‘ทิพานัน’ ย้ำ ‘บิ๊กตู่’ ยังเป็นนายกฯยืนหนึ่ง แม้ถูกศาลสั่งพักงาน มั่นใจ ‘บิ๊กป้อม’ นั่งรักษาการไร้สุญญากาศ บริหารงานไม่สะดุด ไม่กระทบจัดประชุมเอเปค เผยยังไร้ปัจจัยนำไปสู่การยุบสภา-ปรับครม.
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี” ผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคนไทย เรียกว่าเป็นนายกฯ ยืนหนึ่งของคนไทย โดยกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจหน้าที่จะให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการพิจารณาคดี เพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปโดยเรียบร้อย ดังนั้น จึงได้มีคำสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อศาลมีคำสั่งประชาชนอาจจะตกใจว่าใครจะมาบริหารงานแทนหรือดูแลนโยบายรัฐบาลต่างๆ ขอชี้แจงว่าระเบียบและกฎหมายของประเทศถ้าเกิดกรณีที่นายกฯไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จะมี พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 41 กำหนดไว้ชัดเจน ซึ่งมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2563 พิจารณาเรื่องนี้ไว้ว่ากรณีที่นายกฯไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ จะจัดลำดับการรักษาของรองนายกฯซึ่งลำดับที่ 1 คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำหน้าที่รักษาการแทน ทำให้เบาใจได้ว่าการบริหารราชการแผ่นดินขณะนี้ไม่มีสุญญากาศและไม่ติดขัด โครงการต่างๆ ที่รัฐบาลได้จัดทำไว้ รวมทั้งการบริหารราชการแผ่นดินสามารถดำเนินได้ตามปกติ อีกทั้งพล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ติดต่อพูดคุยเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อทำให้การทำงานสะดวกราบรื่น ดังนั้น ประชาชนคลายความกังวลใจเรื่องนี้ไปได้
เมื่อถามว่า อำนาจของ พล.อ.ประวิตร สามารถสั่งยุบสภาหรือปรับ ครม.ได้หรือไม่ น.ส.ทิพานันกล่าวว่า อำนาจการรักษาราชการแทนของ พล.อ.ประวิตร ท่านมีอำนาจในการบริหารงานบ้านเมืองอย่างเต็มที่เหมือนนายกฯทำเอง แต่เรื่องของการยุบสภาหรือการแต่งตั้งโยกย้ายจะเป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกฯ ดังนั้น การยุบสภาหรือปรับเปลี่ยน ครม. ขณะนี้ยังไม่ต้องกังวลใจไป เพราะยังไม่มีปัจจัยที่จะส่งผลไปถึงเรื่องของการปรับยุบสภาหรือปรับ ครม.
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ารักษาการนายกฯไม่มีอำนาจในการยุบสภาหรือปรับ ครม.ใช่หรือไม่ น.ส.ทิพานันกล่าวว่า อ้างอิงจาก พ.ร.บ.บริหารระเบียบราชการแผ่นดิน มาตรา 41 และคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 237/2563 ที่กำหนดเรื่องการรักษาราชการแทนไว้ ดังนั้น การบริหารราชการต่างๆ การยุบสภามีอีกหลายปัจจัย และโดยหลักการใช้อำนาจหน้าที่ทำได้ยาก
เมื่อถามว่า การประชุมเอเปคที่จะมีขึ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ หากมีนายกฯรักษาการจะมีปัญหาหรือไม่ น.ส.ทิพานันกล่าวว่า การรักษาการนายกฯท่านมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคยืนยันว่าไม่มีผลกระทบ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เตรียมการล่วงหน้ามาอย่างต่อเนื่อง วางกรอบจัดเตรียมความพร้อมไว้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อ พล.อ.ประวิตรเข้ามาทำหน้าที่รักษาการนายกฯก็สามารถสานงานการประชุมเอเปคได้แบบไร้รอยต่อ
