อ.นิด้า ชี้ 8 ปี ประยุทธ์ จะเป็นต้นเหตุวิกฤตการเมืองรอบใหม่ หากไม่ทำตามเจตนารมณ์ รธน.
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ แสดงความเห็นวาระ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า
เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอันเป็นที่มาของการบัญญัติเช่นนี้ได้นับการเขียนไว้ในหนังสือ “คำมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560” หน้า 275 ย่อหน้าสุดท้ายความว่า
“การกำหนดระยะเวลา แปดปีไว้ก็เพื่อมิให้เกิดการผูกขาดอำนาจในทางการเมืองยาวเกินไปอันจะเป็นต้นเหตุเกิดวิกฤตทางการเมืองได้”
คำถามคือ นานเกินไปนั้นกี่ปี
คำตอบก็ปรากฏในบทบัญญัติมาตรา 158 อย่างชัดเจนแล้วคือ หากเกิน 8 ปี ก็ถือว่านานเกินไป
ความเป็นจริงที่ไม่มีใครสามารถบิดเบือนได้คือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่องกันครบ 8 ปี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 อย่างแน่นอน ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดหรือการตีความแบบใดที่ล้มล้างความจริงประการนี้ได้
ดังนั้น พลเอก ประยุทธ์ก็ใกล้จะเข้าข่ายผูกขาดอำนาจในทางการเมืองยาวนานเกินไป ตามที่ระบุเอาไว้ในเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ
ประกอบกับ สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันก็มีร่องรอยหลักฐานการปรากฏตัวของวิกฤตทางการเมือง อันเนื่องมาจากการผูกขาดอำนาจที่ยาวนานเกินไปของพลเอก ประยุทธ์ ด้วยเหตุนี้การดำรงตำแหน่งต่อไปของพลเอก ประยุทธ์ โดยไม่ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จึงทำให้พลเอกประยุทธ์มีโอกาสกลายเป็นต้นเหตุของการเกิดวิกฤตทางการเมืองครั้งใหม่ในสังคมได้
การตัดสินใจของพลเอก ประยุทธ์ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดวิกฤตการเมือง หรือเร่งเร้าให้เกิดวิกฤตทางการเมือง
หากตัดสินใจ ยุติการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ วิกฤตทางการเมืองที่กำลังก่อตัวก็อาจบรรเทาลงและสลายไปได้
แต่หากตัดสินใจอยู่ในอำนาจต่อไป โดยไม่ให้ความสำคัญกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ วิกฤตการเมืองครั้งใหม่ในอนาคตอันใกล้ก็มีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะเกิดขึ้น