ทูตรัศม์ ค้านให้อดีต ปธน.ศรีลังกาอยู่นาน 90 วัน ซัดดอน ข้ออ้างพาสปอร์ตทูต ไม่ฉลาดเอามากๆ

ทูตรัศม์ ค้านให้อดีต ปธน.ศรีลังกาอยู่นาน 90 วัน ซัดดอน ข้ออ้างพาสปอร์ตทูต ไม่ฉลาดเอามากๆ

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัศม์ ชาลีจันทร์ เจ้าของเพจทูตนอกแถว อดีตเอกอัครราชทูตไทย แสดงความเห็น กรณีการเดินทางมาของอดีตประธานาธิบดีศรีลังกาที่ลี้ภัยออกจากประเทศหลังถูกขับไล่ ก่อนมาพักอยู่ที่ไทยชั่วคราว โดยระบุว่า กรณีอดีต ปธน.ศรีลังกากับความไม่ฉลาดเช่นเคยของทางการไทย

มี FC ขอให้พูดเรื่องนายโคฐาภยะ ราชปักษะ อดีต ปธน.ศรีลังกา ที่ย่องมาไทยเงียบๆ เมื่อคืนวานนี้ ผมจึงขอมีข้อสังเกตสักสองสามข้อนะครับ

ประการแรกเรื่องที่ทางการไทยยอมรับให้เข้ามานั้น ผมว่าก็เข้าใจได้ เพราะศรีลังกาเองเป็นมิตรประเทศและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย ซึ่งผมเข้าใจว่าทางรัฐบาลศรีลังกาเองก็คงมีคำขอมาด้วยเช่นกัน

Advertisement

ส่วนที่ตัวนายโคฐาภยะเลือกมาไทย แทนที่อีกหลายประเทศ นอกจากเรื่องความสัมพันธ์อันดี และความเป็นเมืองพุทธด้วยกันแล้ว เขาคงมองแล้วว่ารัฐบาลไทยปัจจุบันไม่ได้เป็นรัฐบาลที่จะมาคำนึงถึงเสียงหรือความต้องการของประชาชนอะไรนัก ซึ่งในแง่นี้เขาก็คิดถูก

ซึ่งจริงๆ ไทยก็ไม่ได้อะไรนักจากการนี้ โดยเฉพาะหากคำนึงว่าเมื่อวันใดมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจในศรีลังกาที่ตอนนี้ประชาชล้วนโกรธแค้นตระกูลราชปักษะ

แต่เอาล่ะ ว่ากันตามหลักมนุษยธรรมก็พอฟังได้ แต่การมาอธิบายว่านายโคฐาภยะ เข้าไทยได้เพราะมีหนังสือเดินทางการทูตนั้น เป็นเรื่องตลกไร้สาระมาก ไม่รู้ว่าผู้พูดไม่รู้จริงๆ หรือคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้
เรื่องการเข้าเมืองนั้น มันเป็นสิทธิและอำนาจของประเทศนั้นๆ ที่จะให้ใครเข้าหรือไม่เข้าประเทศก็ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะถือหนังสือเดินทางประเภทใด ต่อให้ถือหนังสือเดินทางการทูตเราก็ปฏิเสธได้หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจะก่อผลเสียมากกว่าดีหากให้เข้ามา คำอธิบายเช่นว่านี้ไม่ควรออกมาจากคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการต่างประเทศ มันดูไม่ฉลาดมากๆ

Advertisement

ประการถัดไป ผมไม่เห็นด้วยที่จะให้สิทธิพำนักตามหนังสือเดินทางได้ถึง 90 วัน โดยเห็นว่านานเกินไป เมื่อพิจารณาว่าทางการไทยควรคำนึงถึงทั้งความรู้สึกของประชาชนคนไทยที่ไม่มีใครเขายินดีต้อนรับคนๆ นี้ รวมทั้งภาระที่ทางการไทยต้องมาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย (ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจากภาษี) เพราะจะปล่อยตามเลยก็ไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นก็จะไม่งามต่อประเทศเรา (ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงยังเชื่อว่าในปัจจุบันยังมีกลุ่มอดีตผู้ก่อการร้ายทมิฬอีแลม LTTE แอบฝังตัวอยู่ในไทย และซึ่งคือโจทย์ที่อาจรอคิดบัญชีนายโคฐาภยะอยู่) และที่สำคัญ รัฐบาลไทยควรคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนศรีลังกาบ้าง

ผมเห็นว่าในแง่มนุษยธรรม การให้พำนักในไทยได้หนึ่ง-สองสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วที่จะให้นายโคฐาภยะ สามารถติดต่อหาแหล่งพักพิงอื่นได้ต่อไป และก็คิดง่ายๆ ว่าถ้าการมาพำนักมันดีไม่มีปัญหาอะไร ทำไมนายโคฐาภยะถึงต้องออกจากสิงคโปร์?

การให้พำนักในไทยนานถึง 90 วัน เป็นความไม่ชาญฉลาดอย่างยิ่งของทางการไทย เราแทบไม่ได้อะไรจากนี้ เพราะไม่มีใครเขาชื่นชมนายโคฐาภยะ และในอดีตทางการไทยทำเรื่องเลวร้ายไว้มากในเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าเรื่องชาวอุยกูร์ นายฮาคีมฯนักฟุตบอลชาวบาห์เรน การส่งตัวผู้ลี้ภัยกัมพูชากลับประเทศ และอื่นๆ อีกมากมาย เพียงแค่นี้มันไม่ทำให้รัฐบาลไทยปัจจุบันดูดีอะไรขึ้นมาหรอกครับ

สุดท้ายที่อยากจะพูดคือ ผมขอชมเชยทหารศรีลังกาในความมีวินัย เป็นทหารมืออาชีพ ที่ต่อให้ผู้นำเขาจะโกงเลวแค่ไหน เขาก็ปล่อยให้เป็นไปตามวิถีทางตามกฎหมายและระบบประชาธิปไตย ไม่เที่ยวเข้ามาแทรกแซงทำรัฐประหารบ้าบอเหมือนประเทศแถวนี้

ซึ่งถ้าหากรัฐประหารมันแก้โกงหรืออะไรได้จริง ป่านนี้เราคงเป็นประเทศมหาอำนาจไปแล้วนะครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image