กลุ่มโมกหลวง โวย แค่งานศิลปะ ถูกตำรวจ สน.บางพลัด ห้ามจัด ‘คืนยุติธรรม’ ที่ช่างชุ่ย
เมื่อวันที่ 19 กันยายน สืบเนื่อง กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ กำหนดจัดกิจกรรม “คืนยุติธรรม : Dawn of Justice” ที่ช่างชุ่ย ประตู 3 ระหว่างวันที่ 20-25 กันยายนนี้ เวลา 13.00-20.00 น. โดยภายในงานจะมีการจัดแสดงนิทรรศการ “คืนยุติธรรม : Dawn Of Justice” ซึ่งจะพาผู้ชมดำดิ่งไปกับศิลปะและชีวิตของมนุษย์ธรรมดาที่ต้องพบเจอกับความเจ็บปวด จากความอยุติธรรมในสังคมจนไม่อาจหวนคืนสู่วิถีเดิมได้อีก ไปจนถึงงานเสวนา, กิจกรรมเวิร์กช็อป, การแสดง Performance art และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งภายในงานจะมีบูธสินค้าของไฟเย็น น้ำดื่มสะอาดตราลุงสนามหลวง โดยไฮไลต์ที่สำคัญของบูธไฟเย็น คือการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคไฟเย็น โดยการจัดกิจกรรม เป็นไปเพื่อเรียกร้องให้มีการคืนความยุติธรรม ตามกระบวนการทางกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน นั้น
ล่าสุด เวลา 23.35 น. วันที่ 18 กันยายน นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ขณะนี้ทางทีมงานฝ่ายสถานที่ “คืนยุติธรรม” แจ้งมาว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่อนุญาตให้จัดงาน “คืนยุติธรรม” ที่จะมีขึ้นที่ช่างชุ่ย ในวันที่ 20-25 กันยายน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายโสภณเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กด้วยว่า ล่าสุดตำรวจติดต่อมาว่าจะมาขอเยี่ยมดูงาน “คืนยุติธรรม” ซึ่งก็ไม่เป็นไร ศิลปะไม่เป็นขี้ข้าและไม่เป็นนายใครอยู่แล้ว และงานนี้ก็ถูกกฎหมายทั้งหมด มาร่วมเสพศิลป์ และดูแลประชาชนอย่างที่ท่านควรจะทำเถอะครับ
โดยภายหลังมีการสั่งห้ามจัดงาน หนึ่งในแนวร่วมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ได้โพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจ ต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด ความว่า ถ้าประชาชนทั่วไปอย่างเราสามารถพูดความจริงได้ และถ้าไม่มีการบังคับสูญหายตั้งแต่แรก เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจัดงานอะไรแบบนี้ แต่นี่คือความยุติธรรมในประเทศก็ไม่มี แถมยังมีการอุ้มหายยัดคดีให้กับผู้เห็นต่างอีก แล้วยังสั่งห้ามจัดงานคืนยุติธรรมอีก คุณทำไปเพื่ออะไร แสดงว่ามันคือความจริงที่ผู้มีอำนาจสั่งให้คนไปอุ้มคนที่คิดต่างและสั่งถอนประกันคดีต่างๆ
โลกไปถึงไหนแล้ว ขอแค่พื้นที่สำหรับประชาชนอย่างเราไม่ได้หรอ แค่เล็กๆ นิดเดียวไม่ได้เลยหรอ งานดนตรี ผลงานต่างๆ ก็จำกัดเนื้อหา จำกัดเสรีภาพมากมายแล้ว อย่าลืมนะว่าคุณก็คือมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน
ขณะที่ มิ้นท์ กลุ่มนาดสินปฏิวัติ และหนึ่งในแนวร่วมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า โกรธ พร้อมแชร์ภาพผู้กำกับการ และรองผู้กำกับการ สน.บางพลัด ที่แจ้งไม่ให้จัดงาน ที่ช่างชุ่ย โดยมีการเปิดเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่พูดคุยกับประชาชนด้วยวาจาที่ไม่สุภาพ ตัดสาย และอื่นๆ
“อยู่ในประเทศที่การถูกขู่ฆ่าเป็นเรื่องปกติ ของนักกิจกรรม
ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ขู่ทุกช่องทางจริงๆ” มิ้นท์ระบุ
ต่อมา เวลา 11.54 น. วันนี้ (19 ก.ย.) นายโสภณ หรือ เก็ท โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า ตอนนี้เราได้เจรจากับทางตำรวจแล้ว ตำรวจอนุญาตให้จัด แต่จะมาดูงาน ซึ่งตอนนี้คำตอบว่าจะจัดที่เดิมได้หรือไม่ขึ้นกับ ช่างชุ่ย ChangChui ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ ขอให้ทุกคนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ว่าเราจะได้จัดสถานที่เดิมไหม
ด้าน น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระ อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนประชาชน ร่วมสอบถาม “ช่างชุ่ย” ถึงการจัดงานดังกล่าว ใต้โพสต์กิจกรรมที่ทางช่างชุ่ย ประชาสัมพันธ์กิจกรรมเสาร์-อาทิตย์นี้ ซึ่งปรากฎเพียงกิจกรรม ตลาดมือสองสุขเปลี่ยนมือ และชุ่ยมาร์เก็ต
น.ส.ทานตะวัน ระบุว่า
เวลา 15.10 น. กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ โดย นายโสภณ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตามกำหนดการงาน “คืนยุติธรรม” ต้องจัดขึ้นในวันที่ 20 – 25 กันยายนที่จะถึง ซึ่งทีมงานเตรียมเซ็ตพื้นที่ต้องแต่เมื่อวาน ผู้สนับสนุนงานและมวลชนก็กำลังหลั่งไหลมาเพื่อเข้าร่วมงานนี้ แต่ทาง ช่างชุ่ยกลับยกเลิกงาน โดยให้เหตุผลว่ามีตำรวจมาคุกคาม ในขณะเดียวกันตำรวจก็ให้ข้อมูลว่าไม่ได้คุกคาม เพียงแต่จะเข้าไปจรวจสอบความเรียบร้อย
และล่าสุด ช่างชุ่ยขอเลื่อนงานที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้อย่างไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลว่า “ไม่สบายใจ” จึงขอเชิญสื่อมวลชนและประชาชนร่วมกันตามหาเหตุผลและข้อเท็จจริงได้ ที่ช่างชุ่ย วันนี้ (19 กันยายน 2565) เวลา 16.00 น.
นายโสภณ โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า ทีมงานอดหลับอดนอนทำงานกัน บางคนทำงานจนเป็นลม กว่าจะระดมทุนมาได้ ก็ไม่ง่ายเลย ประชาชนบริจาคกันมาหลักสิบ หลักร้อยจนเป็นหมื่น องค์กรภาคประชาสังคมและภาคธุรกิจก็เข้าร่วม พ่อค้า แม่ค้า ก็ซื้อของเตรียมมาขาย ศิลปินก็จัดตารางงานเพื่อมางานนี้
สำหรับ กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ได้จัดกิจกรรม ตามหาผู้สูญหาย ที่บริเวณสยามสแควร์ เนื่องใน “วันผู้สูญหายสากล” เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยในช่วงค่ำมีการทำกิจกรรมออนไลน์ “แด่ผู้สูญหาย และตายจาก” ซึ่งมีการร่วมพูดคุยในประเด็นรัฐบาลเผด็จการ ที่พรากชีวิตประชาชน และบังคับให้สูญหาย
