จาตุรนต์ เตือนกกต.ชี้ให้ชัด 180 วันก่อนยุบสภา อะไรทำได้-ไม่ได้ อย่าให้เลวร้ายเหมือนปี’62

เมื่อวันที่ 22 กันยายน นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็น กรณีข่าวการประกาศวันเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่คาดว่าการเลือกตั้งจะจัดขึ้นเดือนพฤษภาคม 2566 โดย ระบุว่า

180 วันก่อนครบอายุสภา ห้ามใคร ไม่ห้ามใคร อย่าให้เลวร้ายเหมือนเลือกตั้งปี’62

ที่ถกเถียงกันอยู่เรื่อง 180 วัน ก่อนหมดอายุสภา คนที่จะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กับพรรคการเมืองและรัฐบาลทำอะไรได้แค่ไหน ความจริงก็มีประเด็นที่ควรจะทำให้เกิดความถูกต้องชัดเจน

ว่าที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองทำอะไรได้แค่ไหนนั้น มีเรื่องที่ กกต.อาจทำให้เป็นปัญหาอยู่ 3 ส่วนคือ 1.การห้ามทำกิจกรรมทางสังคมหรือศาสนาจนเกินสมควร ทำให้ผู้ที่เป็นว่าที่ผู้สมัครไม่เป็นผู้เป็นคน เป็นตัวประหลาดในสังคม เช่น มีงานศพจะส่งหรีดก็ไม่ได้ ช่วยงานหรือร่วมทำบุญก็ไม่ได้ มีงานบุญจะทำบุญก็ไม่ได้ กลายเป็นซื้อเสียงไปเสีย

Advertisement

การห้ามในสิ่งเหล่านี้เป็นการทำลายประเพณีที่ดีทางสังคม ขัดขวางการทำกิจกรรมทางศาสนาที่จริงๆ แล้วรัฐไม่ควรก้าวล่วง ความจริงจะกำหนดวงเงินไม่ให้เกินความเหมาะสมไว้ก็ได้ แต่ที่ผ่านมา กกต.ก็มักจะตีความในทางสุดโต่งไม่คำนึงถึงวัฒนธรรมประเพณีและสิทธิเสรีภาพที่รวมทั้งการทำกิจกรรมทางศาสนา

ผู้สมัคร ส.ส.บางคนถูกจับแพ้ฟาวล์เพราะใส่ซองทำบุญ 2,000 บาท จนไม่ได้เป็น ส.ส.ไปหนึ่งสมัยทั้งๆ ที่ต่อมาศาลตัดสินว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไรเลยก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

เลวร้ายกว่านั้นก็คือการดูถูกประชาชนคนไทยว่าคิดอะไรไม่เป็น ได้เงินใส่ซองช่วยงานบวชงานศพก็ต้องเลือกคนนั้นแล้ว

Advertisement

ส่วนที่ 2 ในส่วนของพรรคการเมือง ที่จะเป็นปัญหามากคือการไปจำกัดขัดขวางกิจกรรมที่ไม่ใช่เป็นการหาเสียง แต่เป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและต่อการพัฒนาระบบพรรคการเมือง เช่น กิจการที่สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายพรรคการเมือง รัฐธรรมนูญหรือสิทธิเสรีภาพ เป็นต้น รายจ่ายสำหรับกิจกรรมในเรื่องเหล่านี้ไม่ควรนับเป็นกิจกรรมหาเสียง แต่ถ้า กกต.นำมาคิด ก็จะทำให้พรรคการเมืองต้องงดกิจกรรมเหล่านี้เพื่อเหลือวงเงินไว้ใช้ในการหาเสียง

ส่วนที่ 3 สำหรับรัฐบาลนั้น ที่เป็นปัญหามากที่สุดคือจะบังคับให้รัฐบาลเริ่มปฏิบัติตนเหมือนเป็นรัฐบาลรักษาการตั้งแต่เมื่อไหร่ ปรกติเมื่อยุบสภาแล้วก็ควรห้ามรัฐบาลอนุมัติงบประมาณและแต่งตั้งโยกย้ายโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจาก กกต. ซึ่งจะเป็นเวลาไล่เลี่ยกับการห้ามว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงด้วยวิธีต่างๆ หลังจากประกาศราชกิจานุเบกษากำหนดวันเลือกตั้งแล้ว แต่พอห้ามว่าที่ผู้สมัครหาเสียงล่วงหน้าถึง 180 วัน แต่ไม่ห้ามรัฐบาลใช้งบประมาณและแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการได้ตามใจชอบก็กลายเป็นความลักลั่น ได้เปรียบเสียเปรียบกันอย่างมาก

ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ลูกน้องบริวารของพลเอก ประยุทธ์ได้เขียนรัฐธรรมนูญไว้ ให้ยกเว้นหลักการการเป็นรัฐบาลรักษาการของพลเอก ประยุทธ์ ทำให้รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์สามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและอนุมัติและใช้งบประมาณได้อย่างไม่จำกัด ไม่เหมือนที่เคยกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ ทำให้พลเอก ประยุทธ์กับพวกใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านหาเสียงได้อย่างสบาย เช่น การจ่ายเงินในโครงการที่มีชื่อพ้องกันกับพรรคการเมือง และสนับสนุนให้นักการเมืองในพรรคการเมืองที่สนับสนุนพลเอก ประยุทธ์สามารถอวดอ้างหาเสียงจาการใช้งบประมาณของรัฐบาลอย่างโจ่งแจ้งด้วย

ที่ถกเถียงกันอยู่จึงมีประเด็นที่ต้องทำให้ถูกต้อง อย่าให้เกิดปัญหามากอย่างที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วอีกเลยครับ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image