‘หมอชลน่าน’ อัดระบอบประยุทธ์ทำลาย เกิด ปชต. จอมปลอม มั่นใจพ้นนายกฯ แน่

“เพื่อไทย” จัดเสวนา “พอเถอะครับ ประเทศไทยต้องไปต่อ” ด้าน “หมอชลน่าน” อัดระบอบประยุทธ์ทำลายเกิดปชต. จอมปลอม มั่นใจพ้นนายกฯ แน่ “พิชัย” แนะ ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยต้องไปต่อ ขณะที่ “สุขุมพงศ์” ไล่ กลับไปไปเลี้ยงหลาน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คณะกรรมการสื่อสารการเมืองพรรค พท. จัดเสวนา หัวข้อ “พอเถอะครับ ประเทศไทยต้องไปต่อ” โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค พท. และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ และนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ คณะทำงานด้านกฎหมาย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขาธิการและกรรมการคณะยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง เป็นผู้ดำเนินรายการ

โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า วันนี้อยากจะเน้นคำว่า พอเถอะ เพราะเป็นคำร้องขอประชาชน ให้ดังถึงผู้มีอำนาจว่าประเทศไทยต้องไปต่อ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าเราอยู่กับระบอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อความลำบากในการใช้ชีวิตทั้งเศรษฐกิจสังคม การเมือง สิทธิเสรีภาพ และความเป็นอยู่ แต่หลายคนบอกว่า ความสงบจบที่ลุงตู่จริงๆ เพราะชีวิตเราเงียบเหงามาก ที่สำคัญคือโอกาสของประเทศชาติบ้านเมืองที่สงบเงียบราบคาบ ถามว่าประเทศเรายืนอยู่ตรงไหนในเวทีโลก ซึ่งเราก็ไม่สามารถหาคำตอบได้เจอ

“8 ปีที่ผ่านตั้งแต่ยึดอำนาจและจะขออยู่อีกไม่นาน เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน แต่กลไกที่ใช้สืบทอดอำนาจเป็นกลไกที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเพื่อให้อยู่ในอำนาจต่อ ทั้งตัวบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระบบการเข้าสู่อำนาจ การเลือกตั้ง และการมีส่วนร่วมของประชาชน ล้วนพิสูจน์ให้เห็นเมื่อเข้ามาใช้อำนาจแล้ว อำนาจบริหารอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจการตรวจสอบในสภา ก็เห็นว่าถูกทำลาย เสียหายอย่างร้ายแรง” นพ.ชลน่านกล่าว

Advertisement

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ขณะนี้ประชาชนถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.สนับสนุนระบอบ พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 20 2.ค้ดค้านต่อต้านระบอบ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ร้อยละ 20 และ 3.กลุ่มพร้อมที่จะไปทางใดก็ได้ ร้อยละ 60 ซึ่งกลุ่มนี้กำลังถูกเจาะความศรัทธาและความเชื่อมั่นต่อระบบการเมืองไทย เกรงว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปต่อ หรือระบอบ พล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ ประชาธิปไตยประเทศไทยจะถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิง สุดท้ายทุกคนจะถูกครอบด้วยประชาธิปไตยจอมปลอมมีแต่เปลือก

“เราไม่ก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เรารอศาลวินิจฉัย ผมมีความมั่นใจอยู่ลึกๆ ว่า โดยกระบวนการแล้วพล.อ.ประยุทธ์ ไปต่อไม่ได้ ดังนั้น ต้องรอกลไกอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าออกมาในทางที่เราคาดหวังก็ยุติบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ พ้นจากตำแหน่งและเลือกนายกฯ ใหม่ หวังว่าเลือกนายกฯ ใหม่จะเป็นทางออกเบื้องต้น แม้จะเป็นความหวังเล็กๆ ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ทางเลือกต่อมาคือ การคืนอำนาจให้ประชาชน นั่นก็คือยุบสภาฯ ซึ่งฝ่ายค้านไม่อยากเป็นเครื่องมือให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง แต่ยุบสภาที่ดีที่สุดเมื่อมีกฎหมายเลือกตั้งแล้ว” นพ.ชลน่านกล่าว

Advertisement

ด้านนายพิชัยกล่าวว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกมติศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์น่าจะต้องทำใจได้แล้วว่าเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์ในการบริหารประเทศได้สิ้นสุดแล้ว อย่าได้ดันทุรังต่อไปอีกเลย จะยิ่งสร้างความน่าอับอายให้กับตัวเองมากยิ่งขึ้น การที่ผู้บังคับบัญชาทหารบกออกมาพูดสดุดี พล.อ.ประยุทธ์ก็หมายถึงการกล่าวชมเชยในการสิ้นสุดการทำหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น ความพยายามของ พล.อ.ประยุทธ์ที่จะยื้อแม้กระทั่งไปนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นเรื่องที่ประชาชนจำนวนมากเห็นเป็นเรื่องน่าอับอายเหมือนทำใจไม่ได้ ยังยึดติด ยึดมั่นถือมั่น ยอมลดเกรดตัวเองเพื่อยื้อที่จะอยู่ ทั้งที่ต้องปล่อยวางได้แล้ว

นายพิชัยกล่าวต่อว่า ลองคิดดูว่าประชาชนจำนวนมากดีใจอย่างมากที่ พล.อ.ประยุทธ์ออกไป หาก พล.อ.ประยุทธ์กลับมาใหม่จะยิ่งสร้างความโกรธและความไม่พอใจเป็นหลายเท่าทวีคูณ ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับประเทศอย่างมาก ดังนั้น เวลาของ พล.อ.ประยุทธ์ได้หมดแล้ว และอย่าพยายามไปล็อบบี้ศาลรัฐธรรมนูญต่ออีกเลย เพราะไม่มีประโยชน์ ถ้ารอดก็น่าจะรอดแต่แรกไปแล้ว ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์และเครือข่ายได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด สมควรที่จะต้องไปทั้งหมดได้แล้ว โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจต้องเรียกว่าล้มเหลวยิ่งกว่าล้มเหลว จะเกินมือที่รัฐบาลจะแก้ไขได้ และจะสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาขนอย่างมาก จะบอกว่า ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่ได้เล้ว 8 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ และเครือข่ายล้มเหลวอย่างมาก อย่าพยายามดื้อรั้นต่อไปอีกเลย ประชาชนจะยิ่งจะลำบากกันอย่างมาก ไม่ไหวอย่าฝืน โดยพรรค พท. พร้อมเข้ามาแก้ไข และได้คิดนโยบายรองรับไว้แล้ว ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและเลือกพรรค พท. มากๆ ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงในไม่นานนี้

ขณะที่ นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า จากประวัติศาสตร์การเมืองไทย พล.อ.ประยุทธ์กำลังทำลายสถิติประเทศไทย เป็นนายกฯยืนยาว นานที่สุดเกิน 8 ปี ดังนั้น ต้องพอ อย่าอยู่ต่อให้คนทั้งประเทศด่าเลย กลับไปเลี้ยงหลานเถอะ ทั้งนี้ ที่มาของการเป็นนายกฯ ก็มิชอบ รัฐธรรมนูญก็มิชอบ เพราะไม่เคยมีรัฐธรรมนูญประเทศไหนที่บอกว่าทำประชามติแล้วคนที่ไม่สนับสนุนต้องติดคุก นอกจากนี้ ยังมีคำถามพ่วงเพื่อให้เกิดการปฏิรูปไปถาม คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้เชื่อว่ายังไม่รู้เลยว่าแผนปฏิรูปสำเร็จไปกี่เรื่อง แล้วสำเร็จจริงหรือไม่ นอกจากนี้ ยังให้ ส.ว.มีอำนาจเลือกนายกฯ แถมยังมีอำนาจมากกว่าผู้แทนราษฎร สามารถพิจารณากฎหมายไปพร้อมสภาฯ ถือเป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญและประเทศไทยด้วย ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน เพราะทำงานไม่สอดคล้องกับระบบประชาธิปไตย ประชุมสภาฯ ทีไรมีโอกาสล่มถึง 50% เพราะกล้วยจะหมดสวน พอค่ำๆ ส.ส.หลายคนมีภารกิจ ส่วน ส.ว.มีอีกสถานะหนึ่งคือผู้สูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไปทั้งนั้น สองในสามเป็นข้าราชการทหาร พอตกเย็นก็หายหมด รัฐสภาจึงมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม

“ขณะนี้ปัญหาข้าวยากหมากแพงเกิดขึ้นไปทั่ว ชาวบ้านเดือดร้อนกันหมด ส่วนปัญหายาเสพติดก็ราคาถูกมาก หาซื้อได้ง่าย ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นของไทยขึ้นลำดับสูง เพราะมีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในตอนแรก รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สมาชิกรัฐสภาที่อ่อนด้อยในการทำหน้าที่ ส่งผลไปถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้น 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ต้องพอได้แล้ว” นายสุขุมพงศ์กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image