อกำหนด ข้อบัญญัติทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ จะอ้างเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี คุณเป็นเซียนกฎหมาย กูรูกฎหมาย อย่ากำกวม อย่าตีความ จะมาอ้างว่าไม่มีข้อสงสัยพูดจาเลอะเทอะ เปรอะเปื้อน ไปเรื่อย ทำตัวให้สมกับคนยกย่องเป็นครูบาอาจารย์ ทำตัวให้สมกับเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายหน่อยแล้วอย่าอ้างว่าจำเป็นจะต้องส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อถ่วงเวลามันไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นตัวอย่างในการบริหารราชการแผ่นดินที่ดี จะต้องเป็นตัวอย่างในทางกฎหมายในการปฏิบัติตามกฎหมาย

วิกฤตบ้านเมืองที่ผ่านมาเห็นชัดเจนแล้วว่าเกิดจากการไม่นำพากฎหมาย ไม่เคารพ ย้ำเกรงต่อกฎหมาย สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ในเมื่อนายกฯใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้าง ในการไปจัดการกับรัฐบาลเก่า ฉะนั้นวันนี้ทุกคนคณะรัฐมนตรีทั้งหลาย ต้องทำตามกฎหมาย แล้วไม่ต้องกลัวว่าบ้านเมืองจะไปไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนเสร็จแล้วก็ไปปฏิบัติตามมาตรา 82 ไปว่ากันตรงนั้น ไม่ต้องไปยื่นศาลไม่ต้องเอาศาลมาบังหน้า

Advertisement

นายจุพรกล่าวว่า มีการตรวจสอบว่าคำสั่งนี้จะมีผลและมีใครยอมรับบ้างคนแรกที่ไม่ยอมรับคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะได้มีการนัดหมายประชาชนชาว จ.หนองคาย ในวันที่ 6 สิงหาคม ต่อมาครอบครัวเพื่อไทยวันที่ 7สิงหาคม จ.เชียงราย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าจะเป็นหนังกลางแปลง ดนตรีสดที่จัดขึ้นทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ ทุกอย่างยังยืนยันเหมือนเดิม ทั้งนี้ ยังมีสนามมวยต่างๆ สถานบันเทิงเริงรมย์ยังเปิดเหมือนเดิม ทั้งที่คำสั่งนี้เป็นการประกาศครอบคลุมทั่วราชอาณาจักรปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด ฉะนั้น คณะหลอมรวมประชาชน ยืนยันในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคมนี้ จะจัดเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ความจริงไม่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ควรจะยกเลิกการใช้พระราชกำหนดฉบับนี้ซึ่งมันผิดวัตถุประสงค์กันมาตั้งแต่แรกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานฉุกเฉินออก 48 เป็นเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้นนายกวิษณุรู้ดีที่สุด

นายจตุพรกล่าวว่า เรื่อง 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จำไม่ได้หรอว่าขอเวลาอีกไม่นาน แต่นี้ 8 ปีจะอยู่ต่อ ทั้งที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีไทยเป็นนายกฯที่ไม่มีมลทินมัวหมองยุติสงครามกลางเมืองแต่เรื่องเดียวที่ พล.อ.เปรมรับชะตากรรมคืออยู่ว่า 8 ปีแล้ว คนเห็นว่านานกฎหมายก็ไม่ได้ห้ามจึงมีการประกาศรณรงค์บอกว่าเบื่อเปรมเพราะอยู่นาน ตอนนั้นมีคนแค่หยิบมือเดียว แต่ตอนนี้รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ห้ามการดำรงตำแหน่ง 8 ปี พร้อมบอก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องทบทวนตัวเองที่อยู่มาเกินมาก และ พล.อ.ประยุทธ์ ขอเวลาอีกไม่นาน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์มีมโนธรรมสำนึกเรื่องนี้คงไม่ต้องถึงศาล เพราะรู้อยู่แก่ใจ รัฐธรรมนูญเป็น 2 สมัยติดต่อกันไม่ได้ คิดว่าเป็นความโลภในทางอำนาจ เพราะนายกเป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมาเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image