บทนำมติชน 27 สิงหาคม 2565 : สถานะ‘บิ๊กตู่’
การ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องปัญหาวาระ 8 ปี ของนายกรัฐมนตรีและให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า ผลของคำสั่งไม่ได้ทำให้สถานะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ยกเลิกไป พล.อ.ประยุทธ์ยังคงมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เพียงพักการทำงานการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราวจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย และเพื่อความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดินจึงมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนั้นคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่มีผลกระทบใดๆ การบริหารประเทศ การปฏิบัติงานของข้าราชการ หรือการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลสามารถดำเนินต่อเนื่องไปตามปกติ
ส่วนระยะเวลาพิจารณาเพื่อมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นอาจไม่ต้องใช้ระยะเวลานาน หากศาลเห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายหรือมีพยานหลักฐานเพียงพอ ศาลอาจประชุมปรึกษาเพื่อพิจารณาและวินิจฉัยโดยไม่ทำการไต่สวนตามมาตรา 58 พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 ได้ ซึ่งเมื่อศาลส่งสำเนาคำร้องไปให้ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว พล.อ.ประยุทธ์มีเวลายื่นคำชี้แจงภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับสำเนาคำร้องตามมาตรา 54 ดังนั้นในระหว่างนี้จึงขอให้ทุกฝ่ายเคารพในผลการพิจารณาของศาลและหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของศาล เพื่อให้ประชาชนอยู่ร่วมกันในสังคมและช่วยให้ประเทศชาติสงบสุข ขอให้เชื่อมั่นในกฎหมายและหลักนิติธรรมของบ้านเมืองเช่นเดียวกันกับที่ พล.อ.ประยุทธ์เคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด
ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร เป็นเรื่องที่ประชาชนจดจ่อรอคอย แต่อีกเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ได้แก่ การดูแลให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารราชการของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทุกข์สุขของประชาชน ปัญหาน้ำท่วม การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค รวมถึงการเตรียมเลือกตั้งทั่วไป ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต้นปี 2566 แต่กฎหมายต่างๆ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ยังไม่เรียบร้อย ผู้ทำหน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรีควรถือโอกาสนี้ สร้างบรรยากาศของความปรองดองสมัครสมานให้เกิดขึ้น การรับฟังกันและกันของฝ่ายที่เห็นต่าง อันเป็นบรรยากาศที่ขาดหายไปจากสังคมประเทศไทยมานานมากแล้ว
