อนุทิน ขนทัพ ภท.เปิดตัว 7 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา โวมีเก้าอี้เดียวผลงานเพียบ ขอแถมอีกได้ไหม

ภูมิใจไทย เหยียบถิ่นสงขลา เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 7 เขต จากทั้งหมด 9 เขต ท่ามกลางพลังมวลชนให้การสนับสนุนอย่างล้นหลาม อ้อนชาวสงขลาผลงานมากมาย มี ส.ส.1 คน ขอแถมอีก ชู 4 นโยบายเด็ด

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 28 สิงหาคม ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ นางนาที รัชกิจประการ แกนนำพรรคภาคใต้ ลเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ใน จ.สงขลา อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีกลุ่มพลังมวลชนที่ให้การสนับสนุนจากทั้ง 16 อำเภอ จำนวนหลายพันคนเข้าร่วม

โดยวันนี้พรรคภูมิใจไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา จำนวน 7 เขต จากทั้งหมด 9 เขต ได้แก่ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายประสงค์ บริรักษ์ เขตเลือกตั้งที่ 2 นายฉัตรชัย ชูแก้ว เขตเลือกตั้งที่ 3 นายไพร พัฒโน เขตเลือกตั้งที่ 4 ว่าที่ร้อยตรี ไกรธนู แกล้วทนงค์ เขตเลือกตั้งที่ 5 นายอนลอัทธ์ พลธนนินท์ธัญ เขตเลือกตั้งที่ 7 นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ และเขตเลือกตั้งที่ 8 นายวสันต์ ชั่งหมาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายอนุทินและคณะเดินทางมาถึง พบว่าชาวบ้านให้การต้อนรับอย่างล้นหลาม โดยมีขบวนกลองยาว ชาวบ้านถือป้ายเชียร์ ซึ่งมีทั้งป้ายพรรค ป้ายนายอนุทิน ป้ายว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละเขต ขณะที่นายอนุทินเดินเข้ามาทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ ซึ่งทั้งหมดลุกขึ้นรำกลองยาวอย่างสนุกสนานโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงเดินทางมาถึงหน้าเวที

Advertisement

จากนั้น พิธีกรได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 7 เขตขึ้นเวที ก่อนจะเชิญหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรคขึ้นเวที พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 7 เขต รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 2 คน ท่ามกลางเสียงปรบมือให้กำลังใจอย่างล้นหลาม

นายอนุทินกล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยได้พัฒนาการคมนาคม โดยงบประมาณ 3,600 ล้านบาท โดยพัฒนาถนนหนทาง รวมถึงการคมนาคมทางเรือและทางอากาศที่สงขลากว่าร้อยละ 50 และในอนาคตได้เตรียมงบประมาณสำหรับการพัฒนาการคมนาคมใน จ.สงขลาและใกล้เคียง 53,000 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังมีโครงการสะพานข้ามทะเลสาบเชื่อมสงขลา-พัทลุง ใน อ.กระแสสินธุ์-อ.ขาชัยสน จังหวัดพัทลุง พร้อมกับเตรียมพัฒนาการท่องเที่ยว ปลุก จ.สงขลา ให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะหาดใหญ่ที่เดียวก็จะสามารถเป็นศูนย์กลางการค้าการท่องเที่ยว ซึ่งจะได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเข้ามาดำเนินการ

นายอนุทินกล่าวว่า รวมถึงการทำโรงพยาบาลในจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ซึ่งตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องทำได้ ทั้งนี้ การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.1 คน ยังทำให้มากมายขนาดนี้ อยากจะขอแถมได้หรือไม่ ขอแถมอีกสัก 8 คน

Advertisement

“กระทรวงสาธารณสุขวางแผนพัฒนาให้โรงพยาบาลหาดใหญ่ สงขลา เป็นศูนย์กลางการแพทย์ด้านรังสีรักษา เพื่อให้การรักษาดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง จุดเด่นของพรรคภูมิใจไทยคือเราเป็นพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำ ที่เราทำได้ ทำสำเร็จ อาทิ นโยบายกัญชาทางการแพทย์ และสุขภาพ ประเทศไทยจะเป็นผู้นำการศึกษา วิจัย พัฒนา และใช้กัญชาทางการแพทย์สุขภาพของอาเซียนและเอเชีย ซึ่งมีหลายประเทศมาศึกษาดูงานและจะเดินตาม เช่น มาเลเซีย ประเทศไทยจะมีรายได้จากอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท

“การนำประเทศไทยออกจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และฟื้นฟูการท่องเที่ยวได้เร็วกว่าหลายประเทศทำให้ระบบสาธารณสุขไทยเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวจะมากกว่า 3ล้านล้านบาท เม็ดเงินจากการลงทุนจะเข้าสู่ประเทศไทย การสร้างรากฐานที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุข ด้วยระบบสามหมอและให้ความสำคัญกับ อสม. หมอคนที่หนึ่ง เพิ่มค่าตอบแทนและค่าเสี่ยงภัย ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาคือการเซ็นสัญญาฉบับแรกและเราทำสำเร็จแล้ว จากนี้จะเป็นการเซ็นสัญญาฉบับ 2 ขอให้ประชาชนมาเลือกพรรคภูมิใจให้มากๆ และผลักดันให้เราได้มีโอกาสไปทำงาน เราจะพักหนี้ประชาชน คนไทยทุกคน ดังนี้ 1.ได้สิทธิพักหนี้คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบหยุดต้น ปลอดดอก เป็นเวลา 3 ปี เท่ากับเวลาที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด หนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ใช้สิทธิได้ทั้งหมด ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิไม่ได้

นายอนุทินกล่าวว่า 2.จะผลักดันภาษีบ้านเกิดเมืองนอน คนไทยทุกคน บริษัทห้างร้านทุกบริษัทที่เสียภาษี มีสิทธิกำหนดให้ภาษีที่ตัวเองจ่ายอย่างน้อยร้อยละ 30 ถูกนำไปใช้พัฒนา แก้ปัญหาให้กับท้องถิ่นที่ตัวเองต้องการระบุ เทศบาล อบต. อบจ.ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน หรือที่ตั้งกิจการของตัวเองได้ จะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนจ่ายภาษีแล้วได้รู้ว่าภาษีของตัวเองเอาไปใช้ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร

“3.ไฟฟ้าประชาชน คนไทยทุกครัวเรือน มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ‘การไฟฟ้าประชาชน’ ใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซลาร์เซล ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล จะช่วยทุกครอบครัว ที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้รัฐบาล และลดค่าไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 500 บาทต่อเดือน ที่สำคัญคือช่วยให้รัฐบาลลดการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ลดการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ

“และ 4.พัฒนา อสม.เป็นสมาร์ท อสม. เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม.เป็นเดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม.เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้คนไทย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย นำเงินที่ลดได้มาพัฒนาการทำงานของ อสม.” นายอนุทินกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ผู้สมัครที่ได้รับความสนใจและวิเคราะห์กันว่ามีโอกาสจะคว้าตำแหน่ง ส.ส.มาได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากเขตเลือกตั้งเดิมคือเขตเลือกตั้งที่ 7 คือ เขตเลือกตั้งที่ 3 นายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ซึ่งมีกลุ่มให้การสนับสนุนที่เป็นเครือญาติ และฐานเสียงที่เคยอยู่กับพรรคเดิมอย่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สมัยบิดา อย่าง ไสว พัฒโน ให้การสนับสนุน

ขณะที่เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำขุนพลของพรร เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 9 เขตไปก่อนแล้ว เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี บุตรชายนายนิพนธ์, เขตเลือกตั้งที่ 2 นายนิพัทธ์ อุดมอักษร เลขานุการนายก อบจ.สงขลา, เขตเลือกตั้งที่ 3 นายสมยศ พลายด้วง นักธุรกิจ, เขตเลือกตั้งที่ 4 นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีต ส.ส.สงขลา, เขตเลือกตั้งที่ 5 นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้, เขตเลือกตั้งที่ 6 น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ส.ส.สงขลา, เขตเลือกตั้งที่ 7 นายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา, เขตเลือกตั้งที่ 8 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา และเขตเลือกตั้งที่ 9 นายศักดิ์สิทธ์ ขาวทอง บุตรชายนายเดชอิศม์

ส่วนพรรคพลังประชารัฐนั้น แม้จะยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการวางตัวว่าที่ผู้สมัคร โดยส่วนใหญ่ยังเป็น ส.ส.ในเขตเลือกตั้งเดิมคือเขตเลือกตั้งที่ 1 นายวันชัย ปริญญาศิริ เขตเลือกตั้งที่ 2 นายศาตรา ศรีปาน เขตเลือกตั้งที่ 3 นายพยม พรหมเพชร เขตเลือกตั้งที่ 4 ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส่วนในเขตเลือกตั้งที่ไม่มี ส.ส.เดิมอยู่นั้น อยู่ระหว่างการเฟ้นหาตัวบุคคล

นอกจากนั้น อาจจะยังมีตัวแปรสำคัญจากพรรคน้องใหม่อย่าง พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคเศรษฐกิจไทย รวมถึง พรรคสร้างอนาคตไทย ที่ทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครบ้างแล้ว แม้จะยังไม่ได้มีขุนพลของพรรคมาเปิดตัว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image