ศาลให้ประกัน ‘มิ้นท์ นาดสินปฏิวัติ’ วาง 3 แสนจากกองทุนราษฎรประสงค์
สืบเนื่องศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับ “โจเซฟ” (สงวนชื่อสกุล) นักกิจกรรมทางการเมือง และ “มิ้นท์” (สงวนชื่อสกุล) หรือเจ๊เขียว สะระแหน่ นักกิจกรรมกลุ่มนาดสินปฏิวัติ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงไม่ได้รับอนุญาต กรณีร่วมปราศรัยในกิจกรรม บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ซึ่งจัดโดยกลุ่มโมกหลวงริมน้ำเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ศาลอาญาธนบุรีนัดไต่สวนถอนประกัน “มิ้นท์” กลุ่มนาดสินปฏิวัติ โดยเวลา 10.23 น. “มิ้นท์” ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ตนอยู่ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 4 “ไต่สวนถอนประกัน อีกครั้งและอีกครั้ง”
ด้าน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เวลา 11.20 น. ศาลไต่สวนแล้วเสร็จ โดยศาลขอออกจากห้องพิจารณาคดี ไปปรึกษากับอธิบดีผู้พิพากษา ก่อนจะอ่านคำสั่งในเวลา 12.00 น.
จากนั้น เวลา 12.30 น. ศาลพิเคราะห์ว่าคำร้องที่พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม ยื่นถอนประกัน “มิ้นท์” ในชั้นสอบสวน ได้สิ้นสุดสัญญาประกัน และอัยการได้สั่งฟ้องคดีแล้ว ไม่มีเหตุให้ศาลต้องไต่สวนคำร้องขอเพิกถอน จึงให้ยกคำร้อง โดยทนายความได้ทำเรื่องขอประกันตัวต่อไป เพื่อสู้ในชั้นศาล
ด้าน นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ในฐานทนายความคดีดังกล่าว ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กถึงความคืบหน้าคดีของ มิ้นท์ หรือเจ๊เขียว สะระแหน่
นายอานนท์ระบุว่า ศาลสั่งยกคำร้องตำรวจที่ถอนประกัน เจ๊เขียว สะระแหน่ เพราะตอนนี้อัยการยื่นฟ้องแล้วจึงหมดอำนาจของพนักงานสอบสวนที่จะยื่นคำร้องระหว่างสอบสวน
อย่างไรก็ตาม เจ๊เขียวจะต้องยื่นประกันใหม่ในชั้นพิจารณา ซึ่งตอนนี้นายประกันอาสาจากกองทุนราษฎรประสงค์กำลังยื่นประกันตัวใหม่อีกครั้ง โดยศาลแจ้งว่าจะนำพฤติการณ์ตามคำร้องในชั้นสอบสวนมาร่วมพิจารณานั่นคือ การรณรงค์ให้ยกเลิกกฎหมาย ม.112 และการเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมือง ว่าสามารถทำได้หรือไม่ ตอนนี้รอฟังคำสั่ง น่าจะทราบผลเย็นนี้
ต่อมา เวลา 17.46 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานความคืบหน้าว่า ศาลอนุญาตให้ประกันตัว “มิ้นท์” ในชั้นพิจารณาโดยเรียกหลักประกันเพิ่มอีก 100,000 บาท รวมเป็น 300,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเดิมเช่นเดียวกับที่ได้ประกันในชั้นสอบสวน
17.46 น. ศาลอนุญาตให้ประกันตัว “มินท์” ในชั้นพิจารณาโดยเรียกหลักประกันเพิ่มอีก 100,000 บาท รวมเป็น 300,000 บาท กำหนดเงื่อนไขเดิมเช่นเดียวกับที่ได้ประกันในชั้นสอบสวน
— TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (@TLHR2014) August 3, 2022
