โทนี ยัน ไม่เคยคุย ‘บิ๊กป้อม’ ดีลสูตรหาร 100 ไม่เชื่อ พปชร.เสนอ ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯฟันธง พรรคฝั่งเผด็จการ หนีซบประชาธิปไตยแน่
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 สิงหาคม เฟซบุ๊ก CARE • แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ วิเคราะห์พายุการเมืองไทย หลัง 8 ปี ประยุทธ์
โดยระหว่างการไลฟ์สด นายทักษิณ กล่าวว่า สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 100 และ 500 เถียงกันอยู่นาน และเมื่อเร็วๆ นี้ มีหมอปัดเศษรายหนึ่ง ระบุว่า ผมไปตกลง จับมือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จับมือจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
“ไม่รู้จะดีลทำไม ดีลกับผมไม่มีประโยชน์ ตั้งแต่ผมมาอยู่ต่างประเทศ ไม่เคยคุยกับ พล.อ.ประวิตร เลยจำชื่อผลได้หรือไม่ ก็ยังไม่แน่ใจ ไม่เหมือนวันวานที่หวานอยู่ บังเอิญว่าพลังประชารัฐอยากได้สูตรหาร 100 เพื่อไทยคิดว่า สูตรหาร 100 ถูกต้องตามหลักของรัฐธรรมนูญ จึงถูกมองว่าเป็นการรวมพลังกันเพื่อต่อสู้ และจบที่สูตรคำนวณหาร 100 ซึ่งถูกต้องแล้ว อย่าคิดอะไรมาก เพราะท้ายที่สุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวว่า ทั้งนี้ จากการพิจารณาการแย่งกันตั้งพรรคการเมือง คิดว่าเราจะมีพรรคเบี้ยหัวแตกจำนวนมาก ซึ่งอย่าลืมว่า ทุกพรรคมีสิทธิเสนอชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรี แต่เสนอแล้วจะได้รับการพิจารณาหรือไม่ต้องได้ไม่น้อยกว่า 25 เสียง และพรรคที่ตั้งขึ้นมาทั้งหลายนี้ อ่านแล้วคาดว่า ต่ำกว่าเยอะมาก ดูแล้วจะเหลือไม่เกิน 5 พรรคที่เสนอชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรีแล้วมีสิทธิได้รับการพิจารณา
วันนี้นี้ภาคใต้เหมือนฐานแตก ประชาธิปัตย์ต้องไล่เก็บพื้นที่ตัวเอง แต่ว่าขณะเดียวกัน พรรคที่ต้องยอมรับว่าระยะหลังถูกซื้อเยอะคือ พรรคประชาชาติ เพราะยึดฐานอยู่สามจังหวัด ส่วนทางอันดามันเมื่อก่อนเป็นของประชาธิปัตย์ แต่วันนี้ทางด้านภูมิใจไทยก็อยากจะตี เพราะภูมิใจไทยเตรียมตีอีสานเต็มที่ แต่ตียาก เพราะเพื่อไทยแข็งแรง จึงมาบุกภาคกลาง และภาคใต้เพราะมันมีช่องว่างการยึดครองของพรรคใดพรรคหนึ่งที่ไม่แข็งแรงพอ
แต่อีสาน กับภาคเหนือตอนบนเพื่อไทยแข็งแรงอยู่แล้ว แม้ว่า ภูมิใจไทย กับพลังประชารัฐจะพยายามเจาะพื้นที่นั้น แต่ต้องบอกว่า ได้เจาะ แต่เจาะไม่ได้ ส่วนภาคใต้พลังประชารัฐมีทีมช่วยทำงานอยู่แต่ตอนหลังมาอาจจะขัดแย้งกัน แต่ต้องยอมรับว่า พรรคพลังประชารัฐกระสานซ่านเซ็นอยู่ และคงจะกระจายอยู่ที่บรรดาหัวทีม เช่น สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่พยายามยึดเพชรบูรณ์ และกลุ่มของสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในทางตะวันออก
“เท่าที่ดูพรรคเพื่อไทย คิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เกิน 250 เสียง วันนี้ฝั่งประชาธิปไตยเกิน 300 เสียง แบบสบายๆ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยหาเสียงได้ดี และส่วนตัวไม่เชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เชื่อว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค เสนอแน่ แต่จะถึง 25 เสียงหรือไม่ เรื่องนี้ไม่แน่ใจ แต่อย่าลืมว่าการเสนอชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรี 1 ชื่อต้องถูกเสนอด้วยพรรคเดียว ดังนั้น หลายพรรคจะมาร่วมกันเสนอไม่ได้ แต่ยกมือได้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยอมให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอ พรรคพลังประชารัฐก็ไม่มีสิทธิ แต่เดาว่า จะมีพรรคฝั่งเผด็จการ อย่างน้อย 1 พรรค ข้ามฟากมารวมกับพรรคฝั่งประชาธิปไตยแน่นอน คือพรรคชาติไทยพัฒนา” นายทักษิณ กล่าวและว่า
“การเมืองต้องฟังประชาชน เพราะประชาชนต้องการคำตอบกับชีวิตเขา คุณอยู่มา 8 ปี ไม่มีคำตอบเลย มีแต่ปัญหา วันนี้ลดรายได้ เพิ่มรายจ่าย ไม่มีโอกาส ประชาชนก็ทนไม่ไหว สงสารชาวบ้านอย่างมาก รัฐบาลต้องหาทางบรรเทาความเดือดร้อน ไม่ใช่รอแจกบัตรคนจน ผู้มีสิทธิเยอะ น่าภูมิใจตรงไหน ทั้งที่ทำให้คนจนเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจไปต่อไม่ได้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: