‘บิ๊กตู่’ หืด! บันทึกกรธ.รธน.60 ชี้ ห้ามนั่ง 8 ปี มีผล 23-24 ส.ค.นี้ รบ.ติงกูรูอย่าตีความกันเอง

“บิ๊กตู่” หืด! บันทึกกรธ.รธน.60 ชี้ ห้ามนั่ง 8 ปี มีผล 23-24 ส.ค.นี้ รบ.ติงกูรูอย่าตีความกันเอง

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม มีการเผยแพร่เอกสารบันทึกประชุม กรธ. เผยแพร่อ้างอิงความเห็นของ มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรธ. และ สุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรธ. คนที่หนึ่ง ที่สรุปความได้ว่า “การนับวาระดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ให้นับรวมวาระที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ใช้บังคับด้วย”

บันทึกประชุมที่ลงไว้ว่า 7 กันยายน 2561 เป็นช่วงที่กรธ.พิจารณาและจัดทำ “ความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตรา ของรัฐธรรมนูญ 2560

ความมุ่งหมายของมาตรา 158 ในความของวรรคท้าย ที่กำหนดว่า “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน8ปีไม่ได้ ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่ไม่ให้นับรวมระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่หลังพ้นจากตำแหน่ง ”

มีสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า “การกำหนดหลักการใหม่ เกี่ยวกับการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการนับระยะเวลา คือ 8 ปี แม้บุคคลดังกล่าวจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ติดต่อกันก็ตาม แต่หากรวมระยะเวลาทั้งหมดที่ดำรงตำแห่งนายกฯ ของบุคคล แล้วเกิน 8 ปี ต้องห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ”

Advertisement

” การกำหนดระยะเวลา 8 ปี เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดทางอำนาจทางการเมืองยาวนานเกินไป อันจะเป็นต้นเหตุวิกฤตทางการเมืองได้ “

ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ส่วนตัวตนมองว่ามีความพยายามของคนบางกลุ่มที่ต้องการกดดันหวังสร้างประเด็นให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยหยิบเอาบางช่วงบางตอนของเอกสารดังกล่าวที่เป็นความเห็นของกรรมการเพียงไม่กี่คนมานำเสนอจนเกิดความสับสน ทั้งๆที่เอกสารฉบับนี้เป็นแค่บันทึกการประชุมหรือบันทึกการแสดงความเห็นของกรรมการแต่ไม่ใช่มติโดยหน้าปกเอกสารก็ระบุชัดเจนว่า คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับรอง จึงไม่ควรนำมาใช้อ้างอิง และการประชุมในวันนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐธรรมนูญปี 2560 ได้ประกาศใช้ไปแล้วเพื่อจัดทำเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในขั้นตอนถัดมา ซึ่งท้ายที่สุดก็ไม่ได้ระบุไว้

“ที่ถูกต้องควรไปพิจารณาความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญปี 2560 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับที่มาของนายกรัฐมนตรี และฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ตีความกันไปตามความเห็นหรือความรู้สึกของตัวเอง โดยไม่มีอำนาจหน้าที่หรือความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักนิติศาสตร์หรือหลักกฎหมาย

Advertisement

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เคารพการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและไม่อยู่เหนือกฎหมาย จึงขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักการและปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นเดียวกัน เพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้และไม่เกิดความวุ่นวาย ” นายธนกร กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image