ทะลุฟ้าฝ่าสายฝน ยื่นจดหมาย 6 สถานทูต ให้ถึงหู ‘ผู้ร่วมประชุมเอเปค’ รัฐบาลไทย ขังนักเคลื่อนไหวการเมือง กว่า 22 ชีวิต
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 กันยายน กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรม “ยื่นหนังสือทะลุโลก V.2” โดยเริ่มตั้งขบวน ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต เพื่อยื่นหนังสือถึงสถานทูต รายงานสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยแก่ผู้เข้าร่วมประชุมเอเปค และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกจับกุม โดยมีกำหนดการเคลื่อนขบวนไปตามสถานทูตประเทศต่างๆทั้งหมด 7 แห่ง ตามลำดับ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูตเวียดนาม, สถานทูตนิวซีแลนด์, สถานทูตอเมริกา, สถานทูตญี่ปุ่น, สถานทูตเม็กซิโก, สถานทูตสิงคโปร์ และสถานทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ทั้งนี้ กลุ่มทะลุฟ้าได้ไปยื่นเพียง 6 สถานทูต เนื่องจากสถานทูตนิวซีแลนด์ ปิดทำการในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเวลา 10.11 น. ตัวแทนทะลุฟ้าได้ยื่นหนังสือกับตัวแทนสถานทูตเวียดนาม โดยสภาพอากาศมีฝนตก ผู้ร่วมชุมนุมจึงสวมหมวก กางร่ม และใส่เสื้อกันฝนในระหว่างดำเนินกิจกรรม
ตัวแทนทะลุฟ้ากล่าวว่า วันนี้ที่ทะลุฟ้ามายื่นหนังสือในวันนี้ เพราะว่าตอนนี้การประชุมเอเปคกำลังใกล้เข้ามาแล้ว พวกเราจึงอยากแจ้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ต่อตัวแทนสถานทูตต่างๆ ที่มาเข้าร่วมประชุมเอเปค ที่จะถึงในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งในตอนนี้มีนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ประชาชน ที่เพียงแค่ต้องการส่งเสียงเรียกร้องเสรีภาพ หรือแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาล รวมถึงต่ออำนาจที่กดขี่อยู่ แต่ก็ถูกพรากอิสรภาพไป ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้
“พวกเราจึงอยากที่จะแจ้งให้กับสถานทูตต่างๆ ได้รับรู้ว่า ตอนนี้สถานการณ์ของประเทศไทยที่กล่าวอ้างตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตย และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคที่กำลังจะมาถึง สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศตอนนี้ มีเพื่อนเรากว่า 22 คนที่กำลังถูกคุมขังอยู่ในคุก เราจึงมายื่นหนังสือในวันนี้ เพื่อให้ตัวแทนสถานทูตต่างๆ ได้รับรู้” ตัวแทนทะลุฟ้ากล่าว
จากนั้น เวลา 10.27 น. ตัวแทนทะลุฟ้า เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ ที่ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ
ต่อมา เวลา 10.54 น. ตัวแทนทะลุฟ้า เดินทางต่อเนื่องไปยื่นหนังสือที่ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย โดยมีตัวแทนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของสถานทูต เป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว
บรรยากาศ เวลา 11.11 น. กลุ่มทะลุฟ้า เปลี่ยนแผนการเดินทางโดย ไปยื่นหนังสือถึง สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ก่อน เนื่องจากทางสถานทูตฯสะดวกในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เป็นสถานทูตแรกที่ตัวแทนทูตออกมารับหนังสือจากกลุ่มทะลุฟ้า
จากนั้น กลุ่มทะลุฟ้าเดินทางไปต่อยังสถานทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทย ระหว่างเคลื่อนขบวน ตัวแทนกลุ่มทะลุฟ้าได้ประกาศให้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาพักผ่อน ก่อนเดินทางต่อไปยังสถานทูตต่างๆ ที่เหลือตามกำหนดการ คือ สถานทูตเม็กซิโก สถานทูตสิงคโปร์ ในช่วงเวลา 15.00 น.
สำหรับหนังสือที่ทะลุฟ้ายื่นถึง 6 สถานทูตวันนี้ มีเนื้อหาความว่า
เรียน สถานทูตเวียดนาม, สถานทูตอเมริกา, สถานทูตญี่ปุ่น, สถานทูตเม็กซิโก, สถานทูตสิงคโปร์ และสถานทูตออสเตรเลีย
เรื่อง รายงานสถานการณ์ทางการเมือง แก่ผู้เข้าร่วมประชุมเอเปคในประเทศไทย
ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา มีประชาชนและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายต่างๆ อาทิ กฎหมายอาญามาตรา 112 มาตรา 116 และกฎหมายพระราชบัญญัติต่างๆ เนื่องจากออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างจากรัฐไทย อีกทั้งมีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั้งสิ้น 22 คน และไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานในการประกันตัว อาทิ กลุ่มทะลุแก๊ส ที่ถูกจับจากการชุมนุมบริเวณเขตดินแดง นักเคลื่อนไหวผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 รวมถึงเรามีสมาชิกที่ถูกคุมขังในเรือนจำ 2 คน คือ นายพรชัย ยวนยี ด้วยมาตรา 112 นายสินบุรี แสนกล้า ซึ่งโดนจับด้วยมาตรา 358 และโดนขังมาเป็นเวลากว่า 45 วัน
ดังนั้น ในการประชุม การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก (APEC) วันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 นี้ ทะลุฟ้าขอแนะนำแนวทางปฏิบัติอันเป็นที่ชื่นชอบของรัฐบาลไทย ในการมาประชุมที่ของตัวแทนแต่ละประเทศ ดังนี้
1. ห้ามแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง อาทิเช่น การชู 3 นิ้ว ซึ่งหมายถึง เสรีภาพ เสมอภาพ และ ภราดรภาพ, การผูกโบว์ขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ในการต่อต้านเผด็จการ, การใส่ชุดไทย เพราะรัฐไทยอาจฟ้องร้อง หมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามคำพิพากษาศาลอาญา หมายเลขคดีดำ อ.1265/2564 ได้
2. ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นทางการเมืองตรงข้ามรัฐบาล เพราะท่านอาจถูกคุกคาม ดำเนินคดี และถูกขังระหว่างพิจารณาคดีได้ ดังเช่น สมาชิกกลุ่มทะลุแก๊ส กลุ่มทะลุฟ้า และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองไทยหลากหลายคน ที่ออกมาส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
3. ห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้รัฐบาลเกิดความละอายใจ หรือเป็นที่ไม่พอใจของผู้มีอำนาจ เพราะท่านอาจถูกกดดันให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตอย่างราบรื่นได้ เช่นกรณีของ พลตำรวจตรีปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่ออกมาเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา และถูกกดดันจากผู้มีอำนาจจนต้องลี้ภัยไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ
4. ห้ามรวมตัวทำกิจกรรมทางการเมือง เพราะอาจจะทำให้ท่านถูกคุกคามหรือถูกเจ้าหน้าที่รัฐอาจใช้เพกาซัส ในการสอดส่องโทรศัพท์ของท่าน แนะนำให้ใช้โทรศัพท์ iPhone เพราะอย่างน้อยที่สุดท่านจะตรวจสอบได้ว่าโดนแฮกและควรอัพเดตระบบ IOS อยู่เสมอ
5. ไม่ควรยึดหลักสิทธิมนุษยชน และเคารพคุณค่าแห่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
– กรุณาอย่าส่งตัวแทนที่เป็นชาติพันธุ์ เพราะจะถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ทำกินและถิ่นอาศัยโดยแต่เดิม อย่างเช่นพี่น้องชาติพันธุ์บางกลอย
– กรุณาอย่าส่งตัวแทนที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม เพราะจะโดนฟ้องข้อหาฝาฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหมือนพี่น้อง จะนะ ที่เรียกร้องให้ยกเลิกการตั้งโรงงานนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่
– กรุณาอย่าส่งตัวแทนที่เป็นสหภาพแรงงาน เพราะจะถูกคุกคามจากผู้มีอิทธิพล เหมือนสหภาพแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก
– กรุณาอย่าส่งตัวแทนที่เป็น LGBTQIR+ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญของประเทศไทย ตัดสินว่า “รสนิยมทางเพศที่หลากหลายนั้นเป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อย และจะเอามากำหนดยกเลิกการสมรสระหว่างชายหญิงซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการก่อตั้งสถาบันครอบครัวตามธรรมชาติไม่ได้”
จึงเรียนมาเพื่อแจ้งให้ท่านได้ทราบข้อแนะนำต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกเรียบร้อยของท่านในการเดินทางมาร่วมประชุม APEC ในครั้งนี้ ด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง
26.09.2022
คนเท่ากัน เป็นธรรม เท่าเทียม
