ปธ.สมานฉันท์แรงงานไทย ชี้ คนไทยยากจน จนได้ประกาศนียบัตร ค่าแรงขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ บะหมี่ฯขึ้น 20 %

‘ประธาน คสรท.’ เผย คนไทยสัมผัสประชาธิปไตยเพียงชั่ววูบ รัฐบาลเอาใจนายทุนไม่สนประชาชน ลั่น คนไทยจนจนได้ประกาศนียบัตร

เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ห้องประชุมมูลนิธิอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และกลุ่มประเทศไทยต้องมาก่อน จัดงานเสวนา “นับหนึ่งประเทศไทย ด้วยอธิปไตยของปวงชน หลัง 30 กันยายน”

เมื่อเวลา 14.00 น. นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวเสวนาว่า การมาร่วมกันในวันนี้ตนเชื่อว่าทุกคนมีเป้าหมาย ส่วนหลังวันที่ 30 กันยายนจะเป็นอย่างไรนั้นมันก็คิดได้ทั้งสองทาง ทั้งทางบวกและทางลบ แต่ตนคิดว่าระยะเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีมานั้น ไม่ได้มีเรื่องโกรธหรือเกลียดเป็นการส่วนตัว เพียงแต่เราคือคนส่วนใหญ่ของสังคม ถูกชนชั้นปกครองหลายยุคหลายสมัยกระทำการจนทำให้พวกตนลำบากมากในขณะนี้

“จากสิ่งที่เราพยายามเรียกร้อง เสรีภาพ ภารดรภาพ เสมอภาค ซึ่งเป็นหลักการใหญ่ของประชาธิปไตย แต่ในทางความเป็นจริงเราไม่เคยสัมผัสได้ถึงสิ่งเรานั้น หรืออาจะสัมผัสได้เพียงชั่วคราว ชั่ววูบ และท้ายที่สุดเราก็ต้องมาเริ่มกันใหม่ จนถึงสถานการณ์วันนี้ตนคิดว่าจากระบบการเมืองการปกครอง ที่ปกครองประเทศนี้มาอย่างยาวนานก็แจ่มชัดว่าประเทศนี้เป็นประเทศทุนเสรีนิยมผูกขาดโดยทุนกลุ่มใหญ่ชัดเจนมาก ดังนั้น คิดว่าสิ่งที่ชัดเจนและตอกย้ำมากคือระยะเวลาในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันประชาชนยากลำบากมาก ก่อนมาที่นี่ได้พูดคุยกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มเกษตรกรถึงเรื่องทิศทางของประเทศไทยและอนาคตของลูกหลานที่จะเติบโตในวันข้างหน้า พวกเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูดและทำในสิ่งที่คิดว่าคนอื่นกระทำไม่ถูกต้องและย่ำยีต่อเรา ในวันนี้นั้นทรัพย์ในดิน สินในน้ำถูกยึดครองโดยกลุ่มทุนทั้งหมดภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล อดีตที่ผ่านมาก็ใช่แต่วันนี้มันหนักกว่านั้น รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย นั่งวางเฉยโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าเป็นพรรคร่วมไม่สามารถก้าวล่วงได้ ผู้แทนทั้งหลายบอกว่าจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนแต่ท้ายที่สุดบอกว่าเป็นเรื่องของพรรคอื่นไม่อยากยุ่งเกี่ยวเพราะเสียมารยาททางการเมือง” นายสาวิทย์กล่าว

Advertisement

ในตอนหนึ่งนายสาวิทย์ กล่าวว่า การขึ้นค่าจ้างที่เพิ่งประกาศล่าสุด 354 บาท ขึ้นจาก 336 บาท ขึ้นมา 5-6% ใยขณะที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นจากราคาจากเดิมถึง 20% เพราะไม่ได้สนใจชีวิตของพี่น้องประชาชนปล่อยให้จนต่อไปเพื่อจะได้ปกครองง่าย และสุดท้ายก็กู้เงินมาแจกตามบัตรสวัสดิการต่างๆ วันนี้พวกเราจนจนได้ประกาศนียบัตร โดยที่รัฐบาลนั่งภูมิใจที่มีคนขึ้นทะเบียนคนจนได้ 15 ล้านคน

“นี่คือความเหลื่อมล้ำจนทำให้ประเทศไทยวันนี้จากระยะเวลาการบริหารประเทศมา ความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก ดังนั้นแน่นอนที่สุด สิ่งที่กำหนดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นอยู่ที่การเมือง เราอยู่ในภาวะที่ต้องดิ้นรนขวนขวายเลี้ยงตัว ระบบเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้เลยทำให้สังคมในวันนี้ปั่นป่วน ความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก ถ้าเราจะปล่อยให้ประเทศเป็นแบบนี้ต่อไปคงยาก ดังนั้นผมคิดว่าในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประชาชนจึงจำเป็นที่จะต้องหาแนวทางที่เป็นวิธีคิดหรือสร้างอธิปไตยของประชาชนขึ้นมา แน่นอนที่สุดว่ามันไม่ได้ง่าย แต่ถ้าเราละทิ้งมัน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เราก็จะหายไป เพราะฉะนั้น การต่อสู้ในครั้งนี้หรือครั้งต่อๆไปหรือที่แล้วมาทั้งหมด ผมเชื่อว่าเราต่อสู้เพื่อปกป้องอนาคตของตัวเองและลูกหลานของเราที่จะเกิดมาในวันครั้งหน้า” นายสาวิทย์ กล่าว

นายสาวิทย์ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าการขับเคลื่อนต่อจากนี้ไปเป็นเรื่องสำคัญและมีเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น การเคลื่อนไหวก็มีความเห็นต่างอยู่ก็ต้องยอมรับ แต่วันนี้คณะหลอมรวมประชาชนก็ยังยืนหยัดต่อสู้อยู่ ตนคิดว่าในมิตินี้คนจ้องอยู่ว่าการขับเคลื่อนในครั้งนี้มันมีทิศทางอย่างไร ซึ่งตนมองว่าคณะหลอมรวมประชาชนตั้งตนได้ถูกที่เริ่มจากปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน นี่คืออธิปไตย ถ้าเราคิดว่าเราถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพไปเราก็ต้องทวงคืนกลับมา จะเร็วหรือช้าอยู่ที่พลังของพี่น้องประชาชนทั้งหมด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image