สกลธี ภัททิยกุล อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เชียร์เลขาฯ พรรคกล้าตรวจสอบงบสัมมนาดูงานของสำนักงานเขตจตุจักรเกือบ 10 ล้านบาท เหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. จากกรณีที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยว่า พบความผิดปกติในงบประมาณกรุงเทพฯ ปี 2566 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 จำนวน 79,719 ล้านบาท โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อ่อนไหวน้ำท่วม พบว่าเขตจตุจักร ซึ่งมีจุดเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม 11 จุด มีโครงการโยธาทางระบายน้ำถูกตัดงบประมาณทิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นโครงการพาคนไปเที่ยวสัมมนาสูงถึง 9,783,300 บาท และมีการแปรญัตติเปลี่ยนแปลงงบประมาณสูงถึง 16,232,300 บาท ขณะที่ย้ายหมวดเพิ่มเพื่อเหมาทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ค่าฝาท่อระบายน้ำมีเพียง 3 ล้านบาทเท่านั้น โดยเตรียมนำหลักฐานยื่นต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อตรวจสอบในวันนี้ เวลา 14.00 น.
เฟซบุ๊ก “สกลธี ภัททิยกุล” ของนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมเห็นด้วยนะครับว่าต้องช่วยกันจับตาดูงบสัมมนาดูงานของสำนักงานเขตจตุจักรจำนวน 10 กว่าล้านบาทที่ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่าเหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่??? ผมคิดว่าถ้าไปดูทั้ง 50 เขตก็จะมีงบแบบนี้ตั้งเอาไว้เช่นเดียวกันครับ และน่าจะเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกัน
เป็นข้อสังเกตครับถ้าจำไม่ผิดตั้งแต่สมัยที่ผมเป็นรองผู้ว่าฯ และนับย้อนไปถึงตั้งแต่มี ส.ก.แต่งตั้งแทน ส.ก.เลือกตั้ง งบสัมมนาดูงานจะไม่มีไปตั้งไว้ที่เขตครับ แต่จะอยู่ที่สำนักพัฒนาสังคม (ส่วนกลาง) เพื่อใช้สำหรับกรรมการชุมชนเท่านั้นที่จะได้ไปศึกษาดูงาน และช่วงหลังก็มีน้อยมากเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ระบาด
วัตถุประสงค์ที่ยกเลิกไปก็เพราะงบตัวนี้เป็นที่รู้กันในแวดวงการเมือง กทม.สมัยก่อนว่าเป็นงบสำหรับท้องถิ่นใช้พาหัวคะแนนไปเที่ยว (พูดแบบตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม) อันจะเป็นการได้เปรียบสำหรับคนที่อยู่ในตำแหน่งท้องถิ่นเป็นอย่างมาก…ในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมาจึงตั้งเอาไว้ที่ส่วนกลางโดยให้สำนักพัฒนาสังคมนำเฉพาะกรรมการชุมชนไปอบรมเท่านั้น
และที่อยากให้จับตาดูนอกเหนือจากความไม่เหมาะสมในเรื่องของการได้เปรียบเสียเปรียบในพื้นที่แล้ว…ยังมีเรื่องของงบแต่ละเขตในการพัฒนาถนนหนทางหรือท่อระบายน้ำที่มักจะไม่พออยู่แล้วในแต่ละปี หลายโครงการถูกตัดไปเพราะงบประมาณไม่เพียงพอ ลองคิดดูครับถ้า 10 ล้านนี้ในแต่ละเขต นำไปวางท่อระบายน้ำใหม่หรือยกถนนให้สูงขึ้นใหม่ก็น่าจะได้อยู่หลายซอย แก้ปัญหาน้ำท่วมรอระบายให้แก่พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ได้ไม่มากก็น้อย
ยังไม่นับความแปลกที่อรรถวิชช์ได้เรียนไปแล้วว่าในวาระหนึ่งของงบประมาณปีนี้ได้ตั้งเสร็จก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ และตอนนั้นไม่ได้มีงบสัมมนาดูงานนี้แน่นอนครับ น่าจะเพิ่งมาตั้งหลังจบเลือกตั้งผู้ว่าฯ นี้นี่เอง… เห็นด้วยกับอรรถวิชช์นะครับ ว่าในสถานการณ์แบบนี้เงินจำนวนนี้ควรจะนำไปใช้แก้ปัญหาเรื่องระบบสาธารณูปโภคต่างๆ มากกว่าครับ”
