‘นิพิฏฐ์’ โต้ แนวคิดสุพจน์ ชี้ ‘สิระ’ ยังเคยถูกตัดสิทธิ ศาลรธน.ย้อนการกระทำไปถึงปี’38
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย เขียนข้อความแสดงความเห็นเรื่องมาตุฆาตรัฐธรรมนูญ วิจารณ์ความเห็นการตีความเรื่องระยะเวลาวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ โดย ระบุว่า
ท่านสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ได้กระทำ”มาตุฆาต” รัฐธรรมนูญ ปี 2560 เสียแล้ว ด้วยการให้ความเห็นว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนยึดอำนาจ กับ นายกรัฐมนตรีหลังยึดอำนาจไม่ต้องนับวาระการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกัน โดยตอนที่เป็นกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ท่านกล่าวว่า ต้องนับวาระต่อเนื่องกัน
ท่านกล่าวว่า ตามรายงานคณะกรรมาธิการ เป็นความเห็นของกรรมาธิการบางคน คือ ของท่าน และของท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ มิใช่เป็นมติของกรรมาธิการ อันนี้ ใช่ครับ เป็นความเห็นของ 2 ท่าน แต่เมื่อท่านอื่นในที่ประชุมไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่น ดังนั้น จึงถือว่า ทุกท่านเห็นด้วยกับความเห็นของท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ และ ท่านสุพจน์ ไข่มุกด์ มิใช่หรือ ผมอยู่ในสภามานานเคยผ่านการพิจารณากฎหมาย และรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ เราก็พิจารณากันมาอย่างนั้น
มีบางท่านบอกว่า กม.ไม่มีผลย้อนหลังเป็นโทษ ก็จริง แต่เรื่องนี้ เขาใช้กับโทษทางอาญาครับ เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2,3 จะนำมาใช้กับสิทธิในทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ ตัวอย่างเช่น อดีตส.ส.สิริ เจนจาคะ ได้รับการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยในรธน.ฉบับนี้มาตรา 98(10) ระบุว่า ผู้สมัครต้องไม่เคยถูกศาลพิพากษาจำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ส.ส.สิระ ทำความผิดเมื่อปี 2538 ก่อน รธน.2560 ถึง 22 ปี โดยทำความผิดในขณะที่ใช้รธน.ปี 2534 และรธน.ปี 2534 ขณะทำผิดก็ไม่มีบทต้องห้ามเหมือนรธน.2560 แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็ย้อนตัดสิทธิไปถึงการกระทำในปี2538 เห็นไหมครับ การย้อนหลังตัดทำได้ เพราะเป็นสิทธิทางการเมือง ไม่ใช่โทษทางอาญา
ท่านสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกมธ.ร่างรธน.ได้ทำ”มาตุฆาต”รัฐธรรมนูญไปแล้ว โดยเปลี่ยนแปลงความเห็นของตัวเองตอนนี้ ก็รอฟังเพียงว่า ท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานร่างรัฐธรรมนูญ ตัวจริงเสียงจริงจะกระทำซ้ำ ด้วยการ”ปิตุฆาต” รัฐธรรมนูญด้วยหรือเปล่า รอฟังเท่านั้นเองครับ